“จุลพันธ์” มั่นใจ 1 ส.ค.นี้ ระบบ “ดิจิทัลวอลเล็ต” มีความพร้อมเปิดลงทะเบียน เตือนระวังอย่าหลงเชื่อเว็บปลอม

"จุลพันธ์" ชี้แจงกระแสผู้ว่าฯแบงก์ชาติ ร่อนหนังสือเตือน “ดิจิทัลวอลเล็ต” ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ยันไม่มีพูดถึงเรื่องวินัยการเงินการคลัง เป็นเพียงการแสดงความห่วงใยเท่านั้น มั่นใจ 1 ส.ค.ระบบมีความพร้อมเปิดลงทะเบียน

“จุลพันธ์” มั่นใจ 1 ส.ค.นี้ ระบบ “ดิจิทัลวอลเล็ต” มีความพร้อมเปิดลงทะเบียน เตือนระวังอย่าหลงเชื่อเว็บปลอม  Top News รายงาน

 

 

16 ก.ค.2567 นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ชี้แจงกรณีที่มีกระแสว่าการประชุม คณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาทผ่านดิจิทัลเล็ตวานนี้ (15 ก.ค. 67) นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย หรือ ธปท. แม้ไม่ได้เข้าร่วมการประชุม แต่ได้มอบหมายให้รองผู้ว่าการฯ เข้าร่วมประชุมแทน และมีหนังสือแสดงความเป็นห่วง ของการดำเนินโครงการ โดยเฉพาะการใช้งบประมาณ แม้จะมีการปรับลด วงเงินลงมาเหลือ 450,000 ล้านบาท แต่ยังต้องคำนึงถึงวินัยการเงินการคลัง

 

 

 

นายจุลพันธ์ จึงได้ชี้แจงประเด็นนี้ว่า กระแสข่าวที่ออกมานั้น ไม่ได้ตรงกับในที่ประชุม โดยเมื่อวานนี้ ผู้ว่าฯ ธปท. ไม่ได้เข้าร่วมการประชุมจริง เนื่องจากติดภารกิจที่ต่างประเทศ แต่ได้มีการฝากข้อห่วงใยมากับรองผู้ว่าการฯ ซึ่งมีการนำเสนอข้อห่วงใยดังกล่าวกับที่ประชุม โดยยืนยันว่า ไม่มีเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวินัยการเงินการคลัง มีเพียงข้อห่วงใยในตัวระบบ ที่ต้องมีความมั่นคงปลอดภัย และต้องขอเวลาให้ ธปท.เข้ามาดูระบบ ภายในระยะเวลา 15 วันก่อนที่จะมีการเปิดใช้ระบบ ซึ่งก็พร้อมที่จะส่งให้ ธปท. เข้ามาตรวจสอบ

ข่าวที่น่าสนใจ

ส่วนอีกประเด็นที่ ธปท.ห่วงใย คือ ให้ระวังการใช้ผิดประเภท ซึ่งคณะอนุกรรมการฯ ได้เสนอตัดสิทธิ์ กลุ่มคนที่เคย ประพฤติขัดต่อข้อตกลงโครงการของรัฐในอดีต เช่นโครงการคนละครึ่งและโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ซึ่งมีการนำเงินไปใช้ผิดประเภท โดยนำไปแลกเป็นเงินสดหรือไม่ได้ใช้บริการจริง แต่ใช้สิทธิ์เพื่อที่จะเอาเงินมาแบ่งกัน ซึ่งเคยมีคดีความเกิดขึ้น โดยกลุ่มนี้จะไม่ได้รับสิทธิ์ 10,000 บาทจากโครงการดิจิทัลวอลเล็ต รวมทั้งอาจจะโดนตัดสิทธิ์ ในโครงการช่วยเหลืออื่นๆจากภาครัฐในอนาคตด้วย

 

ส่วนกรณีการแถลงใหญ่ ในวันที่ 24 กรกฎาคมนี้ นายจุลพันธ์ กล่าวว่า นอกจากจะมีการชี้แจงถึงรายละเอียดและกรอบระยะเวลาที่ชัดเจนแล้ว จะมีการนำเอาตัวอย่างแอปพลิเคชัน มาสาธิตการเข้าใช้ระบบให้ดู ส่วนคนที่ถูกตัดสิทธิ์ระบบจะแจ้งสาเหตุ ที่ถูกตัดสิทธิ์ให้ทราบ เช่น มีรายได้เกินกว่าที่เงื่อนไขกำหนด ซึ่งระบบ จะมีกระบวนการในการอุทธรณ์ โต้แย้งสิทธ์ และหากตรวจสอบซ้ำ พบว่ามีความผิดพลาด จะมีการคืนสิทธิ์ให้

ทั้งนี้นายจุลพันธ์ ยืนยัน ระบบมีความพร้อม และสามารถเปิดลงทะเบียนได้ในวันที่ 1 สิงหาคมนี้ตามที่นายกรัฐมนตรี ประกาศเอาไว้ และประชาชนสามารถ เข้าไปยืนยันตัวตน หรือ KYC ผ่านแอปฯทางรัฐ ได้ตั้งแต่วันนี้ โดยล่าสุดมียอดการยืนยันตัวตนแล้วหลักล้านคน พร้อมเตือนประชาชนอย่าหลงเชื่อ เว็บไซต์ปลอมหลอกลงทะเบียน ซึ่งรัฐบาลจะใช้การลงทะเบียนผ่าน แอปฯ ทางรัฐเท่านั้น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

พรรคไทยก้าวหน้า แถลงขอโทษปชช. แจงคดี “สส.ปูอัด” ขอรอผ่านชั้นอัยการ ก่อนตัดสินใจขับพ้นพรรค
"นิด้าโพล" คนไทยส่วนใหญ่ เชื่อ "เพื่อไทย-ภูมิใจไทย" ขัดแย้งจริง แต่เคลียร์จบได้
มาแน่ เช็กรายชื่อ 39 จังหวัด รับมือพายุฝนถล่ม ลมแรง กทม.โดนด้วย ร้อนสุด 37 องศา
"ตม." งัดข้อมูลซัด "โรม" หน้าหงาย ระบบ Biometrics บันทึกข้อมูลทุกคน ระบบ PIBICS คุมคนต่างด้าว
สธ.แจงไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ใน "ค้างคาว" ยังไม่แพร่ระบาดสู่คน
“อี้ แทนคุณ“ เปิดเส้นเงิน 3 ล้าน โยง “ฟิล์ม รัฐภูมิ” พร้อมเผยปมใหม่เอี่ยวหลอกขายเหรียญคริปโต
"กรวีร์" ส่งหนังสือเชิญ "ธนดล" พร้อมหน่วยงานเกี่ยวข้อง ชี้แจง กมธ.ปกครอง ปมที่ดิน สปก.เขาใหญ่
"ทรัมป์" บี้หนัก ฮุบ แหล่งแร่หายาก "ยูเครน" ขู่ปิดเน็ต Starlink
เอาจริง "ตร.ปอท." บุกจับ 2 แอดมินเพจ ลักลอบจำหน่ายบุหรี่ไฟฟ้า ยึดของกลาง เกือบ 2 พันชิ้น

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น