“เผ่าภูมิ” เเจงปมแจก “ดิจิทัลวอลเล็ต” เป็นเหมือนเหรียญ 2 ด้าน ที่มองไม่ตรงกัน ชี้เจตนารบ.ต้องการกระตุ้นศก.ประเทศ

"เผ่าภูมิ" เเจงปมแจก "ดิจิทัลวอลเล็ต" เป็นเหมือนเหรียญ 2 ด้าน ที่มองไม่ตรงกัน ชี้เจตนารบ.ต้องการกระตุ้นศก.ประเทศ

Top news รายงาน วันที่ 17 ก.ค. 67 ที่รัฐสภา ในการประชุมสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณร่ายจ่ายเพิ่มเติมประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 วงเงิน 1.22 แสนล้านบาท เพื่อใช้กระตุ้นเศรษฐกิจ ผ่านโครงการดิจิทัล วอลเล็ต 10,000 บาท โดยมีนายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาคนที่สอง เป็นประธานการประชุม

โดยนายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ได้อภิปราย ว่า ขอบคุณสมาชิกที่มีข้อเสนอแนะ ข้อจำกัดต่างๆ ทุกความเห็น ทุกมิติ ทุกมุมมองนั้น เหมือนเป็นเหรียญ 2 ด้านที่เราอาจจะมองไม่ตรงกัน และสิ่งที่ไม่ตรงกันนั้นประกอบด้วย

เหรียญชิ้นที่ 1 สิ่งที่ท่านมองว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยอยู่ในภาวะชะลอตัว ตัวเลขของการลงทุนตัวเลขของอะไรต่างๆภาวะเศรษฐกิจโลกที่ยังมีความแปรปรวนต่างๆ เหล่านี้บ่งบอกว่า ในฐานะที่เป็นรัฐบาลเรามีความจำเป็นที่จะต้องกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเปรียบประเทศไทยง่ายๆเหมือนบ้านหลังหนึ่ง ปัจจุบันเราคงเห็นตรงกัน ว่า บ้านหลังนี้หลังคามันรั่ว หลังคามีรอยรั่ว เพราะฉะนั้นทุกครั้งที่ฝนตกลงมา ฝนตกเข้าบ้าน วิธีคิดของท่านคือปล่อยให้รอยรั่ว นั้นยังคงอยู่ไม่ต้องทำอะไร และน้ำลงเข้าบ้าน ต้องวักน้ำทิ้ง นั่นคือวิธีคิดที่ท่านนำเสนอ แต่วิธีคิดที่เรานำเสนอ เมื่อบ้านเรามันรั่ว เราอาจจะต้องมีการขาดดุลงบประมาณ จะต้องมีการกู้หนี้ยืมสินมาเพื่ออุดรอยรั่วนี้ เพื่อทำให้น้ำไม่เข้าบ้าน และใช้เวลาที่ตักน้ำออกจากบ้าน เอาไปทำงานอย่างอื่น นั่นคือวิธีคิดที่แตกต่างกัน

 

 

เหรียญชิ้นที่ 2 จึงเป็นมุมมองที่แตกต่างกันว่า การที่เราต้องกู้หนี้ยืมสินมาอุดรอยรั่ว หรือขาดดุลงบประมาณมาอุดรอยรั่วนั้น เราสามารถทำได้หรือไม่ในภาวะการคลังในปัจจุบัน เรียนว่า ประเด็นนี้ได้มีการสื่อสารไปแล้วหลายครั้ง จึงจะสื่อสารอีกครั้งเพื่อให้เกิดความชัดเจน ในมุมมองที่มองว่าเรากู้เต็มเพดาน เราขาดดุลงบประมาณเป็นประวัติศาสตร์ เราไม่เหลือพื้นที่การคลัง สำหรับเอาไว้ดูแลพี่น้องประชาชน แต่ในเหรียญอีกด้านหนึ่งที่เป็นข้อเท็จจริง ที่จะพาไปดูตัวเลขหนี้สาธารณะ ซึ่งหนี้สาธารณะของประเทศไทยนั้นปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 64% แต่ถ้าหากดูลงลึกไปในหนี้สาธารณะ ต้องไปดูคำนิยามของหนี้สาธารณะ ประเทศไทยใช้คำนิยามหนี้สาธารณะเข้มข้นกว่ามาตรฐานสากล เข้มข้นกว่ามาตรฐาน IMF นั่นหมายความว่านี่สาธารณะของประเทศไทยนั้น นับในสิ่งที่ IMF หรือสากลไม่นับ นั่นคือเรื่องรัฐวิสาหกิจที่รัฐบาลไม่ได้ค้ำประกัน และเป็นภาระต่อรัฐบาล ถ้าหากเรานับเลขสาธารณะตรงคำนิยามของสากล หนี้สาธารณะของเราจะอยู่เพียงแค่ 58.4% เท่านั้น ถ้าหากมองหนี้สาธารณะที่เป็นภาระต่อรัฐบาล ที่รัฐบาลต้องตั้งงบประมาณไปชดใช้ หนี้สาธารณะของประเทศไทยจะลดเหลือแค่ 54.3% เท่านั้น นั่นคือสิ่งที่เป็นภาระต่อรัฐบาลจริงๆ และถ้าเรามองตัวเลข 54.3% นี้เทียบกับต่างชาติ เทียบกับภาวะคลัง เทียบกับมาตรฐานสากล หนี้สาธารณะก้อนนี้ไม่ได้อยู่ในความกังวล อยู่ในระดับต่ำด้วยซ้ำ นั่นคือสิ่งที่ตนอยากจะเรียนว่าเราพูดถึงการขาดดุลงบประมาณเราพูดถึงการกู้ พูดถึงกู้เต็มเพดาน แต่เราไม่ยอมไปดูปลายทาง ว่าหนี้สาธารณะของเราที่เป็นจุดมุ่งหมายของเราเป็นปัญหาหรือไม่ ซึ่งคำตอบตนหนี้สาธารณะ ปัจจุบันของประเทศไทยนั้นไม่ได้เป็นปัญหาแต่อย่างใด

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เหรียญชิ้นที่ 3 ที่เรายังมองต่างกัน ที่มีการอภิปรายหยิบยกตัวเลขมาว่า เรามีการใช้เงินจำนวน 500,000 ล้านบาท และกลับเป็นผลตอบแทนเพียงแค่ 350,000 ล้านบาท และยังมีการยกตัวเลขว่าเราใช้งบประมาณ 3% ของ GDP แต่ได้ผลตอบกลับมา 1% ของ GDP นี่คือความผิดพลาดทางวิชาการ 2 ตัวเลขนี้เทียบกันไม่ได้ นอกเหนือจากนั้น ความคุ้มค่าของโครงการดิจิตอลวอลเล็ต ไม่ได้มองแค่มุมของการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ อีกด้านคือ โครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล คือข้อมูลของประชาชนที่จะเข้ามาอยู่ในระบบ และเราสามารถระบุตัวตนของประชาชนได้ มาตรการภาครัฐต่อจากนี้สามารถช่วยเหลือตรงไปที่ประชาชนได้ ประโยชน์เหล่านี้มหาศาล ต้องเอาเข้าไปรวมอยู่ในการประเมินความคุ้มค่าของโครงการ ไม่ได้มองแค่ตัวเลขล้วนๆ ซึ่งเป็นการมองที่ผิด รวมไปถึงความคุ้มค่าของระบบ ความคุ้มค่าของระบบชำระเงิน และการเข้าสู่เศรษฐกิจดิจิทัล

 

เหรียญชิ้นที่ 4 ที่ยังมองไม่ตรงกัน ที่มองว่าโครงการนี้เป็นการเอื้อรายใหญ่ ที่เงินจะไหลเข้าสู่ร้านค้าขนาดใหญ่ แต่เหรียญด้านที่เรามองแตกต่างกัน ทำไมเราจึงต้องมีการกำหนด รัศมีการใช้ให้อยู่ในอำเภอ เพราะไม่อยากให้มีการไหลเข้ากรุงเทพฯ ไม่ให้ไหลเข้าเมืองใหญ่ๆ อยากให้วนอยู่ในเมืองรอง แล้ววนอยู่ในชุมชน ไม่อยากให้เงินไหลออกนอกประเทศ อยากให้มีเงินหมุนอยู่ในหมู่บ้านชุมชน เกิดการจ้างงาน เกิดการผลิต ทำไมจึงต้องมีการตัดร้านค้าใหญ่ๆ ในรอบที่ 1 ทำไมถึงต้องอยากให้มีร้านค้าเล็กๆในการรับเงิน นี่ต่างหากที่เป็นมุมมองของเราเพื่อที่จะตัดรายใหญ่เพื่อที่จะทำให้เงินหมุนอยู่ในหมู่บ้าน ส่วนที่มองว่าเป็นการเอื้อต่างๆ ขอเรียนว่าด้วยเงื่อนไขอะไรต่างๆ ที่เรามีการกำหนด ทุกอย่าง ทุกเงื่อนไข ทุกวิธีคิด ทำให้เงินลงไปสู่ชุมชนให้มากที่สุด

เหรียญชิ้นที่ 5 ที่มีมิติมุมมองว่ารัฐบาลไม่มีมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจ อื่นๆรอแต่ดิจิตอล wallet เรียนว่ามาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจในการใส่เม็ดเงินลงไปสู่ระบบนั้น เราทำได้ทั้งในมิติของการอัดเม็ดเงินจริงและการอัดเม็ดเงินในลักษณะ สินเชื่อ ซึ่งทั้งคู่มีผลทางเศรษฐกิจคล้ายๆกัน

ทั้งนี้ นายเผ่าภูมิ กล่าวว่านี่คือ 5 ประเด็นที่อาจจะมีมุมมองไม่เหมือนกันไม่ได้บอกว่าใครผิด ไม่ได้บอกว่าใครถูก เป็น แค่มุมมองที่ไม่ตรงกัน ซึ่งในฐานะรัฐบาล เราก็มีหน้าที่ไหนในการรับฟังมุมมอง ของสมาชิกผู้ทรงเกียรติเอามาปรับ ปรุงแก้ไขให้ดีที่สุด ในขณะเดียวกันเราก็มีหน้าที่ในการที่จะชี้แจงเพื่อที่จะให้เห็นมุมมอง ให้เห็นวิธีคิด และให้เห็นวิสัยทัศน์ของรัฐบาล

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ยูเน็กซ์ อีวี" เปิดตัวแพลตฟอร์ม ขับเคลื่อนอัจฉริยะปฏิวัติอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าในไทย พร้อมจับมือพันธมิตร ธุรกิจสร้างระบบนิเวศ EV ครบวงจร
"พาณิชย์–DITP" จัดกิจกรรมจับคู่เจรจาการค้าระหว่าง ผู้ส่งออกสินค้าน้ำตาล-น้ำตาลแปรรูปกับผู้นำเข้าฟิลิปปินส์
“การรถไฟฯ” แจง ผลตรวจเหล็ก สร้างรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน เป็นไปตามเกณฑ์มาตรฐาน
"ผบ.ทบ." เยี่ยมหน่วยตรวจเลือกทหารภาคใต้ ย้ำทุกกระบวนการยึดตามระเบียบ โปร่งใส
นาทีเดือด "กลุ่ม ศปปส." ปะทะ "แกนนำกลุ่มแรงงานพม่า Bright future" หลังจะมาตั้งม็อบประท้วงหน้า UN
"กรมทางหลวงชนบท" โร่แจง ไม่เคยเป็นคู่สัญญากับ "บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 "
"ก.แรงงาน" เตรียมถกแนวทาง "หลักประกันค่าชดเชย" กรณีถูกเลิกจ้าง 9 เม.ย.นี้
จนท.นำเครื่องจักรหนักเข้าพื้นที่โซน B ได้แล้ว ลุยตัดสิ่งกีดขวางขนาดใหญ่
วอร์รูม “ก.แรงงาน” เร่งเครื่องจ่ายเงินเยียวยา เหยื่อแผ่นดินไหวแล้ว 17.4 ลบ.
"ดีอี" เตือนอย่าหลงเชื่อ ข่าวปลอม “สัญญาณเตือนสึนามิ น้ำทะเลภูเก็ตลดฮวบ หลังแผ่นดินไหวเกาะสุมาตรา”

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น