ชัดเจน ลังปลา เผยเคยมีคนเสนอขาย “ปลาหมอคางดำ”

ชัดเจน ลังปลา เผยเคยมีคนเสนอขาย "ปลาหมอคางดำ"

ภายหลังสื่อหลายสำนักเปิดเผยตัวเลขการส่งออก ปลาหมอคางดำ เป็นปลาสวยงามไปกว่า 3 แสนตัว ส่งผลให้ผู้ทำธุรกิจส่งออกปลาเคลื่อนไหวให้ข้อมูลเพิ่มเติมว่าเป็นไปได้ที่จะมีการเพาะเลี้ยงปลาชนิดนี้ในช่วงก่อนหน้าที่จะมีการประกาศห้ามของกรมประมงออกมา

ผู้ทำธุรกิจส่งออกปลาสวยงามรายหนึ่ง ระบุว่าเคยเห็นผู้มาเสนอขายปลา Blackchin Tilapia ในตลาดเช่นกัน แต่เนื่องจากตนมองว่าไม่สวยจึงไม่ได้รับซื้อไว้เพื่อส่งออก ดังนั้น หากขายไม่ได้ก็มีโอกาสที่ผู้เพาะพันธุ์ขายนั้นจะนำไปปล่อยทิ้ง พร้อมอธิบายว่า ผู้นำเข้ากับผู้ส่งออกปลาอาจเป็นคนละคนกัน เมื่อผู้นำเข้าปลามาเพาะพันธุ์แล้ว ลังปลา (หรือ ผู้รวบรวมปลาเพื่อส่งออก) ไม่ซื้อ ก็มีแนวโน้มที่จะปล่อยทิ้ง และอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดปัญหาดังที่กำลังเกิดอยู่ได้

ข่าวที่น่าสนใจ

ดังนั้น แม้จะมีข้อมูลผู้ส่งออกปลาก็อาจจะหาผู้เพาะเลี้ยงที่มาเสนอขายปลาได้เจอหรือไม่เจอก็ได้ แต่อย่างน้อยก็ทำให้รู้ว่า ผู้นำเข้าปลาหมอคางดำเข้ามายังประเทศไทยไม่ได้มีรายเดียว

สอดคล้องกับงานวิจัยของกรมประมง เรื่อง “ความหลากหลายทางพันธุกรรมกับพันธุปฎิทรรศน์ของการระบาดปลาหมอสีคางดำในประเทศไทย” โดย อภิรดี หันพงศ์กิตติกูล วงศ์ปฐม กมลรัตน์ ทิวารัตน์ เถลิงเกียรติ ลีลา และ สุภาภรณ์ ชาวสวน ที่ตีพิมพ์ในวารสารการประมงอิเล็กทรอนิกส์ ปีที่ 3 ฉบับที่ 4 ตุลาคม – ธันวาคม 2563 ซึ่งระบุว่า …. ประชากรปลาหมอสีคางดำที่แพร่กระจายในประเทศไทย มีการแบ่งเป็น 2 หรือ 3 กลุ่มย่อย ที่มีความแตกต่างทางพันธุกรรมสูง โดยประชากรในจังหวัดสมุทรสงคราม เพชรบุรี ชุมพรและประจวบคีรีขันธ์ มีความคล้ายคลึงทางพันธุกรรมมากกว่าประชากรจาก จ.ระยอง ซึ่งมีความแตกต่างทางพันธุกรรมกับประชากรอื่นๆ อย่างชัดเจน

ทั้งนี้ ค่าความหลากหลายของประชากรสัตว์น้ำต่างถิ่นจะมากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัยคือ ปริมาณสัตว์น้ำต่างถิ่นที่นำเข้า และจำนวนครั้งของสัตว์น้ำต่างถิ่นที่นำเข้า สำหรับกรณีปลาหมอสีคางดำในประเทศไทย ไม่มีประวัตินำเข้าชัดเจน มีเพียงรายงานการขออนุญาตนำเข้าจากกานา ในปี 2549 และ ในปี 2553 ได้นำเข้าจำนวน 2,000 ตัว อย่างไรก็ตาม กรมประมงเริ่มมีการควบคุมการนำเข้าสัตว์น้ำต่างถิ่นประมาณปี 2539 จึงอาจมีการนำเข้าก่อนหน้านี้ หรืออาจปะปนมากับการนำเข้าสัตว์น้ำชนิดอื่นในกลุ่มเดียวกันได้ เนื่องจากปลาในกลุ่มปลานิล (tilapiine clchlids) มีลักษณะภายนอกที่ไม่แตกต่างกันมากนัก โดยเฉพาะในวัยอ่อนและลูกปลาขนาดเล็ก

อย่างไรก็ตาม ประชากรที่จัดอยู่ในกลุ่มเดียวกันยังมีความแตกต่างของความถี่อัลลิล (หรือความถี่ยีน) ประกอบกับไม่มีความสัมพันธ์เชิงพื้นที่ระหว่างประชากรย่อย และมีค่าความหลากหลายทางพันธุกรรมต่ำ จึงมีความเป็นไปได้ว่า กลไกการแพร่กระจายของปลาหมอสีคางดำที่ระบาดไปยังจังหวัด ซึ่งอยู่ห่างออกไป เช่น ระยอง ประจวบคีรีขันธ์และชุมพร น่าจะเกิดจากการกระทำของมนุษย์ (anthropogenic process) มากกว่าการแพร่กระจายเอง

ข้อมูลทั้งจากผู้ส่งออกปลาสวยงาม และงานวิจัยของกรมประมง สะท้อนชัดเจนว่าปลาหมอคางดำที่มีอยู่ในประเทศไทยมีที่มามากกว่า 1 แหล่ง แต่ข้อมูลการขออนุญาติภาครัฐอย่างถูกต้องกลับมีระบุเพียงแหล่งเดียว

ขณะที่มีข้อมูลอีกด้านว่า มีอีกหลายประเทศที่ทำการนำเข้าปลาหมอสีคางดำ (Blackchin Tilapia) จากแอฟริกาเช่นกัน อาทิ สหรัฐอเมริกา อิสราเอล สหราชอาณาจักร สวิสเซอร์แลนด์ รวมถึงประเทศญี่ปุ่น ฮ่องกง และเกาหลีใต้ ซึ่งหมายความว่า หากประเทศไทยไม่มีระบบการป้องกันการลักลอบนำเข้าสัตว์น้ำต่างถิ่นที่ดี ย่อมสามารถแอบนำเข้าปลาชนิดนี้จากญี่ปุ่น ฮ่องกง หรือเกาหลีใต้ ซึ่งอยู่ใกล้ประเทศไทยได้อีกด้วย

หากเดินสำรวจตลาดปลาทั้งในกรุงเทพและราชบุรี หรืออีกหลายๆที่ ต้องยอมรับว่ายังพบสัตว์น้ำต่างถิ่น สัตว์น้ำแปลกๆ ปรากฏให้เลือกซื้อหามากมายหลายชนิด และมีแนวโน้มว่าจะไม่ได้ขออนุญาตนำเข้า ก็คงต้องตั้งคำถามว่า ถึงเวลาแล้วหรือยังที่ประเทศไทยต้องปรับปรุงมาตรการจัดการการลักลอบนำเข้าสัตว์ต่างถิ่นให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น การหลงประเด็นปลาหมอคางดำเพียงเพื่อตามหาว่าใครผิด อาจไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น เท่ากับการจับมือกันเดินหน้าแก้ปัญหาตามมาตรการต่างๆ ที่วางไว้ และที่สำคัญ รัฐต้องป้องกันปัญหาตั้งแต่ต้นทางด้วยการวางมาตรการจัดการการ “ลักลอบ” นำเข้าสัตว์ต่างถิ่นให้สำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมและปฏิบัติได้จริง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"ลุค อิชิคาว่า" นักแสดงลูกครึ่ง ร้องปอท.ถูกใส่ร้ายผ่านโซเชียลฯ สร้างความเสื่อมเสีย วอนชาวเน็ตอย่าเชื่อพวกหิวแสง
แน่นสำนักพม.ขอนแก่น "ผู้พิการ" แห่ต่ออายุ-ทำบัตรใหม่ รอรับเงินหมื่น
สุดเศร้า "สาวใหญ่" ร้องถูก "ผัวตำรวจ" ซ้อมอ่วม ซ้ำพยายามล่วงละเมิดลูกเลี้ยง ยันขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
บริษัทผลิตเพจเจอร์มรณะที่แท้เป็นของอิสราเอล
เลบานอนแบนเพจเจอร์และวอล์กกี้ทอล์กกี้บนเครื่องบิน
“ชนินทร์” จวก “เท่าพิภพ” หยุดเอาดีเข้าตัว ป้ายผู้อื่นเป็นโจรสลัด ชี้ปมร่างสุราก้าวหน้า ถ้าอยากเปลี่ยนแปลง ต้องแสวงหาความร่วมมือ
คุณยายครูเบญเปิดใจทั้งน้ำตา หลังจากที่หลานสาวสอบติดพนักงานราชการแต่ชื่อหาย
"ซีอีโอ TSB" เปิดใจ พัฒนารถเมล์ก้าวสู่ปีที่ 3 พร้อมรับฟัง-นำข้อมูลปรับปรุงทุกจุด ประกาศชัด "รถเมล์คนไทยโตอย่างยั่งยืน"
ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทราร่วมกิจกรรมประชุมสภากาแฟครั้งสุดท้าย ก่อนเกษียณอายุราชการ พร้อมปล่อยพันธุ์กุ้งกุลาดำจำนวน 2 แสนตัว เนื่องในวันคล้ายวันสถาปนากรมประมง
"พิพัฒน์-สุรศักดิ์" จับมือ สร้างโอกาส นศ.ทำงานปิดเทอม หมื่นอัตรา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น