“บอร์ดแพทยสภา” ลงมติตั้งข้อกล่าวโทษ “หมอเกศ” อ้างเชี่ยวชาญความงามไร้การรับรอง ส่อผิด พ.ร.บ.วิชาชีพ

“บอร์ดแพทยสภา” ลงมติตั้งข้อกล่าวโทษ “หมอเกศ” อ้างเชี่ยวชาญความงามไร้การรับรอง ส่อผิด พ.ร.บ.วิชาชีพ

งานเข้าไม่หยุด ไม่พักไม่แผ่วเลยทีเดียว สำหรับ หมอเกศ” หรือ “ศาสตราจารย์ ดร.พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย” เพราะว่าล่าสุด มีรายงานข่าวแจ้งว่า ที่ประชุมกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 11/2567 เมื่อวันที่ 11 ก.ค. ที่ผ่านมา ได้มีการหยิบยกประเด็นคุณสมบัติของ “หมอเกศ” ส.ว.กลุ่ม 19 ผู้ประกอบวิชาชีพ ผู้ประกอบอาชีพอิสระ กรณีกรอกประวัติเป็น “แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวพรรณและความงาม” ขึ้นมาพิจารณา เนื่องจากเห็นว่า เป็นความเชี่ยวชาญที่ไม่ได้มีการรับรอง โดยที่ประชุม มีมติตั้งข้อกล่าวโทษ หมอเกศ ตามมาตรา 32 วรรคสาม พระราชบัญญัติวิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 มอบหมายให้เลขาธิการแพทยสภา ดำเนินการตามข้อบังคับแพทยสภา ว่าด้วยวิธีพิจารณาจริยธรรมผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม. พ.ศ. 2563 โดยจากนี้จะมีการนำเข้าที่ประชุมกรรมการแพทยสภาอีกครั้ง ในวันที่ 8 ส.ค.นี้ ตามรอบการประชุมกรรมการแพทยสภา ทุกวันพฤหัสบดี ที่ 2 ของเดือน ซึ่งตามขั้นตอนแล้ว หากมีมติรับรอง ก็จะส่งเข้าที่ประชุมอนุกรรมการจริยธรรมเพื่อพิจารณาต่อไป

 

 

โดยวันเดียวกันนี้ พลอากาศโท นายแพทย์ อิทธพร คณะเจริญ เลขาธิการแพทยสภา โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวถึงประเด็น “94 ความเชี่ยวชาญแพทย์ไทย และการแอบอ้างความเชี่ยวชาญ” โดยระบุว่า แพทยสภาชวนมารู้จักความเชี่ยวชาญของแพทย์ไทย ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ดังนี้

1. แพทยสภาเป็นผู้กำกับดูแล หลักสูตรความเชี่ยวชาญของแพทย์ไทยด้านต่างๆ ผ่านราชวิทยาลัยแพทย์และวิทยาลัยแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญ ทั้ง 15 แห่ง และ 1 สมาคมเวชศาสตร์ป้องกันฯ เป็นผู้กำหนดมาตรฐาน โดยมีคณะแพทยศาสตร์และสถาบันฝึกอบรมต่างๆ เป็นผู้จัดการเรียนการสอน ภายใต้มาตรฐานเดียวกัน

2. แพทยศาสตร์บัณฑิต ที่จบการศึกษา 6 ปี ถือว่าเป็นแพทย์ทั่วไป ยังไม่มีความเชี่ยวชาญใดๆ ต้องเข้าโปรแกรมการฝึกอบรมต่อ แพทย์ประจำบ้าน อีก 3 ถึง 7 ปี จึงเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญตามกฎหมาย โดยต้องสอบผ่าน ได้รับบัตรอนุมัติ หรือวุฒิบัตรก่อน ถึงจะใช้คำว่าแพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ โดยสามารถตรวจสอบชื่อ และความเชี่ยวชาญของแพทย์แต่ละท่าน ได้ที่เว็บไซต์แพทยสภา www.tmc.or.th หัวข้อตรวจสอบแพทย์

3. ปัจจุบันมีความเชี่ยวชาญ ที่ได้รับวุฒิบัตรและบัตรอนุมัติ ตามกฎหมาย 94 สาขา (2567) เป็นสาขาหลัก 41 สาขา และอนุสาขา 53 สาขา ภายใต้อนุกรรมการฝึกอบรมและสอบ ของราชวิทยาลัยและสมาคม โดยมีระยะเวลาการอบรม ตั้งแต่ 3-5 ปี ในสาขาหลัก (สีฟ้า) และเรียนต่ออนุสาขา เพิ่มอีก 2 ปี (สีดำ) ปัจจุบันมีแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ กว่า 40,000 คน จากแพทย์ทั่วประเทศ 76,000 คน โดยจบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญปีละกว่า 2,000 คน

 

ข่าวที่น่าสนใจ

4. การอบรมระยะสั้น หรือฝึกอบรม โดยสถาบันวิชาการต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ ที่ไม่ได้รับการรับรองโดยแพทยสภา เป็นการอบรมเพื่อเพิ่มความรู้นั้น แม้ได้รับประกาศนียบัตรจากองค์กร ไม่สามารถใช้คำว่า เป็นผู้มีความรู้ความชำนาญเฉพาะสาขาหรือผู้เชี่ยวชาญตามกฎหมายได้ เช่นเดียวกับแพทย์จะโฆษณาว่า ทำมานาน จำนวนมากราย แล้วจะโฆษณาเป็นผู้เชี่ยวชาญไม่ได้ ต้องผ่านการอบรมมาตรฐานเท่านั้น

5. การอ้างเป็นผู้ชำนาญการเฉพาะสาขา หรือผู้เชี่ยวชาญ ถือเป็นความผิด ตามกฎหมาย ทั้งข้อบังคับ จริยธรรมแพทยสภา และพรบ.วิชาชีพเวชกรรม ดังนี้
5.1 กรณีเป็นแพทย์ จะผิดข้อบังคับจริยธรรม ถูกตั้งคณะกรรมการจริยธรรมสอบสวนข้อมูล และมีมติกรรมการแพทยสภาลงโทษ มีโทษตั้งแต่ตักเตือน ภาคทัณฑ์ พักใช้ใบอนุญาต จนถึงเพิกถอนทะเบียนใบประกอบวิชาชีพเวชกรรม ซึ่งอยู่ในอำนาจแพทยสภา และมีการลงโทษแทบทุกเดือน
5.2 ผิดกฎหมายเป็นคดีบ้านเมืองต่อจาก คดี 5.1 คือผิดตามพรบ.วิชาชีพเวชกรรม พ.ศ. 2525 มาตรา 28 ซึ่งมีโทษตามมาตรา 44 คือ จำคุกไม่เกิน 1 ปี และปรับไม่เกิน 10,000 บาท และหากมีความเสียหายต่อผู้ป่วย จะเป็นคดีแพ่ง และอาญาต่อไป จะเป็นการดำเนินคดีโดยตำรวจ หลังผิด 5.1

6. ดังนั้น การอ้าง หรือโฆษณาต่อประชาชน ว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญ 1 ใน 94 สาขา โดยไม่ได้จบการศึกษาจริง ถือเป็นความผิด และการอ้างสาขาความเชี่ยวชาญ ที่ไม่ได้อยู่ใน 94สาขาตามกฎหมาย โดยตั้งขึ้นใหม่ ตามประสบการณ์ตนเอง เพื่อประโยชน์ในการโฆษณา เป็นความผิดเช่นกัน เช่นผู้เชี่ยวชาญด้าน ความงาม ผิวพรรณ ร้อยไหม ปรับโครงสร้างใบหน้า ฯลฯ ซึ่งมีผู้แจ้งเป็นเรื่องร้องเรียนและดำเนินคดีกันทุกเดือน ถ้าพบเห็นส่งหลักฐานแจ้งทางเว็บไซต์แพทยสภาได้ครับ

7. ในการประชุมแพทยสภา ครั้งที่ 7 วันที่ 11 ก.ค. 2567 ได้มีมติให้ตรวจสอบคุณวุฒิแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหลายรายในโฆษณา รวมถึงตรวจสอบความเชี่ยวชาญทางการแพทย์ ของวุฒิสมาชิก ที่ปรากฏในสื่อ หากไม่ถูกต้อง มีมติให้ดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้อยู่ระหว่างดำเนินการ

8. สำหรับ สาขาที่มีการสอบถามจากประชาชนบ่อยครั้ง ว่าเป็นสาขาเชี่ยวชาญหรือไม่ เช่น ชะลอวัย ความงาม เสริมสวย เหล่านี้ ยังไม่อยู่ใน 94 สาขาความเชี่ยวชาญ ที่แพทยสภารับรองตามกฎหมาย จึงไม่สามารถใช้คำว่า เชี่ยวชาญด้านความงาม หรือเสริมสวย หรือชะลอวัยได้ คุณหมอโปรดตรวจสอบ และระมัดระวังด้วย

 

 

 

 

 

 

ล่าสุด ทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายความของหมอเกศ โพสต์ข้อความว่า “เรียนพี่น้องสื่อมวลชน คุณหมอเกศ แจ้งมายังทนายเดชาว่า ไม่มีความประสงค์ที่จะให้ข้อมูล หรือให้สัมภาษณ์ใดๆ ทั้งสิ้นอีกต่อไป”

-ดังนั้นหลังจากนี้ไป ทนายเดชาก็จะไม่มีข้อมูลให้กับพี่น้องสื่อมวลชนอีกแล้วนะครับจนกว่าจะได้รับการแจ้งจากคุณหมอ
-นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมไม่ต้องตอบคำถามสื่อมวลชนแล้วนะครับ รวมถึง FC ก็ไม่ต้องมาถามผมแล้วนะครับ เพราะเป็นคำสั่งของลูกความ มีความประสงค์ที่จะให้ข้อมูลแค่วันนี้เท่านั้นนะครับ
-หลังจากนี้เป็นต้นไป ผมคงนำเสนอข่าว หรือให้ความรู้ทางกฎหมายเกี่ยวคดีอื่นต่อไปนะครับ คดีหมอเกศ คงไม่ต้องมาถามผมแล้วนะจ๊ะ จุ๊กกรู

 

 

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

รวบคู่รักวัยรุ่น อ้างเป็นกรรมการวัดดัง เปิดเพจรับบริจาคบูรณะวิหารหลวง ตุ๋นเงินทำบุญกว่า 2 แสนบาท
เลือกตั้งสหรัฐ: แฮร์รีสย่องเงียบโผล่ Saturday Night Live
สหรัฐปรามอิหร่านอย่าคิดเอาคืนอิสราเอล
ผู้นำสูงสุดอิหร่านขู่จะตอบโต้ทั้งอิสราเอลและสหรัฐ
ญี่ปุ่นสั่งอพยพประชาชนเกือบ 2 แสนหลังฝนถล่ม
“อดีตสว.สมชาย” แนะรบ.นำเรื่องยกเลิก MOU 44 เข้าสภาฯ โดยเร็ว
"นายกฯ" ขอบคุณ "ประชาชน" เชื่อมั่น ทำคะแนนนิยมพุ่ง ยันทำงานหนักต่อไปแก้ปัญหาประเทศ
ลือสนั่น ป.ป.ช.จ่อแจ้งจับก๊วนหมอชั้น 14 “กูรู” ฟันเปรี้ยง! เข้าคุกระนาว
อึ้ง! “สส.ไอซ์” ยกพม่าขับเคลื่อนเศรษฐกิจ หากจับส่งกลับ ไทยเดือดร้อนแน่
เอ็นดูไม่ไหว! "หนูน้อยวัย 3 ขวบ" โชว์สเต็ปฝีพาย กลายเป็นไวรัล ล่าสุด "ผบ.ทร." ได้ส่งชุดทหารเรือจิ๋วสุดเท่ให้เป็นของขวัญ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น