“บิ๊กจ๋อ” แถลงจับ “บาส” โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 40 บาท ย่านมีนบุรี พบประวัติโชกโชน

“บิ๊กจ๋อ” ร่วมสอบปากคำ โจรบุกเดี่ยวชิงทอง หนัก 40 บาท กลางห้างดัง เผยมูลเหตุจูงใจ เนื่องจากต้องการหาเงินไปซื้อเคตามีน มาเสพ และหาเงินใช้จ่าย เผยประวัติก่อเหตุสุดโชกโชนถึง 4 ครั้ง แต่ไม่เคยถูกจับ จึงย่ามใจก่อเหตุอุกอาจครั้งนี้ จ่อขยายผลเรื่องยาเสพติดและรับของโจร

“บิ๊กจ๋อ” แถลงจับ “บาส” โจรบุกเดี่ยวชิงทอง 40 บาท ย่านมีนบุรี พบประวัติโชกโชน – Top News รายงาน

เมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2567 เวลา 18.30 น.ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวนกองบัญชาการตำรวจนครบาล (บก.สส.บช.น.) เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนนครบาล ควบคุมตัวนายพงษ์ศธร หรือบาส มะหะมาน อายุ 26 ปี ผู้ต้องหาวิ่งราวทรัพย์ พร้อมของกลาง รถยนต์ที่ใช้หลบหนี ซึ่งจากการตรวจค้น พบขวดน้ำกระท่อม 7 ขวด วางอยู่เบาะหลังภายในรถ มาทำการสอบปากคำโดยมี พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล เข้าร่วมสอบสวนผู้ต้องหาด้วย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวนายพงษ์ศธร ลงจากรถนั้น นายพงษ์ศธร ได้เดินก้มหน้า และไม่ตอบคำถามใด ๆ ต่อสื่อมวลชน

หลังใช้เวลาในการสอบปากคำประมาณ ครึ่งชั่วโมง พล.ต.ต.ธีรเดช ได้ออกมาเปิดเผยว่า ผู้ก่อเหตุ รับสารภาพว่า ไม่ได้ก่อเหตุในลักษณะนี้เป็นครั้งแรก สำหรับมูลเหตุจูงใจครั้งนี้ เนื่องจากต้องการเงินไปซื้อยาเสพติด (เคตามีน ) และหาเงินใช้จ่ายทั่วไป โดยหลังก่อเหตุ ได้นำทองคำ 4 บาทไปขายที่ร้านทองแห่งหนึ่ง นำเงินที่ได้มาซื้อรถยนต์ของกลาง เพื่อใช้ในการหลบหนี และซื้อ เคตามีนมาเสพ

 

 

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวต่อว่า ผู้ต้องหายังให้การสารภาพต่อว่า ก่อเหตุเพียงคนเดียวและที่เลือกร้านทองแห่งนี้ เนื่องจากมีเส้นทางหลบหนีง่าย ไม่มีประตูเหล็กหรือระบบรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนา ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาติดเกม ไม่ได้มีผลโดยตรงกับการก่อเหตุ แต่น่าจะเป็นนิสัยส่วนตัวของผู้ก่อเหตุมากกว่า หลังจากนี้จะการขยายผลในเรื่องของยาเสพติดว่า ผู้ต้องหาไปซื้อยาเสพติดมาจากใครและขยายผลในเรื่องของทองคำที่นำไปขายว่าเหตุใดร้านทองจึงรับซื้อต่อ

 

ทั้งนี้ หลังจับกุม เจ้าหน้าที่ตำรวจ สามารถติดตามทรัพย์สินของกลาง มาได้จำนวนหนึ่ง ประกอบด้วยทองคำ 22 เส้น เส้นละ 1 บาท เงินสดที่เหลือจากการขายทอง ประมาณ 10,000 บาท โทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง และเคตามีน 43.21 กรัม

พล.ต.ต.ธีรเดช กล่าวอีกว่า ผู้ต้องหายังให้การรับสารภาพ ว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้ไปยืมรถจักรยานยนต์กับเพื่อนที่ร้านเกมย่านร่มเกล้า แล้วขับขี่ไปก่อเหตุ โดยมีการขับขี่วนดูสถานที่ก่อเหตุก่อน 1 รอบ ขณะก่อเหตุ สวมเสื้อคลุมแขนยาวสีดำ สวมแมสก์พร้อมอาวุธคือหน้าไม้ แต่ก็ไม่ทราบว่าได้ทองไปเท่าไหร่ หลังก่อเหตุได้ขับขี่รถจยย. หลบหนีไปเปลี่ยนชุดที่บ้านและเอาทองไปจำนำที่โรงจำนำแห่งหนึ่ง ได้เงินสด 130,000 บาท หลังจากนั้นเอารถจักรยานยนต์ของเพื่อนไปจอดทิ้งไว้ แล้วนั่งแท็กซี่เพื่อไปซื้อรถเก๋งมือสองด้วยเงินสด

บิ๊กจ๋อ

จากการตรวจสอบประวัติพบว่า ผู้ต้องหารายนี้เคยมีประวัติการก่อเหตุ มาแล้ว 3 ครั้ง

1.ชิงทรัพย์ปั๊มน้ำมัน บางจาก โดยใช้าวุธมีด ซอยกาญจนาภิเษก 12 เมื่อวันที่ 25 มิ.ย.67 เวลา 20.21 น. ได้ทรัพย์สินไป 5,410 บาท

2.ชิงทรัพย์ร้านซีเจ เอ็กเพลส โดยใช้อาวุธมีด ซอยกาญจนาภิเษก 12 เมื่อวันที่ 13 ก.ค.67 เวลา 19.57 น. ได้ทรัพย์สินไป 3,700 บาท

3.ชิงทรัพย์ร้านเซเว่นฯ โดยใช้อาวุธมีด ซอยกาญจนาภิเษก 13 เมื่อวันที่ 15 ก.ค.67 เวลา 23.07 น ได้ทรัพย์สินไป 5,157 บาท แต่ไม่เคยถูกจับกุมกระทั่งมาก่อเหตุชิงทองในครั้งนี้จึงถูกจับกุม

 

 

 

 

ทั้งนี้ พล.ต.ต.ธีรเดช ฝากสำหรับร้านค้า หรือผู้ประกอบการร้านใด ที่ถูกผู้ก่อเหตุ เคยก่อเหตุในลักษณะนี้มาก่อน สามารถติดต่อเข้ามาได้ที่ สน.มีนบุรี และสน.บางชัน เพราะเชื่อว่าผู้ต้องหาไม่น่าจะลงมือก่อเหตุแค่ 4 ครั้ง เนื่องจากพบว่ามีประวัติการก่อเหตุมาหลายครั้ง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

นายกฯ รับรายงาน ตร.ไทย-กัมพูชา ร่วมมือทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ฝั่งปอยเปต ช่วยเหยื่อคนไทยนับร้อย หลุดพ้น
“เทพไท” เชื่อ 44 อดีตสส.ก้าวไกล ลงชื่อรื้อ แก้ 112 ถูกตัดสิทธิ์ กระทบหนักยิ่งกว่าถูกยุบพรรค
"หม่องชิต ตู่" ส่งกำลังทหารกว่า 150 นาย คุมเข้มเคเคปาร์ค จับหัวหน้าแก๊งคอลเซนเตอร์ กวาดต้อน 450 เหยื่อต่างชาติ
ใต้ป่วนต่อเนื่อง คนร้ายลอบวางบึ้มหน้าร้านสะดวกซื้อ บันนังสตา ตร.เจ็บ 7 นาย-ชาวบ้านอีก 4 เช้านี้บึ้มรถยนต์อีก หน้าห้างสนามบินนราฯ
พรรคไทยก้าวหน้า แถลงขอโทษปชช. แจงคดี “สส.ปูอัด” ขอรอผ่านชั้นอัยการ ก่อนตัดสินใจขับพ้นพรรค
"นิด้าโพล" คนไทยส่วนใหญ่ เชื่อ "เพื่อไทย-ภูมิใจไทย" ขัดแย้งจริง แต่เคลียร์จบได้
มาแน่ เช็กรายชื่อ 39 จังหวัด รับมือพายุฝนถล่ม ลมแรง กทม.โดนด้วย ร้อนสุด 37 องศา
"ตม." งัดข้อมูลซัด "โรม" หน้าหงาย ระบบ Biometrics บันทึกข้อมูลทุกคน ระบบ PIBICS คุมคนต่างด้าว
สธ.แจงไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ใน "ค้างคาว" ยังไม่แพร่ระบาดสู่คน
“อี้ แทนคุณ“ เปิดเส้นเงิน 3 ล้าน โยง “ฟิล์ม รัฐภูมิ” พร้อมเผยปมใหม่เอี่ยวหลอกขายเหรียญคริปโต

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น