เมื่อวันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2567 ที่โรงเรียนจุฑาทิพย์ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา นางปิณฑิรา เก่งการพาณิช นายอำเภอพนมสารคาม พร้อมด้วยนายไพบูลย์ พิณอุไร นายกเทศมนตรีตำบลพนมสารคาม ร่วมขบวนแห่เทียนจำนำพรรษาประจำปี พ.ศ.2567 ซึ่งมีนางจุฑาทิพย์ พาลพ่าย ผู้อำนวยการโรงเรียนจุฑาทิพย์ คณะครู นักเรียนให้การต้อนรับ โดยขบวนได้เดินออกจากโรงเรียนจุฑาทิพย์ แล้วเลี้ยวขวาเข้าสู่ถนนพนมพัฒนาก่อนไปกลับลำขบวนที่หน้าโรงเรียนพนมสารคาม พนมอดุลวิทยาแล้วเดินย้อนกลับเข้าถนนพนมพัฒนามุ่งหน้าสู่วัดท่าเกวียน ก่อนที่คณะครู นักเรียนจะได้นำต้นเทียนพรรษาถวายแด่พระสงฆ์
สีสันของริ้วขบวนระยะทางไปกลับ กว่า 1 กิโลเมตร ที่ฟ้าฝนเป็นใจไร้แดด ไร้ฝน เด็กๆทุกช่วงชั้น อนุบาล ยันประถม 6 ทั้งเต้น ทั้งแดนช์ในแบบสนุกสนานเป็นขบวนพาเหรดในส่วนงานจราจรที่ถนนไม่มีรถติดสะสม ก็เพราะมีมาสคอตตำรวจจราจร จาก สภ.จุฑาทิพย์ ทราบชื่อคือเด็กชาย นราธิป เรืองฉาย ชั้น ป.6/2 ที่ถือว่าแข็งแรงมาก ผู้สื่อข่าวยังได้ถามเด็กหญิงณปภัช กัญญาหัตถ์ ที่ควงกระฑาในชุดสีเขียวถึงความรู้สึกที่ร่วมในกิจกรรมวันนี้เป็นวันอะไร น้องยิ้มเขิญอายๆแบบน่ารัก
ด้าน นางจุฑาทิพย์ พาลพ่าย กล่าวว่า เนื่องจากวันเข้าพรรษาทางโรงเรียนก็ได้มีนโยบายการแห่เทียนเจำนำพรรษาตามประเพณี และปีนี้ได้เป็นปีพิเศษของการเฉลิมพระเกียรติพระบามสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ครบ 6 รอบ 72 พรรษาด้วย ทั้งนี้ในขบวนส่วนหนึ่งได้มีการแต่งกายด้วยชุดหลากสีสัน ซึ่งกฏหมายของรัฐบาลไทยได้เปิดโอกาสให้ LGBTQ มีสิทธิสมรสเท่าเทียม จึงออกมาเป็นขบวน “ของแทร่” ซึ่งเป็นการบ่งบอกว่าวันนี้สิทธิถึงความเสมอภาคของประชาชน ซึ่งทางโรงเรียนจุฑาทิพย์ก็ขอสนองและสนับสนุนนโยบายของทางรัฐบาลในร่าง พรบ.สมรสเท่าเทียม
สำหรับประเพณีแห่เทียนพรรษานั้น เนื่องจากสมัยก่อนพระภิกษุสงฆ์ไม่มีไฟฟ้าใช้ ชาวบ้านจึงหล่อเทียนต้นใหญ่ขึ้น เพื่อถวายพระภิกษุสงฆ์จุดให้แสงสว่างในการปฏิบัติกิจวัตรต่างๆ เป็นพุทธบูชาตลอดเวลา 3 เดือน การนำเทียนไปถวายชาวบ้านมักจัดขบวนแห่กันอย่างสนุกสนานและปฏิบัติสืบทอดกันมาจนกลายเป็นประเพณีสืบมาในปัจจุบัน
สราวุฒิ บุญสร้าง ผู้สื่อข่าวภูมิภาคฉะเชิงเทรา