เพจเฟซบุ๊ก ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เผยแพร่บันทึกทนายความเยี่ยมอานนท์-ไผ่: ประเมินแล้วอาจจะต้องอยู่ยาว โดยประเด็นสำคัญของบันทึกดังกล่าวระบุว่า หากนับเวลาที่ ไผ่ ดาวดิน และอานนท์ นำภา ถูกคุมขังในรอบนี้นั้นนานกว่าหนึ่งเดือนแล้ว ไผ่ถูกฝากขังเมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2564 และอานนท์ถูกฝากขังเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม 2564 แต่ทั้งสองคนยังต้องอยู่ที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง เพราะไผ่ติดโควิด และเพิ่งถูกย้ายกลับมาจากทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ ส่วนอานนท์ซึ่งเคยติดโควิดในเรือนจำคราวก่อน ในคราวนี้เพื่อนร่วมห้องขังของเขาแทบทั้งหมดติดโควิด และถูกย้ายออกไปรักษาตัว แม้อานนท์จะยังไม่ติดซ้ำ แต่ทำให้ต้องเริ่มนับระยะเวลากักตัวใหม่ เพราะอยู่ใกล้ชิดกับกลุ่มผู้ติดเชื้อ
เราเริ่มจากข่าวดีของวันว่า คดีสาดสีหน้า ตชด. ที่เพนกวิน ไมค์ บอย ฟ้า และณัฐ ถูกขังอยู่นั้น ศาลอุทธรณ์ภาค 1 ได้อนุญาตให้ประกันตัวแล้ว หลังจากนั้นเราอ่านคำสั่งศาลอุทธรณ์ ให้อานนท์ฟังว่า คำสั่งไม่อนุญาตประกันตัวได้พิจารณาไปถึงเนื้อหาว่าเป็นถ้อยคำมิบังควร ทั้งที่คดียังไม่ได้เริ่มพิจารณา แต่ก็เสมือนว่าศาลได้ตัดสินไปก่อนแล้ว อีกทั้งข้อเท็จจริงที่ศาลอุทธรณ์หยิบยกมาพิจารณาว่าอานนท์ผิดเงื่อนไขประกันต่อศาลอาญานั้นก็คลาดเคลื่อน เพราะคดีดังกล่าวยังไม่มีการไต่สวนหรือถอนประกันเพราะผิดเงื่อนไขแต่อย่างใด ทั้งศาลอุทธรณ์ยังพิจารณาไปถึงกิจกรรมคาร์ม็อบ ที่ไม่มีความเสี่ยงในการแพร่เชื้อโรคใดๆ และไม่ได้ก่อความวุ่นวาย พอฟังคำสั่งจบ อานนท์ให้ความเห็นว่า “เขาคงไม่อยากปล่อย ผมประเมินว่าผมอาจจะต้องอยู่ยาว” อย่างไรก็ตาม เราคุยกันว่าในวันศุกร์นี้ 17 กันยายน จะครบกำหนดระยะเวลาการฝากขัง ซึ่งทีมทนายความจะยื่นคัดค้านและขอไต่สวนการฝากขังอีก
หลังจากนั้น เราได้คุยกับไผ่ เราอ่านคำสั่งไม่อนุญาตประกันตัวให้ไผ่ฟัง ว่า ที่ประชุมผู้บริหารศาลทุกคนมีมติ เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2564 ไม่อนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว เนื่องจากเกรงว่าผู้ต้องหาจะไปก่อเหตุร้ายประการอื่น เราจึงคุยถึงแนวทางในการยื่นประกันครั้งต่อไป แต่สำหรับไผ่ไม่มีโอกาสที่จะคัดค้านฝากขังในครั้งหน้าอีก เพราะคดีสาดสีป้ายหน้า สน.ทุ่งสองห้อง, คดีสาดสีหน้าพรรคภูมิใจไทย ฝากขังได้ไม่เกิน 4 ครั้ง รวม 48 วัน ซึ่งอัยการต้องดำเนินการยื่นฟ้องให้ทัน 48 วัน หากอัยการสั่งฟ้องในสองคดีดังกล่าว ก็จะเป็นการขังระหว่างพิจารณาที่ไม่มีกำหนดระยะอีกจนกว่าคดีจะมีคำพิพากษา
ไผ่ฝากข้อความออกมาสื่อสาร “การฝากขังครั้งนี้ คือการเอาพวกเราเข้าคุก เพื่อปกป้องประยุทธ์ จันทร์โอชา ประยุทธ์เคยท้าทายประชาชนว่าให้ไปไล่ดูสิ แต่พอพวกเราออกไปไล่ประยุทธ์ก็จับเราเข้าคุก ประยุทธ์ไม่แน่จริงนี่หว่า” ไผ่ยังคงยืนเด่นโดยท้าทาย แม้จะอยู่ในเรือนจำก็ตาม ไม่เห็นหน้า เห็นแต่กำแพงสูง ได้ยินเพียงเสียง แต่ยังไม่ได้รับความยุติธรรม