เมื่อวันที่ 20 ก.ค.67 เวลา 09.00 น. ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ บ้านไทยสบาย ต.สามผง อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ได้พบ นายศุภชัย โพธิ์สุ ครูแก้ว อดีต รมช.เกษตรและสหกรณ์/อดีตรองประธานสภาผู้แทนราษฎร ปัจจุบันดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า ปัจจุบันหันมาสนใจดูแลด้านการเกษตรมากขึ้น จากที่เคยปลูกอ้อย มันสำปะหลัง หลายร้อยไร่ แต่ไ่ม่มีเวลาดูแลอย่างจริงจัง เนื่องจากช่วงนั้นงานการเมืองยุ่งมาก จึงทำให้ไม่ได้ผลผลิตเท่าที่เราต้องการ ต่อมาเพื่อนที่อยู่ จ.จันทบุรี แนะนำว่า พืชที่น่าจะทำรายได้และตลาดมีอนาคตที่ดี คือทุเรียน โดยแต่ละปีจะมีรายได้จากการขายทุเรียนร่วม 30 ล้านบาท อีกทั้งสังเกตุที่ จ.บึงกาฬก็ทำการปลูกทุเรียนได้ผลผลิตที่ดี ทำให้เชื่อว่าพื้นที่ของ จ.นครพนม ก็น่าจะปลูกได้ด้วยเช่นกันจึงเริ่มทดลองปลูกทุเรียนในพื้นที่สวนของตัวเองเมื่อหลายปีก่อนมา ซึ่งในปีนี้ก็ได้ผลผลิตเก็บเกี่ยวมาขาย จากราคาขายตามท้องตลาดทั่วไปขายกก.ละ 200-300 บาท แต่ตนขายเพียง กก.ละ 150 บาท ทั้งแจกทั้งแถม ได้เงินมา 9 หมื่นกว่าบาท ยังได้แจกเพื่อนสนิทมิตรสหายไปชิมอีกหลายสิบลูก จึงทบทวนแนวคิด น่าต่อยอดปลูกทุเรียนให้มากขึ้น และจะเปิดเป็นสวนเรียนรู้ให้พี่น้องเกษตรกรมาศึกษาดูงานหรือนำต้นพันธุ์ทุเรียนไปปลูกในพื้นที่ของตัวเอง จึงมีที่มาของการจัดกิจกรรมการปลูกทุเรียนบนเนื้อที่ทั้งหมด 93 ไร่ ที่บ้านไทยสบาย ต.สามผง อ.ศรีสงคราม โดยตนได้ตัดสินใจตัดต้นยางพาราไปขายได้เงินมา 2 ล้านกว่าบาทปรับพื้นที่เพื่อปลูกต้นทุเรียน โดยเว้นระยะการปลูกระยะของต้นประมาณ 12 เมตร ทำเป็นเนินเหมือนคว่ำกระทะ ก็จะใช้ปลูกต้นทุเรียนประมาณ 1,120 ต้น