“ความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ เกิดจากการให้โอกาส” เป็นหัวข้อที่ พ.ต.อ.เนติ วงษ์กุหลาบ รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ได้ขึ้นมาแลกเปลี่ยนประสบการณ์บนเวที ภายในงาน VISION TALK ครั้งที่ 2 : ถอดรหัสความคิดสู่เส้นทางความสำเร็จ : เมื่อวันที่ 16 ก.ค. 67 ที่ผ่านมา ที่สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ โดยได้ถ่ายทอดประสบการณ์ตรง สร้างแรงบันดาลใจให้นักศึกษาที่เข้าร่วมงานมากกว่า 300 คน ณ Auditorium ชั้น16 อาคาร CP All Academy
“รองโฟ๊ก” หรือ พันตำรวจเอก เนติ วงษ์กุหลาบ รองผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ผู้ซึ่งได้รับรางวัลข้าราชการพลเรือนดีเด่น ครุฑทองคำ ประจำปี 2566 ซึ่งเป็นรางวัลสูงสุดของข้าราชการ และเป็นคนเดียวที่คิดค้นวางระบบสายตรวจอัจฉริยะของ “กองปราบ”
“รองโฟ๊ก” มีประสบการณ์ทำงานทุกสายงานของตำรวจ ทั้งสืบสวน สอบสวน งานปราบปราม งานจราจรและงานฝ่ายอำนวยการ และยังเป็นผู้อยู่เบื้องหลังสื่อ social media ของกองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ควบคุมทั้งหมดในฐานะหัวหน้าทีม จนทำให้ “ตำรวจสอบสวนกลาง” กลายเป็นหน่วยงานราชการหน่วยงานแรกที่ได้รับรางวัล Tiktok Award 2566 นอกจากนี้ “รองโฟ๊ก” ยังเป็น ผู้ริเริ่มและดำเนินการโครงการ “ส่งรัก ปันสุข” ช่วยเหลือตำรวจและครอบครัวที่บาดเจ็บและเสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
เส้นทางการเป็น “ข้าราชตำรวจ” ของ “รองโฟ๊ก” ก้าวไปอย่างมั่นคงเติมโตในหน้าที่การงานเพราะความสามารถและประสิทธิภาพของตัวเองคือแรงผลักส่ง จนทำให้เค้าได้รับเลือกมาเป็นบุคคลที่สร้างแรงบันดาลใจให้นักศึกษาในวันนี้
“รองโฟ๊ก” บอกกับเราว่า การมาเยือนที่ PIM แห่งนี้เหมือนได้กลับมาที่บ้าน เพราะนอกจากจะรับราชการตำรวจแล้ว ยังได้รับเกียรติเป็นที่ปรึกษาให้กับบริษัทซีพีออล์ ตอนแรกที่ได้รับการติดต่อมาว่าให้ไปสร้างแรงบันดาลใจให้น้องๆ ก็ได้ตกลงที่จะมาทันที และพึ่งมารู้ทีหลังว่าได้มาพูดที่ PIM มันเหมือนได้กลับบ้านอีกครั้งนึง เพราะเคยมาใช้บริการที่ห้องนี้บ่อยมาก วันนี้จึงอยากจะพูดถึงประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านมาในการรับราชการตำรวจ ซึ่งหัวข้อที่ได้รับมอบหมายให้มาพูดคือ “ความาสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ เกิดจากการให้โอกาส” ซึ่งก่อนอื่นเลย คงต้องขอบคุณที่กระทรวงอว. และคณะผู้จัดหยิบยื่นโอกาส ให้ได้ขึ้นมาพูดให้น้องๆฟังบนเวทีแห่งนี้
“ตั้งแต่พี่ได้รับราชการตำรวจมา วันนี้พี่มีเวลาเหลืออีกประมาณ 5,169 วัน พี่เป็นคลื่นลูกกลางๆที่จะต้องจากโลกนี้ไป ส่วนน้องเป็นคลื่นลูกใหม่ที่ยังต้องอยู่กันต่อไปเพื่อเติบโต สำหรับพี่ พี่ตั้งโจทย์ในชีวิตว่า พี่ต้องตายในวัย 70 ปี เพราะฉะนั้นพี่ถึงให้ความสำคัญกับเวลาเยอะมาก ตัวพี่เองเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะปานกลางลงไปถึงล่าง อาศัยอยู่ในอำเภอวังน้ำเย็น จังหวัดสระแก้ว พ่อแม่เปิดร้านขายโชวห่วย ซึ่งพ่อกับแม่พี่ก็เรียนจบแค่ ป.4 สร้างรายได้ด้วยการขายของ ความฝันสูงสุดของพ่อพี่คือ ต้องส่งลูกให้เรียนให้สูงที่สุด ให้ดีที่สุด และสั่งสอนให้พี่ตั้งใจเรียนอยู่เสมอ นี่คือสิ่งที่ปลูกฝังในหัวพี่มาตลอด การช่วยพ่อแม่ค้าขายในวัยเด็กก็ไม่ได้สบาย ต้องช่วยจัดสต๊อกของหน้าร้าน เติมสต๊อก และปั่นจักรยานไปส่งของให้ลูกค้า ชีวิตพี่จากวันนั้น จนเข้ามารับราชการ 22 ปี มันเกิดจากการที่พี่ให้โอกาสตัวเอง สร้างโอกาสให้กับตัวเองก่อน เมื่อเราสร้างโอกาสให้กับตัวเองแล้ว เพื่อที่จะให้โอกาสกับคนอื่นต่อไป”