“ป๋าเหลิม” ลั่นเดือด ท้าเพื่อไทย ไล่ออกจากพรรคเร็ว ๆ ฝากถึงทักษิณ เมินพูดคุยลืมใครมีบุญคุณ ลั่นวันนี้ชื่อยังไม่อยากได้ยิน

ทั้งนี้ไม่ขอบอกว่า ได้พูดคุยอะไรกับพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่บ้านป่ารอยต่อ เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งส่วนตัวรู้จักกันมาเข้าปีที่ 30 แล้ว แต่ไม่เคยพูดคุยกันเลย เพิ่งจะได้คุยกันวันนั้น และพลเอกประวิตรให้การต้อนรับดี และเชื่อว่า บ้านพลังประชารัฐเหนือชั้นกว่ามาก

โดยส่วนตัวอายุมากแล้ว การตัดสินใจอะไรใช้ดุลพินิจเอง ทั้งนี้ยังไม่ขอตอบว่า หากพรรคเพื่อไทยขับออกจากพรรคแล้วจะย้ายเข้าพลังประชารัฐทันที เพราะติดที่พรรคเพื่อไทยยังไม่ขับออก

ร.ต.อ.เฉลิม ย้ำว่า “ตัวเองเป็นตัวอันตรายไปอยู่ที่ไหนต้องมีใครได้-ใครเสีย และคงประสานรอยร้าวกับพรรคเพื่อไทยไม่ได้แล้ว และพรรคก็คงไม่เอาตนเองแล้ว อย่าไปหวังเลย ฝนตกเดือนเมษานานๆที ไม่มีน้ำใจ พูดอย่างนี้ไปคิดเอาเอง พวกแล้งน้ำใจ”

ทั้งนี้ตนเองจะขอใช้เอกสิทธิ์สส.อภิปรายอย่างอิสระคนเดียว ไม่ได้ท้า แต่พร้อมทำงานในสภาฯ หากมีประเด็นที่น่าสนใจก็พร้อมจะอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลด้วย ที่ผ่านมาได้ยกมีสวนมติพรรคมาตลอด แต่เลือกนายเศรษฐาเป็นนายกฯ ดิจิทัลวอลเล็ต และอื่น ๆ อีกตามมา แต่พูดไปจะหาว่าขู่ มั่นใจว่า ได้เจอแน่นอน “นายกฯ เนี้ย ท่านไปโน่น มานี่ ไปนั่นบอกจะสร้างโน่นจะสร้างนี่กว่า 108 โปรเจ็ค เห็นทำสำเร็จอยู่เรื่องเดียว ที่พาเมียไปรำวงอยู่สุโขทัย เห็นอยู่เรื่องเดียวที่เป็นรูปธรรม”

นอกจากนี้ ร.ต.อ.เฉลิม ไม่เห็นด้วยกับโครงการดิจิทัลวอลเล็ต และเห็นว่ารัฐบาลก็เก้ๆ กังๆ และเชื่อว่า โครงการจะไม่สำเร็จ หรือ อาจจะมีหลายส่วนที่ต้องมีการสอบสวนในทางคดีด้วย พร้อมประเมินว่า รัฐบาลชุดนี้ มีโอกาสเจ๊ง ฟันธงยกองค์เลย เพราะทุกคนพบปืนคนละกระบอกอยู่ข้างหลัง พรรคร่วมรัฐบาลที่พกปืนคนละกระบอกแต่เป็นปืนพลาสติก รอคนพลาด

ส่วนที่บอกว่าเจ๊ง ถึงขั้นจะเปลี่ยนตัวนายกฯ ยุบสภาหรือไม่ นั้น ร.ต.อ.เฉลิม บอกว่า ไม่ได้รู้มากถึงขนาดนั้น แต่มั่นใจว่ารัฐบาลจะอยู่ไม่ครบเทอม

“ถ้าอยู่ครบ 4 ปี คงชาติหน้าตอนบ่าย ๆ เพราะกลุ่มคณะการเมืองรวย แต่ชาวบ้านยากจน ปราบยาเสพติดก็ไม่ประสีประสา เอามาผมทำให้ แต่คนยากคนจน ยังจน”