ดราม่าจนได้ หลัง “แพรวพราว” ให้ลูกสาว “น้องนาริตะ” ขายของกลางไลฟ์สด หาค่าเทอม

ดราม่าจนได้ หลัง “แพรวพราว” ให้ลูกสาว “น้องนาริตะ” ขายของกลางไลฟ์สด หาค่าเทอม

Top news รายงาน นับว่าเป็นอีกคู่หนึ่งของวงการหมอลำ เเละเป็นมหากาพย์ดราม่าที่หลายคนจับตามองต่อเนื่อง สำหรับประเด็นของ “บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์” กับ “แพรวพราว แสงทอง” อดีตสามีภรรยากันที่ได้เลิกรากัน ซึ่งต่อมา “บิ๊ก” ก็ได้ปรึกษาทีมทนาย ในการปกครองสิทธิ์ดูแลลูก ที่หลายคนสนใจก็คือเรื่องการดูแลทั้ง 2 คน ได้เเก่ “น้องโตเกียว” เเละ “น้องนาริตะ” เเละตอนนี้ก็มีประเด็นของเรื่องโรงเรียนของ “น้องนาริตะ” ที่ “บิ๊ก” อยากให้ลูกย้ายไปเรียนที่ขอนแก่น เเต่ด้าน “แพรวพราว” เอง อยากให้ลูกเรียนที่กรุงเทพ ฯ ซึ่งเรื่องนี้ก้ยังคงวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างหนัก โดยชาวเน็ตต่างเห็นใจ “บิ๊ก” กันอย่างมากมาย

 

 

เเละล่าสุดบอกเลยว่า งานเข้า “แพรวพราว แสงทอง” อีกเเล้ว หลังให้ลูกสาว “น้องนาริตะ” ขายของกลางไลฟ์สดหาค่าเทอม ก่อนพูดคำเดียว กลายดราม่าทันที ทำเอาชาวเน็ตเเห่คอมเมนต์กันสนั่น!!

เป็นที่ทราบกันดีว่า “บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์” กับ “แพรวพราว แสงทอง” อดีตภรรยา นั้นยังคงต้องเคลียรร์ปัญหาเรื่องลูกๆ “น้องนาริตะ-น้องโตเกียว”  ให้ชัดเจน หลังด้าน “บิ๊ก” เอง ได้เปิด 3 ข้อเรียกร้องสิทธิดูแลลูก เนื่องจาก “บิ๊ก” อยากมีสิทธิดูแลลูก แต่คุยกันกับอดีตภรรยาไม่ลงตัวสักที จึงใช้กฎหมายหาความชัดเจน โดยทาง “บิ๊ก” ได้ปรึกษากับทาง “ทนายพัฒน์” หรือ “อนุสรณ์ อะสุระพงษ์” มือว่าความทีมเมียหลวง ให้ช่วยเหลือ โดย 3 ข้อที่เรียกร้องไป คือ
1. การปกครองสิทธิ ตนไม่ได้ต้องการปกครองเพียงผู้เดียว แค่อยากมีสิทธิดูแลลูกบ้าง 2. การแบ่งทรัพย์สิน ตอนแรกบอกว่าไม่แบ่ง แต่ขอกลับมาคิดใหม่ โดยแบ่งกันเองแล้วค่อยแบ่งให้ลูก เพราะกลัวว่าทรัพย์สินไม่ถึงลูก 3. การถ่ายวิดีโอบุตรของตนโดยไม่ได้รับอนุญาต พ่อกับแม่มีสิทธิเท่านั้น นอกเหนือจากนั้นต้องได้รับอนุญาตจากเรา เพราะมันเป็นรายได้เกิดขึ้นมหาศาล

ซึ่งระหว่างที่รอศาลเรียก ก็เรียกได้ว่าดราม่าเกี่ยวกับเรื่องลูกของทั้ง 2 คนก็ไม่เคยพัก โดยเฉพาะทางฝั่งของ “แพรวพราว” ที่โดนวิพากย์วิจารณ์อย่างหนัก เช่น ตอนที่เธอไปออกรายการคุยแซ่บโชว์ และมีบางช่วงได้พูดถึงเรื่องลูกว่าตัวเองนั้นมอบสิทธิ์ดูแลลูกให้ลุงกับป้า ได้ทำเรื่องให้ลุงกับป้าเป็นผู้แทนชอบด้วยกฎหมาย

ขณะที่ทางด้านของ “บิ๊ก” เมื่อทราบเรื่องก็ได้ออกมาไลฟ์สด เผยว่า “รู้สึกตกใจ เราเป็นพ่อเราก็ไม่รู้ ว่าให้สิทธิ์ใครดูแลลูก ส่วนตนยืนยันว่าไม่ได้ต้องการครอบครองลูกเพียงคนเดียว แต่อยากมีสิทธิ์ในการดูแลลูก อยากมีสิทธิ์ในการเลือกโรงเรียนให้ลูก”

เเละก่อนหน้านี้ “แพรวพราว” ก็ให้สัมภาษณ์กับนักข่าวว่า เรื่องโรงเรียนลูกได้ตกลงกับทางบิ๊กแล้วทั้งที่ยังไม่ได้คุยหลังบ้านกันเลย

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

โดย “แพรวพราว” ได้ออกมาให้สัมภาษณ์อัปเดตเรื่องลูกๆ กับอดีตสามี เมื่อนักข่าวถามเรื่องโรงเรียนของลูก “บิ๊ก” บอกว่าอยากจะให้ “น้องนาริตะ” ไปเรียนที่ขอนแก่นมีความเห็นยังไง” ด้าน “แพรวพราว” ก็ตอบว่า “เรื่องลูกคุยกันแล้วตกลงแล้ว น้องต้องมาเรียนที่กรุงเทพฯ-ปทุม ประมาณนี้ คือเราแพลนไว้ก่อนหน้านี้แล้ว ไม่ใช่ว่าพอพ่อเขาจะเอาไปเรียนขอนแก่นแล้ว แม่จะต้องเอาลูกมาเรียนที่กรุงเทพ ไม่ใช่ เรื่องเรียนเราวางแผนไว้แล้ว ตั้งแต่ช่วงที่ไปขึ้นบ้านใหม่ที่พัทยา เรื่องนี้ไม่มีขัดแย้งแน่นอนเพราะเราคุยกันแล้ว

และเมื่อนักข่าวถามว่า “แล้วเรายอมมั้ย ถ้าพ่อจะให้ไปเรียนที่ขอนแก่น?” ด้าน “แพรวพราว” ก็ตอบว่า “มันคงเป็นไปไม่ได้หรอก เพราะลูกอยู่กับเรา เราเป็นคนติดลูก ไม่ได้ค่ะๆ แต่ถ้าเขาโตแล้วอยากไปก็ค่อยว่ากัน แต่ให้เขาโตก่อน”

 

 

 

 

 

ต่อมาก็ไม่รู้ว่าจากการที่ “แพรวพราว” ออกมาให้สัมภาษณ์พูดอะไรผิดไปตรงไหน เพราะเมื่อไปส่องที่โซเชียลมีเดียของ “บิ๊ก ผู้ใหญ่บ้านฟินแลนด์” เจ้าตัวได้โพสต์ชวนสงสัยว่าจะเกี่ยวกับเรื่องที่ “แพรวพราว” เพิ่งได้ให้สัมภาษณ์หรือไม่ โดยโพสต์ดังกล่าวของบิ๊ก ระบุข้อความว่า “พอแล้ว ตามบุญวาสนา ตามชะตากรรม ตอนนี้ขอทำงานตั้งตัว ก่อร่างสร้างฐานใหม่ก่อน ไม่ขอบืนสู้ในสิ่งที่มันหนัก เพราะมันเหนื่อยจิตใจ กลัวเป็นโรคสมองเสื่อมก่อน ปลง นานาจิตตัง ลุยงานเพื่ออนาคตครับ ถึงเวลามันก้อจะใช่และลงตัวเอง BNT” (อิโมจิรูปหัวใจ)

ทั้งนี้ยังพบว่า “บิ๊ก” ได้ออกมาไลฟ์สดและพูดถึงความรู้สึกที่มีคนถามเข้ามาว่า “รู้สึกยังไงบ้างที่น้องนาริตะจะย้ายไปอยู่กรุงเทพฯ”
โดยในไลฟ์ “บิ๊ก” พูดเป็นภาษาอีกสาน ว่า “เพิ่นว่าเพิ่นสิไปอยู่กรุงเทพ สิไปเรียนอยู่กรุงเทพ ข่อยว่ามันคือเป็นตะไกลแท้กรุงเทพ เลาก็บอกว่า กรุงเทพมันกะมีสนามบิน ใกล้ดอนเมืองเด้ละ ข่อยก็เลยว่าแล้วแต่สิเฮ็ดเอา ข่อยปล่อยปลงแล้ว เอาตามที่ข่อยทำได้โลด ข่อยบ่บืนแล้วข่อยเมื่อย ปลงเท่านั้น”

ก่อนที่เมื่อ 10 กรกฎาคม 2567 เป็นวัน ที่ “บิ๊ก ผญบ.ฟินแลนด”  และ “แพรวพราว” นั้นจะต้องเจอกันอีกครั้งเพื่อหาข้อตกลงร่วมกัน โดย “บิ๊ก” ได้เดินทางมายังศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดยโสธร แต่สุดท้าย “แพรวพราว” กลับไม่มาตามนัด ด้าน “บิ๊ก” จึงออกมาไลฟ์สด โดยระบุแคปชันเอาไว้ว่า “เอาตามนั้นละ เมื่อยวิ่งตามละ” และภายในไลฟ์สดเจ้าตัวโอดด้วยสีหน้าเบื่อเซ็ง ได้พูดเอาไว้ว่า สรุปเขาไม่มา ต้องเลื่อน เขาพาน้องนาริตะไปหาโรงเรียน เรามาก็มาฟรีวันนี้ ไกลก็ไกล เมื่อยก็เมื่อย แต่ต้องมารักษาสิทธิ์ นัดกันอีกทีรอบหน้า ต้องมาอีกทีสิ้นเดือน เสียเวลาทำมาหากิน ศาลจะตัดสินยังไงแล้วแต่จะตัดสินออกมา พอแล้ว

ขณะที่ด้าน “ทนายพัฒน์” โพสต์เฟซบุ๊กด้วย บอกว่า “ สำหรับคดีวันนี้นะครับ ไม่สามารถดำเนินการเจรจาได้ เนื่องจากอีกฝ่ายติดภารกิจจึงขอเลื่อนคดีออกไป ซึ่งจะมีการนัดพูดคุยเจรจาไกล่เกลี่ยหรือสืบพยานอีกครั้งในวันที่ 30 กรกฎาคม 2567 เวลา 10 นาฬิกา”

และอีกโพสต์ร่ายราวว่า “มาฟังมุมมองความเห็นทนายคดีแย่งลูกกันบ้าง!!!! มีหลายครอบครัวมากที่มีปัญหาในเรื่องของการแย่งลูกกัน ซึ่งบางฝ่ายคิดจะเอาตัวเด็กเป็นตัวประกัน เพื่อให้อีกฝ่ายพ่ายแพ้ นี่เป็นความคิดที่ไม่ค่อยถูกต้องเลย ….. หลาย ๆ คดีที่อยู่ในมือของผม เราในฐานะทนายความของฝ่ายพ่อหรือฝ่ายแม่ก็ตาม เราอยากให้ลูกความของเราได้ดูแลลูกเขาอย่างเต็มที่เช่นเดียวกัน แต่ถ้าอีกฝ่ายหนึ่งยังดื้อรั้น เราจะให้คำปรึกษาเสมอว่า การที่เราอยากได้แต่คำว่าชนะ เราก็อาจจะเป็นผู้พ่ายแพ้เสียเองในที่สุด เพราะคำว่าชนะผลกระทบมันจะตกแก่ลูกเรา บางทีเราอาจจะเป็นผู้ที่แพ้ในวันนี้ เพื่อนำไปสู่คำว่าชนะในวันหน้า เมื่ออีกฝ่ายไม่ยอมเราอาจจะต้องเป็นผู้ที่เสียสละให้อีกฝ่ายไป (อยากทำอะไรทำเลย เต็มที่ ให้เลย เอาไปเลย) แต่ในการที่เสียสละนั้น เราก็ได้ทำทุกวิถีทางเพื่อรักษามันไว้แล้ว ไม่ว่าตามความเป็นจริงและตามข้อกฎหมาย สักวันหนึ่งเมื่อลูกโตขึ้นมาเค้าจะรู้ว่าเราไม่ได้ทอดทิ้งเขา เรามีเหตุผลอันสมควรที่จำเป็นต้องทำเช่นนั้น และเราสามารถตอบสังคมได้ว่าสิ่งที่เราทำเพราะสถานการณ์เช่นนั้นบีบบังคับจริงๆ เราเต็มที่แล้ว อย่าหาว่าใจร้าย ลูกโตมาเขาจะเลือกของเขาเอง ……“คิดแบบผู้ไม่แพ้ แต่เป็นผู้เสียสละ และรอ” #ลูกต้องไม่อยู่ในเกม

 

 

ส่วนด้านเฟซบุ๊กของ “แพรวพราว แสงทอง” เมื่อไม่ได้มาศาล ได้มีการไลฟ์สดขณะจะพา “น้องนาริตะ” ไปสัมภาษณ์ ประเมินผลที่โรงเรียน โดยในไลฟ์ “แพรวพราว” มีสีหน้าสดใส พูดในไลฟ์ว่า “วันนี้จะพาน้องนาริตะไปประเมินผลการเรียน และจะย้ายไปโรงเรียนไหนค่อยมาว่ากันอีกที ตอนแรกน้องไม่อยากย้ายโรงเรียน งอแง แต่ตอนนี้เปิดใจแล้ว พร้อมบอกว่าจะตั้งใจเรียน โดยมีลุงกับป้าไปด้วย ซึ่งวันนี้เป็นวันที่คุณครูนัด และมีอีกหนึ่งโรงเรียนในวันที่ 12 แต่ถ้าไปวันนี้แล้วโอเค วันที่ 12 ก็ไม่ต้องไป เพราะฉะนั้นวันนี้ถ้าเสร็จธุระแล้วก็จะได้แยกย้ายกันกลับบ้าน” ซึ่งในไลฟ์ “แพรวพราว” ก็ไม่ได้มีการพูดถึงเรื่องมีนัดที่จะต้องไปขึ้นศาลเจอกับ “บิ๊ก” แต่อย่างใด

จากนั้นก็ได้โพสต์ภาพของ “น้องนาริตะ” และลุงกับป้า พร้อมเขียนแคปชั่นว่า “ตอนแรกรู้ว่าจะได้ย้ายโรงเรียน น้องนาริตะร้องไห้ไม่ยอม! กอดแม่ร้อง! แม่จ๋าหนูไม่อยากย้ายโรงเรียน หนูคิดถึงเพื่อน … แต่พอมาถึงโรงเรียน คุณครูพาเดินชมห้องเรียนโลเคชั่น ชวนพูดคุย สุดท้ายแล้วเดินมากอดแม่และมาหอมแก้มแม่ ….
แม่เลยถามว่า
แม่ : หนูชอบโรงเรียนไหมคะ
นาริตะ : ชอบค่ะ
แม่ : หนูตั้งใจเรียนนะคะ
นาริตะ : ค่ะแม่ ยิ้มกอดแม่
ขอบคุณป้ากับลุงที่ยอมทุกอย่างได้เพื่อหลาน
จากบ้านนอกเข้ากรุง เดี๋ยวก็ชินเองแหละ
สิ้นเดือนนี้น่าจะเตรียมย้ายบ้านอย่างเป็นทางการ
เปิดเทอม 8 สิงหาคม 67
นาริตะพร้อมมาก”

เเละล่าสุดบอกเลยว่ามีดราม่าอีกเเล้ว เมื่องานเข้า “แพรวพราว แสงทอง” ให้ลูกสาว “น้องนาริตะ” ขายของกลางไลฟ์สด ก่อนพูดคำนี้ ดราม่าทันที!
โดยช่อง TIKTOK molamstylekhoi หมอลำสไตล์ข่อย ได้โพสต์คลิปวิดีโอ “สาวแพรวพราว” นั้นก็ได้อยู่กับลูกสาวคนโต “น้องนาริตะ” โดยในคลิปวิดีโอ “น้องนาริตะ” ก็ได้บอกว่า “อยากเล่นแล้ว” ซึ่ง “แพรวพราว” ก็ได้บอกว่า “เล่นไม่ได้ต้องทำงานก่อน มาขอบคุณเอฟซี ก่อนยกมือไหว้สวยๆ” จากนั้น “น้องนาริตะ” ก็ได้บอกว่า “เอฟซีคือหลายแท้” ซึ่งทางด้าน “แพรวพราว” ก็ได้หัวเราะออกมา

 

 

 

 

 

 

 

 

ก่อนที่ช่วงหนึ่งจะแอบเป็นดราม่าเมื่อ “แพรวพราว” ได้หยิบคุกกี้ของ “แบรนด์น้องนาริตะขึ้นมา” แล้วก็ได้บอกว่า “นี่คุกกี้อะไรเนี่ย มาบอกก่อนเร็วๆ รู้จักทำการทำงานไหมนี่ ค่าเทอมมันแพง ค่าเทอมเจ้าแพงมากค่าเทอม”

ซึ่งหลังจากนั้นเหล่าบรรดาชาวเน็ตนั้นก็ได้เข้ามาคอมเมนต์วิดีโอว่า
-ไม่ควรบ่นเรื่องค่าเทอมลูกนะ เพราะตัวเองเป็นคนเลือก ควรใช้คำพูดว่า มาช่วยแม่ขอขายของก่อนลูก แม่จะได้มีเงินไว้ให้ค่าขนมค่าของเล่นของหนู วันนีนาริตะจะมาช่วยแม่ไหมน้อ วันนี้ใครจะช่วยแม่ดีนร่า
-ลูกบ่ได้อยากเรียนรร.ค่าเทอมแพงนะแม่เลือกเองก็หาเงินจ่ายเองจะมาบังคับลูกไม่ได้

-ดูเจนนี่สอนยูจินนะ…เค้าจะไม่บังคับและมีจิตวิทยาในการคุย… #เว้าสู่ฟังดอกหว่าาาาา
-เอาลูกมาแสดงแล้ว1
-ล่าสุด ขุ่ลุกหาเงิน แม่คนเก่งงง
-นี่แค่เทอมแรกน่ะ
-เอ้าแม่คือเว้าแบบนั้น
-เด็กไม่ได้เลือกแล้วมายัดเยียดว่าค่าเทอมแพง ตรรกะอะไร
-แม่อยากให้มาเรียนกทม=อยากเอาชนะพ่อ

ขณะที่ชาวเน็ตอีกส่วนก็ได้เข้ามาคอมเมนต์เข้าใจ “เเพรวพราว” ว่า
-เขาสอนลูกเขาให้รู้จักทำงานแต่เด็ก แต่ผู้ใหญ่บางคนก็ไม่วายแซะเขาโดยไม่รู้สี่รู้แปด ขอให้ได้แซะไว้ก่อนพ่อสอนไว้
-เขาสอนลูกให้ทำงานไม่ดีตรงไหน มีสมบัติมากมายไม่รู้จักทำมาหากินก็จนได้จ้า เขาสอนลูกเขาไม่ให้งอมืองอเท้า ไม่ไปอยากได้ของๆ คนอื่นนี่ก็ดีแล้ว
-สอนลูกดีค่ะถึงจะมีเงีนก่อต้องทำงาน

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ตร.ไซเบอร์ ขยายผลตามรวบ "ผู้จัดหาบัญชีม้า" แก๊งลวง "ชาล็อต" กว่า 4 ล้านบาท
“บิ๊กอ้วน”ซัดปาก! พวกกระหายสงคราม “บิ๊กปู” คอนเฟิร์ม “ว้าแดง” เรียบร้อยดี
เวียงแหงโมเดล! เยาวชนคนรุ่นใหม่ One Young World เครือซีพี ปักธง FIGHT หมอกควันชายแดนไทย-พม่า เรียนรู้-ชวนชุมชมร่วมลด PM 2.5
ทิพยประกันภัย จับมือ NT ลงนาม MOU พัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการ เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ายุคดิจิทัล
กรมวิทย์ฯ บริการ มอบของขวัญปีใหม่ประชาชน 2568 ..ฟรี !! ฝึกอบรมเสริมทักษะด้าน วทน. ฟรีค่าธรรมเนียมยื่นขอการรับรองทุกขอบข่าย เสริมความสามารถของห้องปฏิบัติการไทยสู่สากล
"ณเดชน์-เบลล่า" ขึ้นแท่นดาราแห่งปี "หมูเด้ง" ข่าวเด่นแห่งปีของจริงกลบทุกกระแส
เซเว่นฯ เดินหน้านโยบาย “2 ลด ลดพลาสติก ลดพลังงาน" เพื่อสิ่งแวดล้อม 24 ชม. เชิญชวนคนไทย ลดใช้พลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้ง
“ภูมิธรรม”คาด 4 ลูกเรือไทยได้รับการปล่อยตัว 4 ม.ค. นี้ ยืนยันกลาโหม-กองทัพไม่ได้อ่อนแอ
ฮาร์บินเปิด ‘สวนสนุกน้ำแข็ง-หิมะ’ จีนใหญ่สุดในโลก
ทรัมป์เสนอยูเครนสละดินแดนเพื่อยุติสงคราม

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น