“รัฐบาล” พร้อมจัดพิธีถวายพระพรชัยมงคล “ในหลวง” เชิญชวนคนไทย ถวายความจงรักภักดี พร้อมกันทั่วปท.

"รัฐบาล" พร้อมจัดพิธีถวายพระพรชัยมงคล "ในหลวง" เชิญชวนคนไทย ถวายความจงรักภักดี พร้อมกันทั่วปท.

Top news รายงาน รัฐบาล พร้อมจัดพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เชิญชวนพสกนิกรชาวไทย ทุกหมู่เหล่า ร่วมถวายความจงรักภักดีอย่างพร้อมเพรียงกันทั่วประเทศ ก.คมนาคมอำนวยความสะดวกขึ้นทางด่วน-รถเมล์-รถไฟฟรี

วันที่ 27 กรกฎาคม 2567 เวลา 12.00 น. ที่ท้องสนามหลวง นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ การจัดงานเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 พร้อมด้วยนายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พลตำรวจเอกไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจตรีธวัช วงศ์สง่า รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พลตำรวจตรีศิวัฒน์ ดีพอ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แถลงข่าวการเตรียมความพร้อมด้านการประชาสัมพันธ์และการอำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องประชาชน ในพิธีถวายเครื่องราชสักการะ และพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

นางสาวจิราพร กล่าวว่า คณะกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์ฯ ได้เริ่มดำเนินการประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างการรับรู้
การจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ซึ่งเป็นปีมหามงคลที่ประชาชนจะมีส่วนร่วมในกิจกรรม งานเฉลิมพระเกียรติที่รัฐบาลดำเนินการตลอดทั้งปี โดยเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคมที่ผ่านมา กรมประชาสัมพันธ์ได้จัดกิจกรรมแถลงข่าวและเสวนาสื่อ เรื่อง งานพระราชพิธี รัฐพิธี ศาสนพิธี และกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติเนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิม          พระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 เพื่อสร้างความเข้าใจถึงความสำคัญของ การจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติของรัฐบาล ให้สื่อมวลชนสามารถสื่อสารเนื้อหาที่ถูกต้อง เพื่อให้ประชาชนได้รับรู้และมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ตลอดปี

โดยในห้วงที่ผ่านมาได้มีการประชาสัมพันธ์ตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ พร้อมความหมายผ่านสื่อโทรทัศน์ วิทยุกระจายเสียง สื่อสังคมออนไลน์ ตลอดจนได้รับความร่วมมือจากสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง ในการเผยแพร่ตราสัญลักษณ์มุมบนจอโทรทัศน์ พร้อมทั้งจัดพิธีมอบตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติฯ ให้กับหน่วยงานราชการ 20 กระทรวง ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหาร 3 เหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ผู้ว่าราชการจังหวัด 76 จังหวัด และสื่อมวลชน โดยมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน

ต่อมารัฐบาลได้จัดทำโครงการเฉลิมพระเกียรติฯ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวขึ้นมากว่า 1,000 โครงการ ซึ่งเป็นการน้อมนำแนวพระราชดำริ และพระราชปณิธาน เรื่องสิ่งแวดล้อมที่มีความเชื่อมโยง ระหว่าง “ป่า น้ำ คน” โดยได้เลือก 10 โครงการเด่น ประกอบด้วย

  • 1. โครงการ “ยกระดับสวนสาธารณะบึงหนองบอน และ Pocket Parks 72 แห่ง” เพื่อช่วยรับน้ำ ป้องกันน้ำท่วม และเป็นปอดของคนกรุง
  • 2. โครงการ “72 ล้านต้น พลิกฟื้นผืนป่า” ซึ่งท่านนายกรัฐมนตรีได้มอบพันธุ์กล้าไม้ให้กับทุกหน่วยงาน เพื่อนำไปมอบให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปลูกป่าทั่วประเทศ
  • 3. โครงการ “แหล่งน้ำบาดาลขนาดใหญ่ แก้ปัญหาภัยแล้งอันเนื่องมาจากพระราชดำริ 72 แห่ง” เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ที่ประสบปัญหาภัยแล้งทั่วประเทศ
  • 4. โครงการ “10 คลองสวย น้ำใส คนไทยมีสุข” นำร่องในพื้นที่กรุงเทพมหานครและจังหวัดอื่น รวม 10 แห่ง
  • 5. โครงการ “พัฒนา 72 สายน้ำอย่างยั่งยืน ดำเนินการขุดลอกคลองและอ่างเก็บน้ำ 72 แห่ง” เพิ่มพื้นที่เก็บกักน้ำ รองรับน้ำฝน และบริหารจัดการน้ำแก้ปัญหาภัยแล้งอย่างยั่งยืน ใน 47 จังหวัดทั่วประเทศ
  • 6. โครงการ “ยกระดับ รพ.สมเด็จพระยุพราช รพ.ชุมชนเฉลิมพระเกียรติ รพ.ชัยพัฒน์ และหน่วยบริการปฐมภูมิ 72 แห่ง” เพื่อยกระดับการบริการทางการแพทย์ช่วยประชาชน
  • 7. โครงการ “พัฒนาคุณภาพชีวิต ที่ดินทำกิน และที่อยู่อาศัย” ช่วยประชาชนให้มีที่ดินทำกิน ด้วยการส่งมอบที่ดินทำกินและพักอาศัย 72,000 ไร่ ทั่วประเทศ ซึ่งเมื่อวานนี้ ดิฉันได้ติดตามท่านนายกรัฐมนตรีไปมอบสัญญาเช่าที่ราชพัสดุ และมอบบ้านแก่ประชาชนที่ จ.นครพนม ตามพระราชปณิธานและพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชนชาวไทยให้อยู่ดีมีสุข
  • 8. โครงการ “บริจาคโลหิต 10,000,000 ล้าน ซีซี” ทุกท่านสามารถร่วมบริจาคได้ที่โรงพยาบาลรัฐใกล้บ้าน
  • 9. โครงการ “จัดหากายอุปกรณ์สำหรับช่วยเหลือคนพิการ 72,000 ชุด”
  • 10. โครงการ “หลอมรวมใจ มอบน้ำใสสะอาดให้โรงเรียน” เป็นการปรับปรุงคุณภาพน้ำทั้งประปาจากภูเขา และจากบ่อน้ำตื้น บ่อน้ำบาดาล ในโรงเรียนทุกแห่งทั่วประเทศ

ซึ่งทั้ง 10 โครงการล้วนเป็นประโยชน์ต่อพี่น้องประชาชน ซึ่งรัฐบาลจะติดตามอย่างใกล้ชิด จึงขอความร่วมมือจากทุกภาคส่วน รวมทั้งสื่อมวลชน ช่วยสร้างการรับรู้ และให้ทุกคนได้เข้ามามีส่วนร่วมกับทุกโครงการมากที่สุดนะคะ

 

ข่าวที่น่าสนใจ

 

สำหรับในวันพรุ่งนี้ (วันอาทิตย์ ที่ 28 กรกฎาคม 2567) ซึ่งเป็นวันพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษาของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว จะมีพระราชพิธีและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ ดังต่อไปนี้
– เวลา 06.35 น. พิธีขบวนอิสริยยศ เชิญน้ำพระพุทธมนต์จากวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ไปยังพระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง
– เวลา 07.00 น. พิธีเจริญพระพุทธมนต์และทำบุญตักบาตร ถวายเป็นพระราชกุศล ณ บริเวณ
ท้องสนามหลวง
– เวลา 07.45 น. พิธีถวายสัตย์ปฏิญาณเป็นข้าราชการที่ดีและพลังของแผ่นดิน ณ บริเวณ
ท้องสนามหลวง
– เวลา 10.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จออกมหาสมาคม ทรงรับการถวายพระพร
ชัยมงคล ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย พระบรมมหาราชวัง
– เวลา 12.00 น. 3 เหล่าทัพ ยิงสลุตหลวง หน่วยละ 21 นัด
– เวลา 17.00 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เสด็จไปทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ทรงตั้งสมณศักดิ์ จีน ญวน และพระสงฆ์
– เวลา 17.30 น. พิธีถวายเครื่องราชสักการะและวางพานพุ่ม ณ บริเวณท้องสนามหลวง
– เวลา 19.19 น. พิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ณ บริเวณท้องสนามหลวง กรุงเทพมหานคร
• ส่วนต่างจังหวัด 76 จังหวัด จัดพร้อมกันกับส่วนกลาง เช่น
– พิธีทำบุญตักบาตรถวายเป็นพระราชกุศลในช่วงเช้า จัดในสถานที่ที่แต่ละจังหวัดกำหนด เช่น จ.ศรีสะเกษ จัดที่ศาลากลางจังหวัด จ.ชลบุรี จัดที่หอพระพุทธสิหิงค์ จ.ยะลา จัดที่มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา จ.ปทุมธานี จัดที่สำนักงานเหล่ากาชาดจังหวัดปทุมธานี เป็นต้น
– พิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคลในช่วงค่ำ จัดในสถานที่แต่ละจังหวัดกำหนด เช่น จ.นครราชสีมา จัดที่สนามหน้าศาลากลางจังหวัดนครราชสีมา จ.พิษณุโลก จัดที่หอประชุมศรีวชิรโชติ มหาวิทยาลัยราชภัฎพิบูลสงคราม จ.ปัตตานี จัดที่ลานศิลปวัฒนธรรม  จ.สงขลา จัดที่ศาลากลางจังหวัดสงขลา เป็นต้น

นอกจากนี้ ประชาชนสามารถร่วมชมการแสดงสาธิตการเห่เรือเฉลิมพระเกียรติ แบบผูกทุ่น ซึ่งกองทัพเรือได้รับพระราชทานพระบรมราชานุญาต  ให้เชิญเรือพระที่นั่ง จำนวน 3 ลำ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช  ผูกทุ่นประกอบการแสดงกาพย์เห่เรือเฉลิมพระเกียรติ ณ ท่าราชวรดิฐ เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 28 และ 29 กรกฎาคม 2567 วันละ 2 รอบ รอบละ 25 นาที  โดยวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 จัดแสดงในเวลา 15.00 น. และ 20.30 น. ส่วนวันที่ 29 กรกฎาคม 2567 จัดแสดงในเวลา 17.00 น. และ 20.00 น.
โดยประชาชนสามารถติดตามรับชมการถ่ายทอดสดงานพระราชพิธีและกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ ในช่องทางต่าง ๆ ดังนี้
1. โทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย (ทรท.)

วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม 2567
เวลา 09.50 – 10.50 น. ถ่ายทอดสด การเสด็จออกมหาสมาคมทรงรับการถวายพระพรชัยมงคล ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัยในพระบรมมหาราชวัง (ช่อง 5 เป็นแม่ข่าย)
เวลา 19.00- 19.40 น. ถ่ายทอดสด พิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว 28 กรกฎาคม 2567 ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง (ช่อง 7 เป็นแม่ข่าย)

 

ส่วนในวันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม 2567
1. เวลา 18.50 – 19.30 น. ถ่ายทอดสด การจัดงานสโมสรสันนิบาต เฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล (NBT เป็นแม่ข่าย)
2. สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งประเทศไทย กรมประชาสัมพันธ์ ทุกสถานีทั่วประเทศ โดย FM 92.5 MHz เป็นแม่ข่าย
3. ช่องทางออนไลน์ ทุกแพลตฟอร์ม โดยติดตามข้อมูลข่าวสารเพิ่มเติมได้ที่เฟซบุ้คและเว็บไซต์ “พระลาน“ http://www.phralan.in.th ของกรมประชาสัมพันธ์
4. ติดตามได้จากสื่อมวลชนทุกสาขาที่ได้ช่วยกันเผยแพร่ประชาสัมพันธ์งานเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 อย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด

โอกาสนี้ ขอเชิญชวน ประชาชนชาวไทยทุกท่าน สวมใส่เสื้อสีเหลืองตราสัญลักษณ์ ร่วมประดับธงตราสัญลักษณ์ตามอาคารบ้านเรือน เจริญพระพุทธมนต์ ทำบุญตักบาตรถวายพระราชกุศล
พร้อมร่วมเฝ้ารับเสด็จในเส้นทางเสด็จพระราชดำเนินไปในการพระราชพิธีเสด็จออกมหาสมาคม ณ พระที่นั่งอมรินทรวินิจฉัย ในพระบรมมหาราชวัง
และร่วมจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล พร้อมกันทั่วประเทศในเวลา 19.19 น. ทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค โดยที่กรุงเทพมหานคร จัดที่ท้องสนามหลวง และต่างจังหวัดจัดในสถานที่ที่ทางจังหวัดกำหนด

โดยสำหรับส่วนกลางสามารถติดตามข้อมูลกิจกรรมได้ที่ Facebook และ Website พระลาน (http://www.phralan.in.th) ในขณะที่ต่างจังหวัด สามารถติดตามได้จาก Facebook ของสำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศในสังกัด                   กรมประชาสัมพันธ์

 

ขณะที่นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงคมนาคม พระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567

1. เดินทางโดยรถไฟ ฟรี 3 เส้นทาง
การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) จัดเดินขบวนรถพิเศษโดยสารฟรี เพื่อรับส่งประชาชนที่เดินทางมาร่วมงานกิจกรรม
เฉลิมพระเกียรติฯ ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 จำนวน 3 เส้นทาง (ใช้รถดีเซลรางชุดละ 3 คัน) รวม 6 ขบวน ได้แก่

  • 1.1 เส้นทางอยุธยา-กรุงเทพ-อยุธยา
  • 1.2 เส้นทางนครปฐม-ธนบุรี-นครปฐม
  • 1.3 เส้นทางชุมทางฉะเชิงเทรา-กรุงเทพ-ชุมทางฉะเชิงเทรา

2. เดินทางโดยรถเฉพาะกิจ ขสมก. ฟรี 10 กลุ่มเส้นทาง
องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดเดินรถโดยสารเฉพาะกิจ ให้บริการฟรี (จอดรับ – ส่งทุกป้าย) จำนวน 10 กลุ่ม
เส้นทาง เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ประชาชน ที่จะเข้าร่วมพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567 ดังนี้

  • 2.1 เส้นทางอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ฝั่งเกาะพญาไท) – สนามหลวง
  • 2.2 เส้นทางวงเวียนใหญ่ – สนามหลวง
  • 2.3 เส้นทางสถานีรถไฟกรุงเทพ (หัวลำโพง) – สนามหลวง
  • 2.4 เส้นทางสายใต้ใหม่ – สนามหลวง
  • 2.5 เส้นทางเอกมัย – สนามหลวง
  • 2.6 เส้นทางหมอชิต 2 – กรุงเทพอภิวัฒน์ – สนามหลวง
  • 2.7 สำนักงานเขต กทม. 50 เขต และ
  • 2.8 โรงเรียน 23 แห่ง
  • 2.9 วิ่งเป็นวงกลม ท่าเตียน – ท่าช้าง – สนามหลวง (เชื่อมรถไฟฟ้าสถานีสนามไชย)
  • 2.10 คลองบางไผ่ – สนามหลวง

3. เดินทางโดยเรือโดยสารเข้าร่วมพระราชพิธีฯ ฟรี 6 ท่าเรือ
กรมเจ้าท่า ร่วมกับ บริษัทเรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด จัดบริการเรือโดยสารให้ประชาชนฟรี จำนวน 6 ท่าเรือ
ระหว่างวันที่ 28 – 29 กรกฎาคม 2567 ได้แก่

  • 3.1 เส้นทาง ท่าเรือสาทร-ท่าเรือกรมเจ้าท่า-ท่าเรือราชินี-ท่าเรือท่าเตียน วิ่งเรือเป็นวงกลมโดยสารฟรี
  • 3.2 เส้นทางท่าเรือข้ามฟาก ท่าเรือวัดระฆังฯ – ท่าเรือท่าช้าง ข้ามฟากฟรี
    เพื่อเข้าชมเรือพระราชพิธี และการฝึกฝีพายขบวนพยุหยาตราทางชลมารค โดยเรือบริการรับ-ส่งฟรี ตั้งแต่เวลา 15.00 น.
    จนกว่าจะแล้วเสร็จ

4. เดินทางโดยรถไฟฟ้าต่อเรือข้ามฟากฟรี

  • 4.1 รถไฟฟ้าสายสีเขียว จากสถานีสะพานตากสิน เชื่อมต่อ ท่าเรือสาทร ไปลงท่าเรือท่าเตียน
  • 4.2 รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน จากสถานีหัวลำโพง เชื่อมต่อ ท่าเรือกรมเจ้าท่า ไปลงท่าเรือท่าเตียน
  • 4.3 รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน จากสถานีสนามไชย เชื่อมต่อ ท่าเรือราชินี ไปลงท่าเรือท่าเตียน

5. ขึ้นทางด่วนฟรี 3 สายทาง

การทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM และบริษัท ทางด่วน
กรุงเทพเหนือ จำกัด หรือ NECL ยกเว้นค่าผ่านทาง 3 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร ทางพิเศษศรีรัช ทางพิเศษอุดรรัถยา เพื่ออำนวยความสะดวกการจราจร

พร้อมกันนี้จัดพื้นที่จอดรถฟรี สำหรับร่วมงานพระราชพิธีฯ ระหว่างวันที่ 27 – 28 กรกฎาคม 2567 จำนวน 4 แห่ง ดังนี้
1) สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (ปิ่นเกล้า)
2) สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (ถนนบรมราชชนนี หรือสายใต้ใหม่)
3) สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (หมอชิต 2 ขาเข้า)
4) สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (เอกมัย)

โดยจุดดังกล่าว มีรถ ขสมก. ให้บริการเชื่อมต่องานพระราชพิธีฯ ฟรี
จัดพื้นที่จอดรถฟรี ณ สถานีรถไฟฟ้าสถานีคลองบางไผ่ เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางโดยมี รถเมล์ ขสมก. ให้บริการฟรีเพื่อร่วมพระราชพิธีฯ ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม 2567 เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป จัดพื้นที่จอดรถฟรี เพื่อเชื่อมต่อการเดินทางร่วมพระราชพิธีฯ

สำหรับการเดินทางร่วมพิธีต่างๆ นั้น ได้มีการจัดการโดยสารสาธารณะให้บริการฟรี เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับ
ประชาชน ในการเดินทางไปร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จฯ พิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล พิธีเห่เรือพระราชพิธีและนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 จากจุดต่างๆ เพื่อมายังบริเวณการจัดงาน ณ ท้องสนามหลวง ทั้งทางบก ทางราง และทางน้ำ ดังนี้ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) จัดรถโดยสารเฉพาะกิจให้บริการฟรี (จอดรับ-ส่งทุกป้าย) ในวันที่ 28-29กรกฎาคม 2567 ให้บริการตั้งแต่เวลา 14.00 – 21.00 น. หรือจนกว่าจะส่งประชาชนออกจากพื้นที่หมด จำนวน 5 เส้นทาง
ได้แก่

  • 1. อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ (ฝั่งเกาะพญาไท) – สนามหลวง : จอดรับ – ส่ง บริเวณหน้าศาลฎีกา
  • 2. สายใต้ใหม่ – สนามหลวง : จอดรับ – ส่ง บริเวณหน้าศาลฎีกา
  • 3. หมอชิต 2 – สนามหลวง : จอดรับ – ส่ง บริเวณหน้าศาลฎีกา
  • 4. วงเวียนใหญ่ – สนามหลวง : จอดรับ – ส่ง บริเวณตรงข้ามศาลฎีกา
  • 5. เดินรถเป็นวงกลม เส้นทางสนามหลวง – ท่าช้าง – ท่าเตียน

การรถไฟแห่งประเทศไทย จัดรถไฟขบวนรถพิเศษโดยสาร 3 เส้นทาง ให้บริการฟรี ในวันที่ 28 กรกฎาคม 2567
ได้แก่ เส้นทางที่ 1 : สถานีอยุธยา – สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) โดยออกจากสถานีอยุธยา เวลา 13.35 น. และออกจากสถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา 22.20น.

เส้นทางที่ 2 : สถานีฉะเชิงเทรา – สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) โดยออกจากสถานีฉะเชิงเทรา เวลา 13.30 น. และออกจาก
สถานีกรุงเทพ (หัวลำโพง) เวลา22.25 น.

เส้นทางที่ 3 : สถานีนครปฐม – สถานีธนบุรี โดยออกจากสถานีนครปฐม เวลา 14.00 น. และออกจากสถานีธนบุรี เวลา
22.00 น.กรมเจ้าท่า จัดบริการเรือข้ามฟากและเรือด่วนอำนวยความสะดวกประชาชน ในวันที่ 28-29 กรกฎาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 15:00 น จนกว่าจะแล้วเสร็จ

บริการเรือข้ามฟาก : ไป-กลับ ระหว่างท่าเรือวัดระฆังฯ (ฝั่งธน) – ท่าเรือท่าช้าง
บริการเรือโดยสาร : กรมเจ้าท่า ร่วมกับบริษัท เรือด่วนเจ้าพระยา จำกัด บริกาเรือฟรีรับส่งประชาชน ไป-กลับท่าเรือสาทร -ท่าเรือกรมเจ้าท่า – ท่าเรือราชินี – ท่าเรือท่าเตียน

พลตำรวจเอกไกรบุญ ทรวดทรง จเรตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่าในส่วนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้การดูแลพี่น้องประชาชนที่เดินทางมาร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จฯ
พิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล พิธีเห่เรือพระราชพิธี และนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยในการดูแลอำนวยความสะดวกพี่น้องประชาชนที่
เดินทางจากจังหวัดต่างๆ สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้มอบหมายตำรวจภูธรจังหวัดต่างๆ รับผิดชอบในการประสานงานและจัดรถนำเพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน ในส่วนของพื้นที่จุดจอดรถพักคอยรอบนอกกรุงเทพมหานคร ได้จัดเตรียมไว้ จำนวน 3 จุด ได้แก่ วิทยาลัยการอาชีวศึกษาปทุมธานี , ลานจอดรถพุทธมณฑลสาย 4 และลานจอดรถ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) พระราม 9 โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดเตรียมรถนำจากกองบังคับการปราบปราม กองบังคับการสายตรวจและปฏิบัติการพิเศษ ตำรวจท่องเที่ยว และกองบังคับการตำรวจจราจร ร่วมภารกิจนำรถขบวนพี่น้องประชาชนที่แสดงความประสงค์มาร่วมเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จฯ จากต่างจังหวัด และนำส่งยังภูมิลำเนาหลังเสร็จสิ้นภารกิจ เพื่อให้เกิดความปลอดภัยสูงสุด ในส่วนของพื้นที่เส้นทางในกรุงเทพมหานครบริเวณโดยรอบพิธีต่างๆ นั้น

กองบัญชาการตำรวจนครบาลจัดเตรียมกำลังพลทั้งในส่วนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ตำรวจจราจร เพื่อดูแลความปลอดภัยและอำนวยความสะดวกการจราจรอย่างเต็มที่ พร้อมจัดเตรียมช่างซ่อมแซมรถ รถเคลื่อนย้ายยานพาหนะ เพื่อแก้ไขปัญหา กรณีเกิดอุบัติเหตุ รถเสีย รวมทั้งจัดสายตรวจจราจรเพื่อให้เข้าช่วยเหลือพี่น้องประชาชนกรณีเร่งด่วน เพื่อให้สามารถให้ความ ช่วยเหลือพี่น้องประชนได้ในทันท่วงที

ทั้งนี้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าในปีมหามงคลนี้ พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่าจะได้ร่วมแสดงความจงรักภักดี และช่วยกันทำความดี เพื่อพระองค์ท่านอย่างพร้อมเพรียงกัน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม
ครูบาอริยชาติ เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ฉลองสมโภช 18 ปีวัดแสงแก้วโพธิญาณ และทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล 44 ปี
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา "ชวาล" ส.ส.พรรคประชาชน ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ โทษคุก-ตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
จีนเตือนสหรัฐกำลังเล่นกับไฟหลังส่งอาวุธให้ไต้หวัน
อิลอน มัสก์วิจารณ์แรงผู้นำเยอรมันเหตุโจมตีตลาดคริสต์มาส
ซาอุฯเคยเตือนเยอรมนีเรื่องคนร้ายโจมตีตลาดคริสต์มาส

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น