รวบแล้ว แก๊งเงินกู้โหด รุมทำร้าย ยายวัย 72 จนเส้นเลือดในตาแตก ตร.คุมตัวส่งฝากขังศาล

รวบแล้ว แก๊งเงินกู้โหด รุมทำร้าย ยายวัย 72 จนเส้นเลือดในตาแตก ตร.คุมตัวส่งฝากขังศาล

รวบแล้ว แก๊งเงินกู้โหด รุมทำร้าย ยายวัย 72 จนเส้นเลือดในตาแตก ตร.คุมตัวส่งฝากขังศาล  Top News รายงาน 

แก๊งเงินกู้

จากกรณีคุณยายวัย 72 ปี ถูกแก๊งเงินกู้ดอกโหดทำร้าย หลังตามทวงเงินลูกหนีอีกรายไม่ได้ จนเส้นเลือดในตาแตก ก่อนหลบหนี ล่าสุดผู้ก่อเหตุทั้ง 4 ได้เข้ามอบตัว ตำรวจแจ้ง 6 ข้อหา พร้อมคัดค้านประกันตัว ส่งฝากขังศาลอาญา

 

 

เมื่อเวลา 10.00 น. ที่ผ่านมา (29 ก.ค.) พลตำรวจตรี ธนันท์ธร รัตนสิทธิภาคย์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีคุณยายวัย 72 ปี ถูกแก๊งเงินกู้ดอกโหดทำร้าย หลังตามทวงเงินลูกหนีอีกรายไม่ได้ จนเส้นเลือดในตาแตก ก่อนหลบหนี จนผู้เสียหายไปร้องขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด ว่า หลังจากตำรวจสืบสวน และฝ่ายสอบสวน สน.โชคขัย ได้รวบรวมพยานหลักฐานข้อมูล จนพิสูจน์ทราบอัตลักษณ์บุคคลทั้ง 4 คน ได้แก่ นายโสภณ หรือ อ๊อฟ อายุ 27 ปี นายเคนวิทย์ หรือ เคน อายุ 32 ปี นายนัฐวุฒิ หรือ ไอซ์ อายุ 27 ปี และนายศิริศร หรือโบ้ อายุ 25 ปี จากนั้นพนักงานสอบสวนได้ประสาน และกดดันไปทางญาติของผู้ต้องหา จนทำให้ผู้ต้องหาเดินทางเข้ามามอบตัวเมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา

ข่าวที่น่าสนใจ

 

จากการสอบปากคำ ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน อ้างว่า เพิ่งจะทำร้ายร่างกายคุณยายเป็นครั้งแรก เนื่องจากรู้สึกไม่พอใจที่คุณยายจ่ายหนี้ไม่ตรงตามเวลาที่นัดหมาย เบื้องต้นพนักงานสอบสวน แจ้ง 6 ข้อหา กับนายอ๊อฟ และนายเคน คือ “ร่วมกันประกอบธุรกิจให้บริการสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับโดยไม่ได้รับอนุญาต ร่วมกันให้บุคคลอื่นกู้ยืมเงินอันมีลักษณะเป็นการเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราที่กฎหมายกำหนดไว้ ร่วมกันกระทำการทวงถามหนี้ ในลักษณะข่มขู่ การใช้ความรุนแรง หรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น ร่วมกันทวงถามหนี้กับบุคคลอื่นซึ่งมิใช่ลูกหนี้ ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และร่วมกันทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว” โดยนายอ๊อฟ ผู้ต้องหาที่ 1 ให้การรับสารภาพตามข้อกล่าวหา แต่ให้การปฏิเสธในข้อหา “ร่วมกันทวงถามหนี้กับบุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่ลูกหนี้” โดยอ้างว่าคุณยายเป็นลูกหนี้ของตนเอง ส่วนนายเคน ผู้ต้องหาที่ 2 ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา

สำหรับนายเคน ผู้ต้องหาคนที่ 2 เคยถูกดำเนินคดีในลักษณะการทวงหนี้โดยใช้ความรุนแรง เมื่อปี 2561 ในพื้นที่ สน.ฉลองกรุง ปี 2566 ในพื้นที่ สน.จรเข้น้อย และสน.ทุ่งสองห้อง

ส่วนนายไอซ์ และนายโบ้ ถูกแจ้ง 4 ข้อหา คือ “ร่วมกันกระทำการทวงถามหนี้ ในลักษณะข่มขู่ การใช้ความรุนแรง หรือการกระทำอื่นใดที่ทำให้เกิดความเสียหายแก่ร่างกาย ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของลูกหนี้หรือผู้อื่น ร่วมกันทวงถามหนี้กับบุคคลอื่นซึ่งมิใช่ลูกหนี้ ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ และร่วมกันทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว” โดยผู้ต้องหาทั้ง 2 คน ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา

นอกจากนี้ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 ยังบอกอีกว่า จากข้อมูลที่มีอยู่ขณะนี้ ทราบตัวแล้วว่าเจ้าของเครือข่ายปล่อยเงินกู้นอกระบบที่แท้จริงเป็นใคร โดยบุคคลดังกล่าว เป็นคนที่มีหมายจับของ สน.มีนบุรี ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดี ส่วนเรื่องที่สังคมมองว่าตำรวจทำงานล่าช้า ยืนยันว่าเป็นการเข้าใจผิด เพราะหลังจากที่ยายมาแจ้งความเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคมที่ผ่านมา พนักงานสอบสวนได้ให้คุณยายไปตรวจร่างกาย เพื่อนำความเห็นจากแพทย์มาประกอบสำนวนในคดี และได้นัดหมายคุณยายมาสอบปากคำในวันที่ 26 กรกฎาคม แต่ทางคุณยายอาจจะยังไม่ทราบ จึงมองว่าคดีไม่มีความคืบหน้า จนต้องไปร้องขอความช่วยเหลือกับเพจสายไหมต้องรอด

ต่อมาในเวลาไล่เลียกัน พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ไปขออำนาจศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ฝากขังในผัดแรก โดยท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากผู้ต้องหามีพฤติกรรมใช้ความรุนแรง และเกรงว่าผู้ต้องหาจะมายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หากได้รับการประกันตัวชั่วคราว

ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้พยายามสอบถามนายเคน ถึงข้อเท็จจริงต่าง ๆ แต่นายเคน ก็ตอบเพียงแค่ว่า ตนเองจะไปให้การในชั้นศาลเท่านั้น // ส่วนผู้ต้องหาอีก 3 คน ไม่ได้ตอบคำถามใด ๆ กับสื่อมวลชน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"กองทัพเรือ" จัดกำลังช่วยเหลือปชช.ที่ประสบอุทกภัยอย่างต่อเนื่อง พร้อมเฝ้าระวัง-รับมือ "พายุซูลิก"
"ราชกิจจาฯ" แพร่ประกาศเกณฑ์ตรวจปัสสาวะ-ตรวจเลือด นักดื่มเมาแล้วขับ
"ไพศาล" เผย 23 ก.ย.นี้ รู้ผลตัดสินของศาลฎีกา ปมการเลือกตั้ง "สว.สงขลา" ทุจริตหรือไม่
"กรมอุตุฯ" ประกาศเตือน รับมือพายุ "ฝนตกหนัก-ลมแรง-คลื่นสูง" มีผลกระทบตั้งแต่ 21-23 ก.ย.นี้
ชาวบ้านโคราช ร้องสื่อ ผู้ใหญ่บ้านตัดไม้ในพื้นที่ป่าสาธารณะ 27 ต้น ขายนำเงินแบ่งกัน เรื่องเงียบนานกว่า 8 เดือน
เมียโร่ร้องสื่อ 10 เดือนคดีไม่คืบ ผัวและหลาน ถูกปล้นชิงทรัพย์เงิน 3 หมื่น และมอเตอร์ไซค์ แต่กลับกลายเป็นผู้ต้องหาทำร้ายร่างกายผู้อื่นสาหัส
"มูลนิธิยังมีเรา" ฝ่าพายุซูริค ลุยแจกถุงยังชีพ ช่วยชาวบ้าน "โพนพิสัย" หนองคาย
"ชาวแม่สาย" ทยอยเข้าเก็บทรัพย์สิน พร้อมล้างดินโคลนออกจากบ้าน  หลังระดับน้ำลด 
นาทีระทึก น้ำป่าไหลหลาก ฉับพลันแทบเอาชีวิตไม่รอด
"บิ๊กแจ๊ส-ลุงชาญ" ลุยหาเสียงโลกโซเชียล ชูนโยบายช่วยชาวบ้าน พัฒนา "จังหวัดปทุมธานี" ให้ดีกว่าเดิม

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น