ไทม์ไลน์และความเข้าใจเกี่ยวกับชื่อของปลาหมอคางดำ: จากปลาหมอข้างลายสู่ปลาหมอคางดำ

กดติดตาม TOP NEWS

ท่ามกลางวิกฤตการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำในประเทศไทย ความสนใจของสังคมได้ถูกกระตุ้นขึ้นเพื่อค้นหาความจริงเกี่ยวกับที่มาของปลาชนิดนี้ ผู้คนต่างสงสัยว่าแท้จริงแล้วชื่อของปลาชนิดนี้คืออะไร เนื่องจากมีการใช้ชื่อหลายชื่อในช่วงเวลาที่ผ่านมา ซึ่งสร้างความสับสนให้กับผู้ที่ติดตามข่าวสารและผู้ที่เกี่ยวข้องกับการเลี้ยงปลา

ปลาในวงศ์ปลาหมอสี มีลักษณะหลากหลายที่แตกต่างกันตามสภาพแวดล้อมของถิ่นกำเนิด ส่วนใหญ่เป็นปลาน้ำจืด แต่มีบางชนิดพบในน้ำกร่อย ปลาหมอสีมีการกระจายอยู่ในหลายพื้นที่ เช่น อเมริกาใต้ แอฟริกา และอินเดีย การระบาดของปลาหมอคางดำในปัจจุบัน ทำให้หลายคนสงสัยว่าสายพันธุ์นี้มาจากประเทศกาน่าหรือเปล่า  แต่ในวงการปลาสวยงามนั้นรู้ว่าเป็นสายพันธุ์ผสม

ชื่อปลาหมอคางดำ เพิ่งเกิดขึ้นหลังปี 60 นี้เอง ซึ่งก่อนหน้านั้น แวดวงปลาสวยงาม จะเรียกชื่อปลาชนิดนี้ว่า “ปลาหมอสีคางดำ” หากค้นหา(search)ไปในกูเกิล ก็จะพบชื่อปลาหมอสีคางดำ ซึ่งในช่วง 10 กว่าปีที่ผ่านมาปลาหมอสีเป็นที่นิยมมาก ปลาหมอสีลูกผสมข้ามชนิด เรียกกันว่า “crossbreed” เป็นที่นิยมเลี้ยงเป็นปลาสวยงาม ในประเทศไทยและประเทศอื่น ๆ ในทวีปเอเชียอีกหลายประเทศ ที่คุ้นเคยกันมานานก็คือ ปลาหมอมาลาวี (ปลาในสกุล Aulonocara) ที่มีขายทั่วไป มักไม่ใช่ปลาชนิดแท้ แต่เป็นเชื้อสายมาจากปลาลูกผสมข้ามชนิดในสกุลเดียวกัน

จากข้อมูลที่ปรากฏ ปลาหมอคางดำเคยถูกเรียกว่า “ปลาหมอสีคางดำ” ซึ่งเป็นชื่อที่ใช้กันแพร่หลายในวงการปลาสวยงาม โดยเฉพาะในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา อย่างไรก็ตาม ในอดีต ปลาชนิดนี้มีชื่อว่า “ปลาหมอเทศข้างลาย” การเปลี่ยนแปลงชื่อเหล่านี้อาจเกิดจากการพยายามหลีกเลี่ยงการเชื่อมโยงกับปัญหาทางกฎหมายหรือความไม่พึงประสงค์ต่าง ๆ การเปลี่ยนแปลงชื่อในวงการปลาสวยงามจาก “ปลาหมอเทศข้างลาย” สู่ “ปลาหมอข้างลาย” และสุดท้ายคือ “ปลาหมอสีข้างลาย” ทำให้ผู้คนสับสนและไม่แน่ใจว่าแท้จริงแล้วชื่อที่ถูกต้องของปลาชนิดนี้คืออะไร

หากย้อนไปก่อนจะเป็นปลาหมอสีคางดำนั้น ปลาชนิดนี้มีชื่อว่า ปลาหมอเทศข้างลาย ซึ่งเป็นปลาชนิดเดียวกัน ซึ่งการอ้างอิงชื่อปลานั้น ต้องใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ภาษาอังกฤษ เพราะในแต่ละประเทศจะมีชื่อท้องถิ่นต่างกัน อย่างประเทศไทยก็เปลี่ยนตามยุคสมัย จากปลาหมอเทศข้างลาย สู่ปลาหมอข้างลาย สู่ปลาหมอสีข้างลาย และเมื่อปลาสวยงามกระโดดหนีประเด็นร้อน จึงลดรูปชื่อเรียกมาเป็นปลาหมอข้างลาย

ปริศนาที่มาของชื่อเหล่านี้อาจเป็นกุญแจสำคัญในการสืบหาต้นตอของการระบาดของปลาหมอคางดำ เนื่องจากการเปลี่ยนแปลงชื่ออาจบ่งบอกถึงความพยายามในการปิดบังหรือลดความรุนแรงของปัญหา ท่ามกลางการแพร่ระบาด ปรากฏการณ์นี้ได้ชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการใช้ชื่อที่ถูกต้องและชัดเจนในการจัดการข้อมูลและการสื่อสารกับสาธารณชน

ในขณะที่ประเทศไทยมีกฎหมายห้ามนำเข้าปลาหมอคางดำ พบว่า 11 บริษัท ได้รับอนุญาตให้ส่งออกปลาชนิดนี้ในช่วงปี 2556-2559 โดยมีการส่งออกไปยัง 17 ประเทศ รวมกว่า 230,000 ตัว สถานการณ์นี้สร้างคำถามเกี่ยวกับการบังคับใช้กฎหมายและการจัดการด้านสิ่งแวดล้อมของประเทศ

การกล่าวโทษเจ้าหน้าที่ชิปปิ้งในการกรอกข้อมูลผิดพลาดว่า “ปลาหมอเทศข้างลาย” แทนที่จะใช้ชื่อวิทยาศาสตร์ Sarotherodon melanotheron หรือชื่อสามัญ “Blackchin tilapia” ดูเหมือนจะไม่เป็นเหตุผลที่เพียงพอ เนื่องจากการส่งออกระหว่างประเทศต้องอ้างอิงชื่อวิทยาศาสตร์ที่เป็นสากล การใช้ชื่อที่ไม่ถูกต้องอาจส่งผลต่อการบังคับใช้กฎหมายและการควบคุมการแพร่ระบาดของสายพันธุ์ต่างถิ่น

เปรียบเสมือนการขอวีซ่าในการไปต่างประเทศต้องเป็นชื่อจริงสกุลจริงเป็นภาษาอังกฤษ ต่อให้มีชื่อไทยหลายชื่อ การข้ามแดนย่อมอ้างอิงชื่อจริง ไม่ใช่ชื่อเล่นแน่นอน สรุปว่า การโยนความผิดให้ชิปปิ้ง คงไม่ใช่ทางออกที่ดีของ 11 บริษัทที่ส่งออกปลาหมอคางดำแน่นอน

ดังนั้น การตรวจสอบชื่อและข้อมูลการส่งออกอย่างละเอียดและโปร่งใสเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อป้องกันความสับสนและปัญหาทางกฎหมายในอนาคต ความรับผิดชอบในเรื่องนี้ต้องอยู่ในมือของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ไม่ใช่เพียงเจ้าหน้าที่ชิปปิ้งหรือผู้ส่งออกแต่เพียงอย่างเดียว

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

-

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น