บิ๊กคลีนนิ่ง..พ่อเมืองกาญจน์สั่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าช่วยล้างโคลนบ้านเรือนชาวบ้านปากแซง ด้านอธิบดีกรมอุทยานฯสั่งอุทยานฯไทรโยคนำกำลังเข้าร่วมช่วย รวมทั้งกำลังตชด.ที่13 นำรถน้ำและกำลังพลเข้าร่วม ต่างตะลึงพบภาพในหลวงร.9 พร้อมนามบัตรที่ติดด้านล่างกรอบไม้ ถูกน้ำท่วม4วันสภาพเหมือนไม่เคยเปียกน้ำ
หลังจากเกิดอุทกภัยน้ำท่วมบ้านเรือนชาวบ้านปากแซง ม.3 ต.ท่าเสาอ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี กว่า30หลังคาเรือน และที่พักรีสอร์ทต่างๆกว่า20แห่ง ระดับน้ำสูงจนทุกแห่งจมมิดหลังคา มา4วัน ผวจ.กาญจนบุรีได้เร่งแก้ไขช่วยเหลือสั่งปิดเขื่อนวชิราลงกรณ์ และให้เขื่อนชลประทานอ.ท่าม่วง เปิดประตูระบายน้ำ ทำให้ระดับน้ำลดลงอย่างรวดเร็ว ล่าสุดน้ำลดจนเกือบปกติ แต่พบว่ามีโคลนเลนเต็มไปหมดตั้งแต่บนหลังคา จนถึงในตัวบ้านเรือนประชาชน ตามข่าวที่ได้เสนอไปแล้ว
เมื่อเวลา 10.00น.วันที่ 30 ก.ค.2567 หลังจากระดับลดจนเข้าสู่ภาวะเกือบจะเป็นปกติ ปัญหาที่เกิดขึ้นตามมาพบว่าบนถนนและบ้านเรือนประชาชน มีโคลนเลนเต็มไปหมด บนซากปรักหักพังสิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ ปภ.จังหวัดกาญจนบุรีตั้งรถครัวปรุงอาหารที่บริเวณวัดน้ำตก ซึ่งห่างจะบ้านปากแซงซึ่งภัยพิบัติราว3กม. โดยหลังปรุงเสร็จได้ใส่กล่องนำลงไปแจกจ่ายให้ชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน ขณะเดียวกัน นายอนันต์ โพธิ์พันธ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 บ้านโป่งเปิดเผยว่า นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช ได้สั่งการให้ส่งกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ที่อยู่ใกล้ที่เกิดภัยพิบัติ เข้าช่วยเหลือชาวบ้านในทันที โดยนายสาคร สืบสาย หัวหน้าอุทยานฯไทรโยค ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่กว่า20คนเดินไปช่วยเหลือชาวบ้านแล้ว
ด้านพ.ต.อ.สุกิจ ก้องจตุศักดิ์ ผกก.ตชด.ที่13 ได้สั่งการให้ตชด.136 อ.ไทรโยค นำรถฉีดน้ำพร้อมกำลังเดินทางไปร่วมช่วยเหลือประชาชน ที่ประสพภัยพิบัติบริเวณบ้านปากแซง เช่นกัน
ข่าวที่น่าสนใจ
ต่อมาร้อยโท ทศพล ไชยโกมินทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้ประสานสั่งการให้เทศบาลต่างๆที่อยู่ใกล้เคียงนำรถดับเพลิงไปช่วยฉีดน้ำล้างโคลน เนื่องจากเทศบาลน้ำตกไทรโยคน้อย มีรถฉีดน้ำแค่คันเดียว และไม่มีกำลังเจ้าหน้าที่เพียงพอ จึงต้องประสานให้เทศบาลข้างเคียงเข้าช่วย ซึ่งมีอบต.วังกระแจะ อบต.ศรีมงคล นำรถดับเพลิงมาร่วมช่วยฉีดน้ำ ล้างโคลนบ้านเรือนประชาชน
ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่และชาวบ้านได้ร่วมกันทำความสะอาดล้างโคลน ที่เรือนริมแควรีสอร์ท ต่างตกตะลึง เมื่อพบว่า พระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่9 ในชุดทรงเครื่องเต็มองค์ในกรอบไม้ ที่มีกระจกปิดด้านหน้า ที่แขวนไว้บริเวณใกล้เพดานในบ้าน ซึ่งถูกน้ำท่วมจมมิดหลังคามาถึง3วัน กลับไม่มีร่องรอยเปียกน้ำแต่อย่างใด นามบัตรที่เสียบไว้ก็ไม่มีร่องรอยเปียกน้ำเช่นกัน แต่รูปภาพอื่นๆกรอบเสียหายหลุดแตกหัก ภาพก็เละเทะเปื่อยขาดหลุดลุ่ย เป็นชิ้นๆ เพราะแช่น้ำมาถึง3วัน สร้างความอัศจรรย์ให้แก่บรรดาทุกคนที่เห็น
นายวุฒิเดช ก้อนทองคำ เจ้าของเรือนริมแควรีสอร์ท เล่าด้วยความตื่นเต้นปิติยินดีว่า พระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่9 นี้ พลเอก สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม เมื่อครั้งที่ดำรงตำแหน่ง ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่9 ค่ายสุรสีห์ จ.กาญจนบุรี ได้มอบให้ตนไว้ จึงนำมาแขวนไว้ที่สูงในบ้านห่างเพดานฝ้าราว30ซม. แขวนไว้มานานหลายปี จนเกิดน้ำท่วมสูงตั้งแต่วันที่ 26 ก.ค.ที่ผ่านมา ระดับน้ำสูงท่วมหลังคาจนมิด มองไม่เห็นหลังคา มาเป็นเวลา 3 วัน จนมาถึงวันนี้เจ้าหน้าที่อุทยานฯไทรโยค จนท.ตชด.136 และคนในบ้าน ต่างช่วยกันล้างโคลนทำความสะอาด ก็ต้องตกใจ
เมื่อพบว่าพระบรมฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รัชกาลที่9 ไม่มีร่องรอยเสียหายใดๆ เหมือนไม่เคยถูกน้ำ ส่วนภาพอื่นๆที่แขวนกลับแตกหักเสียหายทั้งหมด สร้างความอัศจรรย์ให้แก่ทุกคนที่ได้พบเห็น นับว่าเป็นนิมิตหมายที่ดี และเชื่อว่าพระองค์ท่านทรงเป็นห่วงชาวบ้านพสกนิกรที่ได้รับความทุกข์ยาก จึงสร้างปาฎิหารย์ปรากฏให้เห็น เพื่อปลอบขวัญเป็นแรงใจ กำลังใจให้กับผู้ได้ความเดือดร้อน ให้สู้ชีวิตไม่ท้อถอย ถึงแม้จะทุกข์ยากเดือดร้อนมากน้อยแค่ไหนก็ตาม อย่างไรก็ตาม หลังจากมีการบิ๊กคลีนนิ่งล้างโคลน สิ่งที่ตามมามากมาย ไม่พ้นขยะเศษวัสดุสิ่งของที่แตกหักเสียหาย ที่ชาวบ้านกองอยู่ริมถนนเป็นจำนวนมาก ทางเจ้าหน้าที่เทศบาลน้ำตกไทรโยคน้อย ได้มาแจ้งแก่ชาวบ้านว่า รถเก็บขยะไม่สามารถเก็บได้ ต่อมาขณะรายงานข่าวนายเนรมิต เหลืองอร่ามฟ้า นายอำเภอไทรโยค ทราบเรื่องขยะ จึงเร่งหารถมาเก็บขยะโดยเร่งด่วน รวมทั้งได้ประสานวิทยาลัยเทคนิค ส่งนักเรียนมาช่วยซ่อมแซมอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ให้แก่ประชาชนต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง