รัฐบาลนับถอยหลังลงทะเบียนรับสิทธิ์ “ดิจิทัลวอลเล็ต” 1 ส.ค.นี้ พร้อมเปิด 4 จุดช่วยอำนวยความสะดวกปชช.

โฆษก รบ.นับถอยหลังผู้ใช้สมาร์ตโฟนลงทะเบียนรับสิทธิ์เงินดิจิทัล 1 ส.ค. พร้อมเปิด 4 จุดช่วยอำนวยความสะดวกเพิ่มเติม ย้ำคืนนี้แอปทางรัฐจะหยุดทำงานราว 2-3 ชั่วโมง เพื่อรีเซ็ตระบบ

รัฐบาลนับถอยหลังลงทะเบียนรับสิทธิ์ “ดิจิทัลวอลเล็ต” 1 ส.ค.นี้ พร้อมเปิด 4 จุดช่วยอำนวยความสะดวกปชช. – Top News รายงาน

 

 

เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2567 นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันที่ 1 สิงหาคม 2567 นี้ ตั้งแต่เวลา 08.00 น. เป็นต้นไป หลังจากนั้นลงทะเบียนได้ 24 ชั่วโมง โดยพรุ่งนี้จะเป็นวันแรกของการเปิดระบบลงทะเบียนและยืนยันตัวตนโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet เน้นย้ำการลงทะเบียนของผู้ที่มีสมาร์ตโฟน สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน “ทางรัฐ” ได้โดยตรงจากแพลตฟอร์มไอโอเอส และ แอนดรอยด์ นอกจากนี้รัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังได้เตรียมพร้อมอำนวยความสะดวกประชาชนที่ลงทะเบียนสำหรับผู้ที่มีสมาร์ตโฟน ด้วยการตั้งจุดให้บริการ หรือ Walk-in ช่วยลงทะเบียน และสอบถามข้อมูลต่าง ๆ ใน 4 สถานที่หลักทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม – 15 กันยายน 2567 นี้ ได้แก่
1) ศูนย์ดิจิทัลชุมชน จำนวน 1,722 ศูนย์
2) ที่ทำการไปรษณีย์ จำนวน 1,200 แห่ง (ยกเว้น ไปรษณีย์อนุญาต (เอกชน) และร้านค้าให้บริการ)
3) ธนาคารออมสิน 1,047 แห่ง ทั่วประเทศ
4) ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) จำนวน 1,238 แห่ง

 

ดิจิทัลวอลเล็ต

ข่าวที่น่าสนใจ

ขณะที่กลุ่มของผู้ที่ไม่มีสมาร์ตโฟนนั้น จะเปิดให้ลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการฯ ตั้งแต่วันที่ 16 กันยายน – 15 ตุลาคม 2567 ณ สถานที่ที่รัฐบาลกำหนด ซึ่งจะแจ้งระบุสถานที่อย่างเป็นทางการอีกครั้ง โดยจะต้องใช้บัตรประชาชนในการใช้จ่าย และต้องตรวจสอบคุณสมบัติสถานะบุคคลตามทะเบียนบ้าน

ทั้งนี้ในช่วงหัวค่ำวันนี้ ระบบแอปฯทางรัฐจะหยุดทำงานราว 2-3 ชั่วโมง เพื่อรีเซตระบบอีกครั้ง เตรียมความพร้อมสำหรับเปิดรับการลงทะเบียนในวันที่ 1 สิงหาคม สำหรับประชาชนที่สนใจศึกษาข้อมูล ข่าวสาร และรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถเข้าเว็บไซต์ digitalwallet.go.th หรือ เว็บไซต์กระเป๋าเงินดิจิทัล.รัฐบาล.ไทย และศูนย์บริการข้อมูล โทรสายด่วน. Digital Wallet 1111 ซึ่งพร้อมให้บริการและคำแนะนำปรึกษาตลอด 24 ชั่วโมง

นายชัย กล่าวอีกว่า รัฐบาลเชื่อมั่นว่าโครงการฯ นี้จะเป็นพายุหมุนทางเศรษฐกิจที่สำคัญในการกระจายรายได้ เกิดการจับจ่ายใช้สอย สร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศตั้งแต่ระดับฐานราก พร้อมทั้งช่วยบรรเทาภาระค่าครองชีพ ส่งเสริมให้ประชาชนและชุมชน สามารถพึ่งพาตนเองได้ เพิ่มโอกาสในการประกอบอาชีพ รวมถึงเป็นรากฐานสำคัญด้านเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ ส่งเสริมให้เกิดนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีดิจิทัลที่ประโยชน์ต่อเศรษฐกิจและสังคมในอนาคต

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สุดทน "พ่อพิการ" ร้อง "กัน จอมพลัง" หลังถูกลูกทรพี ใช้จอบจามหัว-ทำร้ายร่างกาย จนนอน รพ.นับเดือน
สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม
ครูบาอริยชาติ เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ฉลองสมโภช 18 ปีวัดแสงแก้วโพธิญาณ และทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล 44 ปี
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา "ชวาล" ส.ส.พรรคประชาชน ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ โทษคุก-ตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
จีนเตือนสหรัฐกำลังเล่นกับไฟหลังส่งอาวุธให้ไต้หวัน
อิลอน มัสก์วิจารณ์แรงผู้นำเยอรมันเหตุโจมตีตลาดคริสต์มาส

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น