“สหรัฐ” ปัดเอี่ยวสังหาร “ฮานิเยห์” ผู้นำฮามาส นักวิชาการไทย ชี้ถ้าอิหร่านตอบโต้แรง น่าห่วงจะลามเป็นสงครามโลก ครั้งที่ 3

"สหรัฐ" ปัดเอี่ยวสังหาร "ฮานิเยห์" ผู้นำฮามาส นักวิชาการไทย ชี้ถ้าอิหร่านตอบโต้แรง น่าห่วงจะลามเป็นสงครามโลก ครั้งที่ 3

Top news รายงาน แอนโธนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศของสหรัฐ ให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว CNA ของสิงคโปร์ ระหว่างการเยือนสิงคโปร์เป็นเวลา 2 วัน ระบุว่า สหรัฐไม่ทราบหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สังหารอิสมาอิล ฮานิเยห์ ผู้นำระดับสูงของกลุ่มฮามาส ที่ถูกสังหารที่บ้านพักของเขาในกรุงเตหะราน เมืองหลวงของอิหร่าน ซึ่งผลกระทบของเรื่องนี้นั้น ก็เป็นเรื่องยากมากที่จะคาดเดา แต่สหรัฐจะทำงานต่อไปตราบเท่าที่จำเป็น เพื่อไปถึงจุดสำคัญของการหยุดยิง เพื่อยุติสงคราม

บลิงเคนกล่าวต่อว่า ความจำเป็นในการหยุดยิงยังคงเป็นหนทางที่ดีที่สุดในการลดความตึงเครียดในตะวันออกกลาง สิ่งหนึ่งที่เราให้ความสำคัญคือการพยายามทำให้แน่ใจว่า ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในฉนวนกาซาจะไม่แพร่กระจาย ไม่ไปที่อื่น ไม่ทวีความรุนแรงขึ้น และเราจะดำเนินการเช่นนี้ต่อไป ขณะนี้ วิธีที่ดีที่สุดในการลดอุณหภูมิทั่วทุกแห่ง และนำเราไปสู่เส้นทางที่ดีกว่าคือ การหยุดยิงในฉนวนกาซา

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ขณะเดียวกัน ดร.รุสตั้ม หวันสู ผู้เชี่ยวชาญด้านกิจการระหว่างประเทศ และอาจารย์ประจำสถาบันสันติศึกษา แห่งมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ของไทย ได้แสดงความเห็นกับสำนักข่าวแทสของรัสเซีย เกี่ยวกับเหตุฮานิเยห์ถูกสังหารว่า อิสราเอลสังหารผู้นำระดับสูงของกลุ่มฮามาสหลายคน รวมถึงผู้ก่อตั้งกลุ่มฮามาส ซึ่งนายกรัฐมนตรีอิสราเอลก็ได้ประกาศไว้อยู่แล้ว ที่จะตั้งเป้าไปที่ผู้นำกลุ่มฮามาสทั้งภายในและภายนอกฉนวนกาซา เพราะเชื่อว่า การกระทำดังกล่าวจะทำให้กลุ่มฮามาสอ่อนแอลง และท้ายที่สุดจะนำไปสู่การล่มสลายของกลุ่ม

อ. รุสตั้มระบุต่อว่า แต่คำถามที่ต้องถามคือ นโยบายสังหารผู้นำกลุ่มฮามาสในอดีตของอิสราเอล ทำให้กลุ่มฮามาสอ่อนแอลงจริงหรือไม่ คำตอบคือไม่ อิสราเอลไม่สามารถโค่นล้มกลุ่มฮามาสได้ ทั้งนี้เป็นเพราะฮามาสมีอุดมการณ์ทางการเมือง ที่ต่อต้านการยึดครองของอิสราเอล ดังนั้น แม้คนหนึ่งตายลง แต่อุดมการณ์นั้น ไม่เคยตายไปด้วย ผู้นำของรุ่นหนึ่งถูกฆ่า แต่ก็ถูกแทนที่ด้วยผู้นำคนใหม่ไม่สิ้นสุด ตราบใดที่ปัญหาหลักยังไม่ได้รับการแก้ไข ซึ่งก็คือการยึดครองปาเลสไตน์ของอิสราเอล

 

อ. รุสตั้มระบุต่ออีก ถึงสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้นว่า อิสราเอลน่าจะหวังให้อิหร่านตอบโต้อิสราเอล ซึ่งหากอิหร่านตอบโต้มาอย่างรุนแรง ก็อาจจะสามารถนำเอาสหรัฐเข้าสู่สงครามได้ อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่านี่จะเป็นทางเลือกที่สหรัฐยังไม่พร้อม แต่ถ้าจำเป็นก็จะหลีกเลี่ยงได้ยาก ดังนั้น สิ่งที่ต้องจับตามองต่อไปคือ อิหร่านจะตอบโต้อย่างไร ซึ่งหากอิหร่านตอบโต้รุนแรง ก็อาจนำไปสู่สงครามในภูมิภาคที่ทวีความรุนแรงมากขึ้น แต่หากตอบโต้ในระดับเดียวกับที่อิหร่านทำเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการโจมตีเพียงเล็กน้อยและไม่สร้างความเสียหายมากนัก ความขัดแย้งอาจไม่รุนแรงจนเกินไป

 

ทั้งนี้ อ. รุสตั้มได้สรุปในความเป็นไปได้ว่า สถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุดคือ อิหร่านตอบโต้อย่างหนัก อิสราเอลจึงต้องทำสงครามกับอิหร่าน แล้วลากสหรัฐเข้าไปด้วย ส่วนจีนและรัสเซียก็เข้าสู่สงครามเช่นกัน และแน่นอนว่าสงครามโลกครั้งที่ 3 ก็สามารถเริ่มต้นขึ้นได้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ทบ.ขานรับนโยบายปราบยาเสพติด เพิ่มทหาร 6 กองกำลัง วัดเคพีไอ 10 กพ.-10 มิ.ย.
ซีพีเอฟ ซีพี-เมจิ ร่วมหนุนสระบุรีแซนด์บ๊อกซ์ "รวมพลังสร้างเมืองคาร์บอนต่ำแห่งแรกของประเทศไทย”
สละเรือแล้ว! "ผบ.อิสราเอล" ยื่น "ลาออก" เซ่นเหตุ 7 ต.ค. ไล่แทงกันในเทลอาวีฟเจ็บ 5
สุดปัง “นายกฯ” สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF
ทบ.ยืนยันอีกรอบ! ปมร้อน “แสตมป์” ไม่เกี่ยวกองทัพ พบไม่เคยร้อง 112
ผบ.ทร.เข้าเยี่ยม พร้อมมอบของบำรุงขวัญ สร้างกำลังใจทหารผ่านศึก ขอบคุณเสียสละเพื่อชาติจนทุพพลภาพ
“อัจฉริยะ” ยอมเสี่ยงชีวิต มาขึ้นไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาล พร้อมเปิดแผลผ่าตัดโชว์นักข่าว
"อิสราเอล" บิดหยุดยิง ถล่มเวสต์แบงก์ดับเกลื่อน "ฮามาส" รวมพลด่วน
ตม.4 บุกทลายเว็บพนันฯเกาหลีใต้ ใช้ไทยเป็นฐานบัญชาการควบคุมทั่วโลก เงินหมุนเวียน 100 ล้านบาท
เปิดคำพิพากษา “เต้ มงคลกิตติ์” ทำสัญญาประนีประนอม ยอมขอโทษ หมิ่นกล่าวหา “ศักดิ์สยาม”

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น