สภ.พนมดงรัก รวบแก๊งค้าไม้พะยูงคาด่าน พร้อมของกลางไม้พะยูงแปรรูป 43 ท่อน มูลค่ากว่าห้าแสนบาท

สุรินทร์ - สภ.พนมดงรัก รวบแก๊งค้าไม้พะยูงคาด่าน พร้อมของกลางไม้พะยูงแปรรูป 43 ท่อน มูลค่ากว่าห้าแสนบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2567 เวลา 19.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.พนมดงรัก ตั้งจุดตรวจเพื่อป้องกันและปราบปรามสิ่งผิดกฏหมาย ที่บริเวณถนนหมายนเลข 224 หน้า อบต.ตาเมียง ต.ตาเมียง อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะตั้งจุดตรวจได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ตำรวจชุด ปทส.กก.สืบสวน ภ.จว.สุรินทร์ ว่าจะมีการลำเลียงไม้พะยูงผิดกฎหมาย ผ่านเส้นทางดังกล่าว จนเมื่อเวลา 19.45 น. ได้มีรถต้องสงสัยเป็นรถยนต์กระบะตู้ทึบ โตโยต้ารีโว้สีเทา หมายเลขทะเบียน ผต 9676 นครสวรรค์ขับเข้มายังจุดตรวจ เจ้าหน้าที่จึงเรียกให้หยุดเพื่อตรวจสอบ

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เบื้องต้นพบว่ารถดังกล่าวมี นายกิตติพงษ์ ภู่รัตน์ เป็นชาว อ.หนองบัว จ.นครสวรรค์ เป็นคนขับ และนายโสภณ ขุนโพธิ์ เป็นชาว อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา นั่งคู่คนขับมาด้วย โดยขณะตรวจ ค้น นาย กิตติพงษ์ มีท่าทางเป็นพิรุธ โดยแจ้งกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า ภายในกระบะบรรทุก เป็นไม้เฟอร์นิเจอร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงขอให้เปิดตู้บรรทุกด้านหลังออก จึงพบว่าเป็นไม้พะยูงแปรรูปจำนวนหลายท่อน สอบถามถึงเอกสารที่มาที่ไป ของไม้พะยูง นาย กิตติพงษ์ ก็ไม่สามารถนำเอกสารมาแสดงต่อเจ้าหน้าที่ได้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้เชิญตัวทั้งสองคนมาที่ สภ. พนมดงรัก เพื่อทำการตรวจสอบ โดยประสาน ชุด ปทส. สืบสวน ภ.จว.สุรินทร์ และเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เจ้าหน้าที่อุทยานฯ ฝ่ายปกครองและหน่วยทหารในพื้นที่มาร่วมตรวจสอบไม้ของกลาง ดังกล่าว

 

 

 

 

นาย กิตติพงษ์ ภู่รัตน์ รับว่า ตนเองมีหน้าที่ขับรถมาขนไม้ โดยไปรับมาจากพื้นที่ อ.เมืองจันทร์ จ.ศรีสะเกษ มีผู้ว่าจ้างคือ นาง เสาวนีย์  โดยได้ค่าจ้างเป็นเงิน 5,000 บาท โดยให้นำมาส่งในพื้นที่ อ. พนมดงรัก ทางด้านนาย โสภณ ขุนโพธิ์ ให้การว่า ตนได้มารอ นาย กิตติพงษ์ ในพื้นที่ อ. พนมดงรัก และได้นั่งรถมากับนาย กิตติพงษ์ เพื่อจะเอาไม้ ไปส่งตามที่นาง เสาวนีย์ นัดหมาย โดยยอมรับว่าไม้พะยูงส่วนหนึ่งเป็นของตน และอีกส่วนหนึ่งเป็นของนาง เสาวนีย์  ซึ่งจะได้นำเอกสารสิทธิ์มาชี้แจงต่อเจ้าหน้าที่ต่อไป

ขณะที่ต่อมา นายปราโมทย์ อายุ 42 ปี สามีของนางเสาวนีย์  ได้นำเอกสารหลักฐานแสดงกรรมสิทธิ์ต้นไม้พะยูงที่ตัดจำนวน 10 ท่อน ในพื้นที่โฉนตที่มีเอกสารสิทธิ์ มาแสดงและยืนยันต่อ จนท.ถึงความบริสุทธิ์ใจ และยืนยันว่า ได้ว่าจ้างรถล่องคันดังกล่าว จำนวน 10 ท่อนเท่านั้น เพื่อให้ไปส่งที่ จ.นครราชสีมา ส่วนไม้ของกลางที่เหลือตนเองและภรรยาไม่ทราบว่ารถคันดังกล่าวไปรับบรรทุกมาจากที่ใด ไม่ใช่อย่างที่ข่าวเสนอออกไปก่อนหน้านี้ว่านางเสาวนีย์เป็นนายทุนและเจ้าของไม้ทั้งหมด ตนและภรรยาจึงขอความเป็นธรรมในครั้งนี้ด้วย

ซึ่งในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ ตำรวจได้ส่งให้ร้อยเวรสอบสวน สภ พนมดงรัก เพื่อทำการสอบสวน  หากมีความผิดก็จะดำเนินนคดีตามกฎหมาย ต่อไป.

 

 

 

 

ทีมข่าวภูมิภาค จ.สุรินทร์ รายงาน

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

บีบหัวใจ ญาติช็อก "ศพหลานสาว" โผล่ลัทธิประหลาด เตรียมนำหลักฐานติดต่อขอรับร่างไปบำเพ็ญกุศลฯ
รองนายกเมืองพัทยา สั่งระงับสนามยิงปืน หลังชาวบ้านผวาหมู่บ้านไม่กล้านอนบ้านตัวเอง ทนทุกข์เสียงปืน และวิถีกระสุนมานานกว่า 4 เดือน
"ทวี" แจงกมธ.มั่นคงฯ ปมชั้น 14 ย้ำราชทัณฑ์ทำตามหน้าที่ ชี้เปิดประวัติรักษา ต้องให้ "ทักษิณ" ยินยอม
นายกฯ ยิ้มรับศาลรธน. ยกคำร้อง “ทักษิณ-เพื่อไทย” ล้มล้างการปกครอง
‘แอ็คมี่’ นักธุรกิจนักลงทุนหมื่นล้าน หนุนประเทศไทยใช้ Bitcoin เป็นกองทุนสำรอง
อย่ากระพริบตา... ตามไปดูสนามเลือกตั้ง นายก อบจ. เมืองคอนกระแสน้ำวาริน ชิณวงศ์ สร้างปาฏิหาริย์ล้มบ้านใหญ่ ได้จริงหรือไม่-ในขณะที่คอการเมืองชี้บ้านใหญ่"เดชเดโช กนกพร"นอนมากำชัยชนะเป็นนายก อบจ. รอบ 2 อย่างแน่นอน
มติสภากทม.ไฟเขียว งบรายจ่ายเพิ่มปี 68 กว่า 1.4 หมื่นล้าน นำใช้คืนหนี้ BTS
“อี้ แทนคุณ” รัวบาลีใส่ไม่ยั้ง “พระปีนเสา” อ้าปากหวอ-แปลไม่ถูก แถขับรถบิณฑบาตไม่ผิด
ชื่นชมน้องรดายอดกตัญญูขายข้าวไข่เจียวหน้าโรงเรียนเพื่อส่งตนเองเรียนและเลี้ยงแม่ที่เป็นโรคไตระยะสุดท้าย
ชื่นชม 2 นร. ม. 2 เก็บกระเป๋าเงินได้ โร่ แจ้ง ตร. ส่งคืนเจ้าของ

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น