พิธีกร : อยากให้คุณต้นอ้อเล่าบรรยากาศในศาลตอนที่ครอบครัวเชื่อมจิตคุยกับทนายอนันต์ชัยได้ข่าวว่าเดือดมาก มันเป็นยังไงคะ?
ต้นอ้อ : ต้องบอกว่าเดือดมาก ขณะที่เราลงไปเข้าห้องน้ำข้างล่าง ยังได้ยินเสียงของทนายอนันต์ชัยดังลงไปเลย จะต้องบอกก่อนว่าทนายอนันต์ชัยมีน้ำเสียงที่ค่อนข้างดุอยู่แล้วด้วย ส่วนประเด็นเนื้อหาอาจจะพูดเจาะลึกไม่ได้ แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นเรื่องของคลิปต่างๆ เรื่องของศาสนา ซึ่งทนายอนันต์ชัยก็แมนๆ รับหมดอะไรที่ทำจริง แต่เรื่องเนื้อหารายละเอียดอื่นๆ มันลึกซึ้งแล้วมันเกี่ยวกับเด็ก ทำให้เราอาจจะพูดถึงตรงนั้นไม่ได้ แต่ดูจากคุณแม่ของเด็กค่อนข้างที่จะเครียด ส่วนพ่อของเด็กก็นิ่งๆสบายๆ แต่กริยาคุณแม่ก็คือเครียดอย่างชัดเจน
พิธีกร : แล้วเรื่องของการยื่นขอตรวจสุขภาพเด็กก็คือยื่นตรงนั้นเลยใช่ไหมคะ?
ต้นอ้อ : ก็ยื่นตรงนั้นเลย แล้วปฏิกิริยาของแม่ก็อาการออกเยอะ ว่าเครียด หลังจากศาลลงไปพิจารณาประชุมกัน เกี่ยวกับเรื่องนี้ ซึ่งเราก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า เขากลัวอะไร ซึ่งโรงพยาบาลยุวประสาทคือโรงพยาบาลที่ตรวจเด็กพิเศษเฉพาะทาง คือเรายื่นขอไป ซึ่งเรารู้อยู่แล้วว่าอาจจะไม่ได้ สุดท้ายศาลก็ยก
พิธีกร : ทีมที่ต้องการฟ้องร้อง “ครอบครัวเชื่อมจิต” ได้มีการไปฟ้องที่ปอท. เรื่องราวมันเป็นยังไงตอนนี้เรื่องไปถึงไหนแล้วคะ ?
ต้นอ้อ : ล่าสุดที่มันช้าไปอีกหน่อย เพราะว่ารัฐมนตรีกระทรวงพัฒนาความมั่นคงของมนุษย์ ก็คือท่านวราวุธ เพิ่งจะเซ็นอนุมัติให้พม.มาฟ้องทางครอบครัวเชื่อมจิต ที่ทราบมาเรื่องที่ฝั่งเราฟ้องปอท. มีคดี พรบ.คอมพิวเตอร์ , พรบ.คุ้มครองเด็ก , ฉ้อโกง
และตอนนี้ตำรวจก็กำลังตรวจสอบเพิ่มเติมว่าจะเข้าข่ายการฟอกเงินหรือไม่ เพราะว่าไล่ดูเส้นทางการเงินมีเรื่องของผลประโยชน์ที่ดินเข้ามาอีกมากมาย ในการแจ้งความดำเนินคดีก็จะมีด้วยกัน 3 กลุ่ม ครอบครัว แอดมิน แล้วก็มีทนาย
ส่วนประเด็นเรื่องของการฟ้องเด็กเราต้องบอกก่อนว่าเราไม่ได้ฟ้องเพื่อให้เด็กมารับความผิดนะ แต่ในมาตราของการคุ้มครองเด็กมันจะมีมาตราหนึ่งที่เด็กอายุไม่ถึง เขาก็จะไม่ได้รับโทษ แต่เขาจะได้รับความคุ้มครองจากพม. ซึ่งเราก็มีการแจ้งความเด็กด้วย แต่ในเรื่องของความเป็นจริง ทางด้านกฎหมายเด็กจะไม่ได้รับโทษ เพราะเด็กอยู่ในช่วงอายุ 8 ขวบ แต่จะเป็นการให้เจ้าหน้าที่คุ้มครองเด็ก ถึงแม้ว่าเด็กจะไม่ได้รับโทษ แต่ที่เราแจ้งความไปเพื่อที่จะแยกเด็กไปอยู่ในการคุ้มครองของพม. ต้องบอกว่าสิ่งที่เราทำไม่ได้หวังร้ายกับเด็กเลย แล้วเราก็พูดในศาลว่า เราไม่เคยหวังร้ายกับเด็ก มีบางเนื้อหาในศาลที่ทนายอนันต์ชัยพูดว่า “ผมรักนะ แต่ผมไม่ชอบผู้ปกครองเด็ก ที่ให้ลูกมาทำแบบนี้”
พิธีกร : มองว่าครอบครัวอยู่เบื้องหลังเรื่องนี้หรอคะ?
ต้นอ้อ : ไม่ใช่แต่แค่อ้อมองนะ อ้อว่าประชาชนทั่วไปก็มองออก ลองสังเกตที่เขาไลฟ์สดลูกเขาจะไม่ได้ออกมาสอนให้ทำอะไรแบบยาวๆ ส่วนมากจะเป็นแม่มากกว่าที่มาสอน ข้อกระทำต่างๆ ก็จะเป็นที่แม่อ้างว่าน้องบอกมา ซึ่งถ้าสังเกตดีๆ จะเห็นว่าเด็กออกมาพูดไม่กี่วิ แล้วทำให้ทุกวันนี้เด็กก็เลยมีพฤติกรรมที่ก้าวร้าวมากขึ้น อาจจะทำให้ตัวเด็กคิดว่าเขาเป็นผู้มีพลังวิเศษไปแล้ว ซึ่งอ้อมองว่ามันอันตรายต่ออนาคตเขา
พิธีกร : คดีที่เอาผิดเชื่อมจิตไปอยู่ในชั้นปอท. และขั้นตอนต่อไปมันจะต้องยังไงต่อคะ ?
ต้นอ้อ : ก็จะต้องมีหมายเรียก ซึ่งตอนนี้ก็กำลังดูอยู่ว่าจะเป็นหมายเรียกหรือว่าหมายจับ อันนี้อ้อยังไม่แน่ใจ เขาส่วนมากเรื่องนี้จะเป็นทนายอนันต์ชัยประสานเรื่องนี้ เพราะว่าช่วงสัปดาห์ก่อนทางพม. ได้เข้าไปแจ้งความ ไม่มั่นใจว่าแจ้งข้อหาอะไร น่าจะเป็นพรบ.คุ้มครองเด็ก
พิธีกร : ถ้าจะบอกไทม์ไลน์ได้ไหมคะ ว่าเรื่องคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว?
ต้นอ้อ : ที่เราคุยไว้กับเจ้าหน้าที่จะออกหมายแล้ว แต่พอคราวนี้รอ พม. ก็เลยทำให้ขยับไปอีก เพราะว่าตอนนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สำนักพุทธก็แจ้งแล้ว
พิธีกร : ในเมื่อทางด้านกลุ่มของเชื่อมจิต ไม่ได้มีความสนใจหรือว่าเกรงกลัว และยังมีการจัดกิจกรรมต่อไป แล้วเราจะทำยังไงต่อคะ?
ต้นอ้อ : หน้าที่ของพวกเราตอนนี้ก็คือนำเรื่องสู่เข้ากลุ่มกระบวนการหมดแล้ว รอแค่ปอท.อย่างเดียว แต่ในส่วนเรื่องที่เขาฟ้องร้องเรา เราก็ไปค่ะ ไปตามนัดทุกครั้งไม่มีปัญหา คืออ้อเลือกที่จะลงมาทำตรงนี้แล้ว เรารู้อยู่แล้วว่ามันเป็นคดีแน่ๆ มันเป็นคดีจากอะไรก็ดูที่เขาไล่ฟ้อง วันนั้นที่ขึ้นศาลของพี่หนุ่มเขาก็พูดเองว่าเขาจะฟ้องอีก 30 คดี ต้องบอกว่าถ้าคุณไม่เหนื่อย เราก็ไม่เหนื่อย แต่ไม่รู้เหมือนกันนะคะว่าเขาจะฟ้องใคร อาจจะมีฟ้องสื่อด้วย ก็นอกไปออกรายการไหนรายการนี้ก็ระวังนะ เขาก็จะฟ้อง
พิธีกร : อย่างที่เขาฟ้องคุณต้นอ้อที่สุราษฎร์ธานี ที่ไปกล่าวหาว่าลูกเขาเป็นเด็กออทิสติกหรือเปล่า เขาบอกไหมว่าถ้าสมมุติเขาชนะคดีเขาต้องการอะไร ?
ต้นอ้อ : เขาให้เราลบคลิป ลบเรื่องราวที่เราโพสต์เกี่ยวกับลูกเขา ที่อ้อทราบมานะคะ ทุกสิ่งทุกอย่าง คลิปทุกอย่าง เราก็เอามาจากคุณ เอามาจาก “เพจนิรมิตเทวาจุติ” เขาโพสต์เป็นสาธารณะ เราเอามาจากคุณ แล้วเรื่องนี้อ้อก็พูดไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่าก็คุณอยากให้ลูกคุณดัง คุณอยากให้เพจคุณดัง แต่คุณกลับรับไม่ได้กับกระแสที่เขาไม่ชอบคุณ เพราะฉะนั้นถ้าคุณอยากจะเป็นบุคคลสาธารณะ คุณก็จะต้องรับเรื่องนี้ให้ได้ในสิ่งที่คนเขาเห็นต่าง แต่กลับกลายเป็นว่าคุณรับไม่ได้คุณก็เลยไล่ฟ้องเขา แต่คลิปทุกอย่างมันมาจากคุณ ถ้าพวกคุณไม่ให้เราเอาคลิปพวกคุณลงพวกคุณก็หยุดสิ