“พิธา” ไม่เครียดศาลรธน.ชี้ขาดยุบพรรควันนี้ หวังได้ไปต่อ ประวัติศาสตร์ไม่ซ้ำรอยอนาคตใหม่ อ้างเจอหลักฐานคาตาคนซื้องูเห่า ให้ทั้งเงินและตำแหน่ง ปูดซ้ำมีมากกว่าที่ลูกพรรคออกมา
ข่าวที่น่าสนใจ
7 ส.ค.2567 ที่รัฐสภา นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.และประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกลในช่วงบ่ายวันนี้ว่า เมื่อคืนตนหลับตั้งแต่ 4 ทุ่มครึ่ง ไม่เครียด นอน 8 ชั่วโมงเต็ม ๆ ส่วนแผนงานก็ยังคงไว้ตามปกติ และหากคำตัดสินไม่เป็นคุณ เราก็มีแผนงานตามปกติ เช่น วันเสาร์-อาทิตย์นี้ก็อยู่ที่จังหวัดราชบุรีอยู่ดี เดินหน้าทำงานการเมืองต่อ และเป็นประชาชนก็ทำงานการเมืองได้ แต่ตนมั่นใจในแนวทางการต่อสู้ ยังมั่นใจในข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย จึงคิดว่าจะได้รับความเป็นธรรมในบ่ายวันนี้ แต่ว่าตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา ยังมีเวลาอีก 2-3 ชั่วโมง ขอทำหน้าที่ สส.ให้สมกับที่ประชาชนเลือกมา
นายพิธา ยืนยันอีกว่า ไม่ได้เช็กสัญญาณอะไร เพราะเมื่อคืนตนก็หลับปกติทุกอย่าง กินเลี้ยงกับ สส. ร้องคาราโอเกะจนไม่รู้ว่าวันนี้จะมีแรงปราศรัยหรือไม่ ซึ่งบรรยากาศการประชุมพรรควานนี้ ก็ยังมีความเป็นเอกภาพ ความสามัคคี ความรู้สึกก็ไม่กังวล แต่ก็ไม่ประมาท เพราะพรรคเรายังไปต่อได้อย่างแน่นอน
ส่วนกระแสซื้องูเห่า 20-30 ล้านบาทนั้น นายพิธา กล่าวว่า ตนมีโอกาสได้เห็นหลักฐานบ้าง จากโทรศัพท์ของคนอื่น จากหลาย ๆ พรรค บ้างก็มาเป็นจำนวนเงินอย่างที่มีข่าวออกไปเมื่อวาน บางอันก็มาเป็นตำแหน่ง เช่น ตำแหน่งรองหัวหน้าพรรค สส.เขาก็เอามาให้ดู ซึ่งเขาก็บอกว่ายินดีที่จะเดินทางต่อไปกับพรรคก้าวไกล เงินและตำแหน่งซื้อไม่ได้ ตนจึงรู้สึกเบาใจ แต่ให้ประชาชนได้รู้ว่ามันมีการเมืองใต้เข็มขัด มีการเมืองสกปรกอยู่จริงในบ้านเมืองเราในช่วงเวลาแบบนี้ ซึ่งคนที่มาเสนอซื้อตัวงูเห่ามีมากกว่าคนที่นายจิรัฏฐ์ ทองสุวรรณ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคก้าวไกล ออกมาเปิดเผย ส่วนคนที่จะซื้อตัวสส.พรรคก้าวไกลเพราะรู้ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไรหรือไม่ ตนคิดว่าเขาทำไปเพื่อสร้างให้อนาคตเป็นแบบนั้น แต่ถ้าเกิดเราไม่ยอม อนาคตก็เป็นไปอย่างที่เราต้องการ ซึ่งมั่นใจว่าอุดมการณ์และนโยบายของพรรคจะหยุดงูเห่า และเชื่อมั่นในตัวสส.
ส่วนพรรคสำรองที่มีกระแสข่าวเตรียมพรรคถิ่นกาขาวชาววิไลนั้น นายพิธา กล่าวว่า ยังไม่ถึงเวลา ตอนนี้เราโฟกัสประชุมสภาฯ และไปฟังคำตัดสินศาลรัฐธรรมนูญในช่วงบ่าย ส่วนการที่นักวิชาการส่วนใหญ่ฟันธงไปทางลบ ทำให้เสียกำลังใจหรือไม่ ตนไม่ได้ถือโทษโกรธอะไรใคร ข้อเท็จจริงและสถิติมันเป็นอย่างนั้น เพราะตั้งแต่ปี 2549 มี 33 พรรคการเมืองถูกยุบพรรค แต่อย่างไรก็ตามยังเป็นข้อเท็จจริงอยู่ดีว่ามี 1 พรรครอด คือพรรคประชาธิปัตย์ เพราะกกต.ทำคำร้องมิชอบด้วยกฎหมาย ซึ่งก็คล้ายกับข้อต่อสู้ของพรรคก้าวไกล ซึ่งตนหวังว่าจะไม่ซ้ำรอยประวัติศาสตร์พรรคอนาคตใหม่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง