โจมตีทางอากาศ
หากเทียบศักยภาพทางทหารสองฝ่าย กองทัพอิสราเอลได้เปรียบด้านเทคโนโลยี ส่วนหนึ่งมาจากการสนับสนุนทั้งทางทหารและการเงินจากสหรัฐอเมริกา ที่มีพันธะกิจสร้างหลักประกันความมั่นคงแก่รัฐยิว อิสราเอลเป็นประเทศเดียวในตะวันออกกลางจนถึงขณะนี้ ที่ได้ซื้อเครื่องบินรบสุดล้ำ F-35 ระบบอาวุธแพงที่สุดในประวัติศาสตร์
กลับกัน อิหร่านที่อยู่ในวังวนมาตรการแซงชั่นและโดดเดี่ยวทางการเมือง ไม่อาจเข้าถึงเทคโนโลยีทางทหารตะวันตก แต่เป็นแรงผลักดันสู่การพัฒนาอาวุธของตัวเอง รวมถึงมิสไซล์ และโดรน ที่เคยระดมยิงใส่อิสราเอลเมื่อเดือนเมษายน
เครื่องบินรบอิหร่านส่วนใหญ่ เป็นรุ่นเก่า เป็นมรดกตกทอดจากการปฏิวัติอิสลามในปี 2522 อิหร่านตกลงจะซื้อเครื่องบินรบของรัสเซีย แต่ยังไม่ชัดเจนว่ามีการส่งมอบกันแล้วหรือยัง
แต่ถึงจะเสียเปรียบเทคโนโลยี แต่กองทัพอิหร่าน มีคลังขีปนาวุธและขีปนาวุธนำวิถี กับโดรนราคาถูก ที่ศัตรูประมาทไม่ได้ อิหร่านได้เรียนรู้จากการโจมตีครั้งก่อนว่า การฝ่าทะลวงระบบป้องกันทางอากาศของอิสราเอล เป็นความท้าทาย นั่นคือต้องฝ่าเครื่องบินรบของกองทัพอากาศอิสราเอล ระบบป้องกันทางอากาศ “แอร์โรว์” และ”เดวิดส์ สลิง” ยังไม่รวมการป้องกันจากสหรัฐและกองกำลังพันธมิตรอื่น ๆ ในภูมิภาค ที่เคยสกัดโดรนและมิสไซล์ 99% จากกว่า 300 ลูกที่อิหร่านยิงออกไป แต่ความเสียหายที่เกิดจากขีปนาวุธอิหร่านเพียงลูกเดียวในพื้นที่พลเรือน ก็ถือว่ามากมายแล้วสำหรับอิสราเอล
อิหร่านยังมีโดรนรุ่นล้ำที่ไปไกลถึงอิสราเอลได้ บางรุุ่นสามารถปล่อยระเบิดนำวิถีแม่นยำ และบางรุ่น เช่น โดรน กามิกาเซ่ “ชาเฮด-136” สามารถบรรทุกระเบิดได้ 20-40 กิโลกรัม
ส่วนคลังอาวุธป้องกันตนเองของอิหร่าน ประกอบด้วยระบบขีปนาวุธพื้นสู่อากาศ เช่น S-300 ของรัสเซีย ใช้ต่อต้านเครื่องบินและครูซมิสไซล์ กับระบบต่อต้านขีปนาวุธพิสัยไกล อาร์มาน (Arman) ที่ผลิตในประเทศ แต่ระบบเหล่านี้ไม่ได้ผ่านการทดสอบการรบอย่างเข้มข้น เท่ากับระบบป้องกันของอิสราเอล
สงครามไซเบอร์
ทั้งสองฝ่ายต่างมีศักยภาพด้านนี้ ย้อนไปกว่า 10 ปีก่อน ระบบคอมพิวเตอร์ของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์อิหร่าน ถูกโจมตีจากมัลแวร์ชื่อ สตักซ์เน็ต (Stuxnet) ที่ได้ชื่อว่าเป็นอาวุธไซเบอร์รุ่นแรกของโลก ก่อนลามไปยังโครงสร้างพื้นฐานอื่น ๆ เชื่อกันว่า สตักซ์เน็ต เป็นปฏิบัติการร่วมของสหรัฐ กับอิสราเอล
ส่วนอิหร่าน สำนักงานข่าวกรองกลาโหมสหรัฐ ระบุในรายงานเมื่อ 11 เมษายนว่า อิหร่านมีขีดความสามารถปฏิบัติการไซเบอร์หลากหลาย ตั้งแต่ปฏิบัติการข่าวสาร จนถึงโจมตีทำลายเครือข่ายรัฐบาลและพาณิชย์ทั่วโลก
ปี 2563 แฮคเกอร์อิหร่านเคยแฮคระบบคอมพิวเตอร์ เพื่อเพิ่มระดับคลอรีนในน้ำของอิสราเอล และยังมีรายงานการโจมตีไซเบอร์จากอิหร่านต่อเป้าหมายเช่น สนามบิน เบน กูเรียน เวบไซต์รัฐบาล โรงไฟฟ้า ท่าเรือ โรงกลั่นน้ำมัน และบริษัทพลังงานอิสราเอล
แต่ถ้าอิหร่านโจมตีไซเบอร์สำเร็จ ก็ต้องเตรียมรับว่าอิสราเอลก็จะตอบโต้แบบเดียวกัน
พันธมิตรแต่ละฝ่าย
กองกำลังฝ่ายอิหร่าน ได้แก่ กองกำลังชีอะต์ทั้งหลายในเลบานอน เยเมน อิรักและซีเรียที่ได้รับทุน อาวุธและการฝึกจากอิหร่าน ข่าวกรองอิสราเอลเชื่อว่า ฮิซบอลเลาะห์ ซึ่งอยู่ในตำแหน่งที่มีบทบาทสำคัญที่สุดในสงครามนี้หากเข้ามามีส่วนร่วม เป็นกองกำลังที่มีคลังจรวดและมิสไซล์ ที่รวมถึงมิสไซล์นำวิถีและพิสัยไกลไม่ต่ำกว่า 7 หมื่นลูก บางฝ่ายประเมินว่ามีกว่าแสนลูก
ระบบป้องกันทางอากาศประสิทธิภาพสูงของอิสราเอล หากเผชิญกับการโจมตีพุ่งเป้าสถานที่อ่อนไหวหลายแห่งในเวลาเดียวกัน ก็เป็นไปได้ที่อาจจะมีการบาดเจ็บล้มตายและความเสียหายเกิดขึ้น ซึ่งรัฐบาลอิสราเอลได้เตือนให้ประชาชน เตรียมรับกับความสูญเสียไว้แล้วเช่นกัน
กบฏฮูตีในเยเมน ก็ถูกคาดหมายว่า จะมีบทบาทมากขึ้นในการล้างแค้นรอบนี้ หลังจากเมื่อ 19 กรกฎาคม เคยชิมลางส่งโดรนโจมตีอาคารหลังหนึ่งถึงกรุงเทลอาวีฟ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย
พันธมิตรเดียวที่มีสถานะรัฐ ในตะวันออกกลางของอิหร่าน คือ ซีเรีย แต่ไม่อยู่ในสถานะที่จะช่วยเหลือได้
อิหร่าน ยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับรัสเซีย โดยล่าสุด นิวยอร์กไทมส์ อ้างเจ้าหน้าที่อิหร่าน ว่า รัสเซียได้เริ่มส่งมอบระบบป้องกันทางอากาศขั้นสูง และอุปกรณ์เรดาร์ให้กับอิหร่าน หลังจากที่เจ้าหน้าที่ในกรุงเตหะรานร้องขออาวุธจากรัฐบาลเครมลิน
ส่วนอิสราเอล มีสหรัฐและอังกฤษอยู่เคียงข้าง กองกำลังจากสองประเทศทำลายโดรนและขีปนาวุธจากอิหร่านบางส่วนเมื่อเมษายน นอกจากนี้ สหรัฐฯยังส่งเครื่องบินรบ และเรือรบ เสริมแนวป้องกัน ส่วนชาติอาหรับในภูมิภาคที่เคยช่วยปกป้องอิสราเอล ยังไม่ชัดเจนว่าจะกลับมาเป็นแนวป้องกันกันแบบพร้อมหน้าพร้อมตาอีกครั้งหรือไม่
ส่วนอิสราเอลจะตอบโต้หรือไม่และแค่ไหน จะขึ้นอยู่กับความสูญเสียในชีวิตและความเสียหายต่อโครงสร้างพลเรือน แต่หากตอบโต้ ฮิซบอลเลาะห์น่ารับผลตามมามากที่สุด
การโจมตีอิหร่านเป็นเรื่องยากด้วยระยะทาง แต่อาจทำให้อิสราเอลใช้เป็นข้ออ้างโจมตีที่ตั้งทางนิวเคลียร์ของอิหร่าน อย่างที่เคยขู่มาหลายครั้งหลายหนว่าจะทำตลอดหลายปีที่ผ่านมา