“อดีตบิ๊กข่าวกรอง” จวกยับทูตต่างชาติ จุ้นศาลไทยยุบก้าวไกล ย้ำรธน.คุ้มครองสถาบันฯ เตือนต้องมีมารยาท

"อดีตบิ๊กข่าวกรอง" จวกยับทูตต่างชาติ จุ้นศาลไทยยุบก้าวไกล ย้ำรธน.คุ้มครองสถาบันฯ เตือนต้องมีมารยาท

อดีตบิ๊กข่าวกรอง” จวกยับทูตต่างชาติ จุ้นศาลไทยยุบก้าวไกล ย้ำรธน.คุ้มครองสถาบันฯ เตือนต้องมีมารยาท

ช่วงค่ำวันที่ 7 ส.ค. 67 นายนันทิวัฒน์ สามารถ อดีตรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กเรื่อง ต่างชาติอย่าก้าวก่าย โดยระบุรายละเอียดว่า วันนี้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยยุบพรรคก้าวไกล และตัดสิทธิกรรมการบริหารพรรค 10 ปี แต่มีสถานทูตบางประเทศแสดงความห่วงใยต่อการวินิจฉัยของศาลมากเกินไป และออกแถลงการณ์แสดงความห่วงใยอย่างไม่เหมาะสม

อยากจะย้ำอีกครั้งหนึ่งกับสถานทูตต่างชาติ ว่าประเทศไทยปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข สำหรับประเทศไทย การดำรงอยู่ของสถาบันฯและพระบรมเดชานุภาพของพระมหากษัตริย์เป็นสิ่งสูงสุด ผู้ใดจะละเมิดมิได้ นี่เป็นเรื่องสำคัญที่สุด มีประชาธิปไตย แต่ไม่สถาบันพระมหากษัตริย์ก็ขัดรัฐธรรมนูญ

อดีตบิ๊กข่าวกรอง

ข่าวที่น่าสนใจ

นายนันทิวัฒน์ ระบุต่อว่า พรรคการเมืองและนักการเมืองต้องรู้ขอบเขตว่าความเคลื่อนไหวทางการเมืองใดๆต้องไม่ขัดรัฐธรรมนูญ ความไม่รู้กฎหมายไม่สามารถอ้างได้ และยิ่งเป็นการดำเนินการที่หมิ่นเหม่ต่อการบ่อนเซาะทำลายสถาบัน ที่เป็นเสาหลักของความมั่นคงแห่งชาติ จะกระทำมิได้ พรรคการเมืองต้องตระหนักว่า การดำเนินการทางการเมืองใดๆจะอยู่ภายใต้การจับตามองอย่างใกล้ชิดของคนไทย การพิจารณาของศาลในวันนี้มาจากการฟ้องร้องของประชาชน และศาลก็ไม่ได้เร่งรัด รวบรัดการดำเนินการ และให้โอกาสพรรคในการชี้แจงต่อสู้คดี

นอกจากนี้อธิปไตยของไทยแบ่งแยกอำนาจเป็น 3 องค์อธิปัตย์ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายนิติบัญญัติ และฝ่ายตุลาการที่ไม่ก้าวก่ายอำนาจซึ่งกันและกัน สถานเอกอัครราชทูตและนักการทูตต้องประสานงานผ่านช่องทางการทูตกับฝ่ายบริหาร และกระทรวงการต่างประเทศ การแสดงความห่วงใยต่อการดำเนินการของศาลและแถลงการณ์ที่สถานทูตแถลงข่าว มีลักษณะไม่เหมาะสม เป็นการก้าวล่วงอำนาจของศาลที่อยู่นอกบริบทของงานการทูตและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และเป็นการแสดงมารยาททางการทูตและความสัมพันธ์ระหว่างมิตรประเทศที่ไม่เหมาะสม และไม่สมควร

 

หากไทยแสดงความห่วงใยต่อการดำเนินด้านยุติธรรมในประเทศของท่าน ท่านย่อมต้องไม่พอใจ เพราะก้าวก่ายแทรกแซงกิจการภายในของประเทศของท่าน ในประเด็นนี้ศาลรัฐธรรมนูญได้ระบุไว้ชัดเจนในคำวินิจฉัย ว่าแต่ละประเทศมีรัฐธรรมนูญและกฎหมายภายในที่แตกต่างกัน ไปตามบริบทของแต่ละประเทศ ในฐานะมิตรประเทศที่มีความสัมพันธ์กันเป็นอย่างดี ไม่อยากเห็นสถานทูตและนักการทูตมีความสัมพันธ์ สนับสนุนนักการเมืองไทยแบบเลือกข้าง และอย่างมีอคติอยากให้กระทรวงการต่างประเทศเชิญผู้แทนสถานทูตมาชี้แจงถึงข้อเท็จจริง ข้อกฎหมายที่เกิดขึ้นเพื่อให้เกิดความเข้าใจอันถูกต้อง

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม
ครูบาอริยชาติ เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ฉลองสมโภช 18 ปีวัดแสงแก้วโพธิญาณ และทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล 44 ปี
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา "ชวาล" ส.ส.พรรคประชาชน ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ โทษคุก-ตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี
จีนเตือนสหรัฐกำลังเล่นกับไฟหลังส่งอาวุธให้ไต้หวัน
อิลอน มัสก์วิจารณ์แรงผู้นำเยอรมันเหตุโจมตีตลาดคริสต์มาส
ซาอุฯเคยเตือนเยอรมนีเรื่องคนร้ายโจมตีตลาดคริสต์มาส

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น