อดีตแกนนำก้าวไกล ย้ำไม่กังวล หลัง 44 สส.ถูกร้องสอบจริยธรรม ส่อถูกตัดสิทธ์ตลอดชีวิต

“อดีตแกนนำก้าวไกล” ไม่กังวล หลัง 44 สส. อาจถูกตัดสิทธิ์ตลอดชีวิต สามารถชี้แจงเป็นรายคน “พิธา” ย้ำ ไม่ประมาท ถามกลับ โทษแรง เหมาะสมกับความผิดหรือไม่

อดีตแกนนำก้าวไกล ย้ำไม่กังวล หลัง 44 สส.ถูกร้องสอบจริยธรรม ส่อถูกตัดสิทธ์ตลอดชีวิต – Top News รายงาน

อดีตแกนนำก้าวไกล

 

วันที่ 8 ส.ค. 67 ที่อาคารมาลีนนท์ นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ อดีต สส. บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล กล่าวถึงกรณีมีการ ร้องให้สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ไต่สวนเอาผิดเรื่อง จริยธรรมอดีต สส.ก้าวไกล 44 คน ที่ร่วมกันลงชื่อเสนอแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งถือว่ามีโทษสูงถึงขั้นตัดสิทธิ์ทางการเมืองตลอดชีวิตนั้น ว่า ไม่ได้มีความกังวลอะไร ส่วนของจริยธรรมทางการมองว่าเป็นเรื่องของรายบุคคลซึ่งเชื่อว่าแต่ละคนก็สามารถชี้แจงข้อเท็จจริงในส่วนของตัวเองได้ว่ากระทำสิ่งนั้นไปเพื่ออะไรและยืนยันว่าทุกคนไม่ได้ทำผิดจริยธรรมแค่มุ่งหวังให้การแก้ไขกฎหมายต่างๆเป็นไปอย่างถูกต้องในระบอบประชาธิปไตยมากกว่า

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ขณะที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตสส.ก้าวไกล และอดีตประธานที่ปรึกษาหัวพรรคก้าวไกล กล่าวว่า เรื่องที่ถูกร้องให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบจริยธรรมครั้งนี้ ไม่กังวลแต่ไม่ประมาทยังยืนยันในความบริสุทธิ์ใจ พร้อมทั้งตั้งคำถามกลับว่าจริยธรรมของคนทุกคนไม่เหมือนกันและไม่มีมาตรฐานที่ตายตัว ไม่ถึงขั้นผิดกฎหมายด้วยซ้ำแต่โทษกลับรุนแรงถึงขั้นประหารชีวิตทางการเมือง ตัดสิทธิ์ตลอดชีวิต ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสัดส่วนทางกฎหมายสิ่งที่กระทำกับโทษที่ต้องรับไม่สอดคล้องกันหรือไม่

ขณะที่ คดี 40 สว.ร้องศาลรัฐธรรมนูญว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี แต่งตั้ง นายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ โดยมิชอบซึ่งจะมีการวินิจฉัยในวันที่ 14 สิงหาคมนี้ หากผลพิจารณาออกมาเป็นคุณกับนายกฯ มองว่า สองมาตรฐานหรือไม่ นายชัยธวัช มองว่า จริงๆ ผลคำวินิจฉัยควรเป็นคุณกับนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว ถึงแม้ว่าตัวเองเป็นฝ่ายค้านแต่เมื่อฝ่ายรัฐบาลมีคดีความก็ไม่ได้หมายความว่าต้องหลับหูหลับตาเชียร์ให้โดนคดี ส่วนตัวไม่เห็นด้วยในการเสนอชื่อแต่งตั้งนายพิชิต แต่ก็ต้องเป็นความรับผิดชอบในทางการเมืองไม่ควรเป็นคดีความให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ซึ่งถ้าท้ายที่สุดผลคำวินิจฉัยเป็นคุณตัวเองก็ยินดีด้วย ไม่ใช่ว่าพรรคก้าวไกลไม่ได้รับความเป็นธรรม คนอื่นจะต้องไม่ได้รับความเป็นธรรมด้วย เราต้องสนับสนุนให้ทุกฝ่ายแม้ว่าจะเป็นคู่แข่งทางการเมืองต้องได้รับความเป็นธรรมเหมือนกันหมด

ขณะที่นายพิธา มองว่า อยากเห็นระบบที่การเมืองแก้ด้วยการเมืองไม่ใช่องค์กรอิสระ ไม่อยากให้ตัวแทนของประชาชนอย่างตัวเอง และนายเศรษฐาต้องมาเสียสมาธิจากการทำงานจากการถูกแทรกแซงจากองค์กรอิสระที่ไม่รู้ว่าอิสระจากใคร

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

มัสก์จี้ข้าราชการอเมริกันเขียนรายงานวันๆทำอะไรบ้าง
ผู้ปกครองพา "ด.ช.วัย 13" ร้องสายไหมต้องรอด ถูกสาวสอง สร้างไอจีปลอม ลวงทำอนาจาร
"ทักษิณ" เอ่ยขออภัยเหตุการณ์ "ตากใบ" ปี 47 ลั่นไม่ตกใจ เหตุบึ้มรถในสนามบินนราฯ รับลงชายแดนใต้
“ทักษิณ” ลั่นปัญหา 3 จังหวัดชายแดนใต้ ต้องจบในรัฐบาลนี้ ยึดการพูดคุย เป็นแนวทางสร้างสันติสุข
เลขาธิการ สปส. แจงเสถียรภาพ "กองทุนประกันสังคม" ย้ำชัดสิทธิประโยชน์ดีเพิ่มขึ้นทุกปี
คึกคักสุดๆ แห่เที่ยวตามรอย "ลิซ่า" ในซีรีส์ The White Lotus 3 ทำยอดจองโรงแรมเกาะสมุยพุ่ง
ผู้ลี้ภัยแอลจีเรียไล่แทงตำรวจในฝรั่งเศส
เต่าทะเลกว่า 6 แสนตัวแห่วางไข่ที่ชายหาดอินเดีย
ฮามาสปล่อย 6 ตัวประกันสุดท้ายภายใต้ข้อตกลงเฟสแรก
‘Super AI Engineer Season 5’ รวมพลังรัฐ-เอกชน-ประชาสังคม ปั้นบุคลากร AI เสริมขีดความสามารถแข่งขันไทย

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น