ข่าวที่น่าสนใจ
ส่วนแนวทางของพรรคประชาชน ส่วนตัวคิดว่าแนวทางยังคงเดินหน้าทำหน้าที่ และทำงานสภา เน้นในเรื่องของการตรวจสอบ เสนอกฎหมาย และตรวจสอบงบประมาณ เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ส่วนเรื่องนโยบายของพรรคยังไม่ได้มีการพูดคุยกันในตอนนี้ แต่แนวทางคงจะไม่แตกต่างไปจากอดีตพรรคก้าวไกล คือให้ความสำคัญด้านเศรษฐกิจและการเมือง ทำให้ทุกคนเสมอภาคกัน เปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้น
นายรังสิมันต์ ยังระบุถึงการลดระดับเพดานแก้ไขมาตรา 112 ว่า หากจะพูดกันตอนนี้คิดว่าเร็วเกินไป วันนี้เพิ่งจะได้ชื่อพรรค และมองว่าเรื่องนี้ยังมีเวลาหารือแนวทางต่อไปได้ในอนาคต
ส่วนวิบากกรรมหลังจากนี้ กรณี 44 สส. เข้าชื่อแก้ไขมาตรา 112 ที่ขณะนี้เรื่องอยู่ในชั้น ป.ป.ช. และมีชื่ออยู่ด้วยนั้น นายรังสิมันต์ ระบุว่า ป.ป.ช. มีอำนาจในการตรวจสอบ แต่ก็ต้องมีความรับผิดชอบในการใช้อำนาจ ไม่ใช้เพื่อกลั่นแกล้ง
ส่วนที่จะมีการชงเรื่องไปยังศาลฎีกาฯ เรื่องนี้มองว่า ต้องดูว่ามีหลักฐานเพียงพอหรือไม่ ตนตั้งข้อสังเกตว่ามีหลายเรื่องที่เคยร้องไปยัง ป.ป.ช. ตอนนี้ไม่รู้มีความคืบหน้าอย่างไรบ้าง แต่ทำไมคดีที่เกี่ยวกับนักการเมืองของอดีตพรรคก้าวไกลทุกอย่างดูรวดเร็ว เป็นคำถามที่สังคมจะต้องหาคำตอบ หากเป็นแบบนั้นระบบการตรวจสอบของไทยค่อนข้างที่จะน่าเป็นห่วง
“ตนไม่กังวล เข้าใจว่าหลายคนอาจจะอยากรู้ว่าความรู้สึกของพวกเราเป็นอย่างไร 44 คน รอดไม่รอด แต่ความรู้สึกไม่ได้มีความสำคัญเท่ากับความเป็นไปของประเทศ ที่ตกลงแล้วระบบตรวจสอบของประเทศนี้ถูกออกแบบมาเพื่ออะไร และกรณีการยุบพรรคก็มีหลายประเทศที่ไม่ได้เห็นด้วยกับเรื่องนี้”
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
