“กรมวังฯ” เปิดงานเสวนา ยุคสิ้นสุดของมนุษย์ตุลาการหรือไม่

กรมวังฯ เปิดงานเสวนา "ยุคสิ้นสุดของมนุษย์ตุลาการหรือไม่" - ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงความร่วมมือของกระทรวงยุติธรรมด้านกระบวนการยุติธรรม ในโครงการประชุมเชิงปฏิบัติการประจำปี ๒๕๖๗ ผู้พิพากษาปัญญาประดิษฐ์ : ยุคสิ้นสุดของมนุษย์ตุลาการหรือไม่? (AI Judge : Is the End of Human - Judge Era?)

 “กรมวังฯ” เปิดงานเสวนา ยุคสิ้นสุดของมนุษย์ตุลาการหรือไม่ – Top News รายงาน

กรมวังฯ

 

เมื่อวันที่ 9 สิงหาคม 2567 ณ โรงแรมเซนทาราแกรนด์ เซ็นทรัลพลาซ่า ลาดพร้าว กรุงเทพมหานคร พลอากาศเอก สมคิด สุขบาง กรมวังผู้ใหญ่ประจำพระองค์ 908 รองประธานกรรมการกองทุนกำลังใจในพระดำริพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา เป็นประธานกล่าวเปิดงาน การประชุมเชิงปฏิบัติการประจำปี 2567 ในหัวข้อ ผู้พิพากษาปัญญาประดิษฐ์ : ยุคสิ้นสุดของมนุษย์ตุลาการหรือไม่?

โดยมีนางพงษ์สวาท นีละโยธิน ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าวรายงานและวัตถุประสงค์ของการจัดเสวนาในครั้งนี้  ตลอดจนวิทยากรในการเสวนา ได้แก่ ศาสตราจารย์ (พิเศษ) จรัญ ภักดีธนากุล อดีตตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ , นายสมชาย อุดมศรีสำราญ ผู้พิพากษาศาลฎีกา และนายพงษ์เดช วานิชกิตติกูล ผู้พิพากษาศาลฎีกา ดำเนินการเสวนาโดย นายนวรัตน์ กลิ่นรัตน์ ผู้ช่วยผู้พิพากษาศาลฎีกา ทั้งนี้ มีผู้เข้าร่วมประชุมประกอบด้วย เจ้าหน้าที่จากศาลอุทธรณ์ ศาลอาญา ศาลแพ่ง ศาลยุติธรรม และเจ้าหน้าที่จากกระทรวงยุติธรรม จำนวน 180 คน

 

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ด้าน ปลัดกระทรวงยุติธรรม กล่าว ปัจจุบันนี้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) ได้เข้าไปมีบทบาทในเกือบทุกแง่มุมของชีวิตมนุษย์และสังคม  ไม่เว้นแม้ในการบริหารงานกระบวนการยุติธรรม โดยผู้คนส่วนใหญ่ในสังคมมักคล้อยตามเห็นดีงามไปตามคำกล่าวอ้างถึงประโยชน์ของการนำนวัตกรรมทางเทคโนโลยีนี้มาใช้ และอาจหลงลืมการตั้งคำถามหรือข้อสงสัยถึงผลกระทบหรืออีกด้านหนึ่งของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์นี้ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อกระบวนการยุติธรรม (ทางอาญา)

เกี่ยวข้องกับชีวิตเสรีภาพและทรัพย์สินของผู้คน จากหนังสือ “เมื่อเครื่องจักรสามารถเป็นผู้พิพากษา คณะลูกขุน และเพชรฆาต: ความยุติธรรมในยุคแห่งปัญญาประดิษฐ์ (When Machines Can Be Judge, Jury, and Executioner : Justice in the Age of Artficial Intelligence) ”  ซึ่งเขียนโดย แคเธอรีน บี ฟอเรสต์ (Katherine B Forest) อดีตผู้พิพากษาศาลรัฐบาลกลางประเทศสหรัฐอเมริกาเล่มนี้ ผู้เขียนแสดงถึงข้อโต้แย้งที่กว้างขึ้น

เกี่ยวกับปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence, AI) และความยุติธรรม กล่าวคือ มนุษย์ได้ให้กำเนิดเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence, AI) ที่คุกคามแง่มุมต่าง ๆ ของการปกครองตนเองของพวกเรา  รวมถึงชีวิต เสรีภาพ และศักดิ์ศรีของพวกเรา เว้นแต่พวกเราจะดำเนินการอย่างรวดเร็วเพื่อยึดคืน การควบคุมระบบยุติธรรมของพวกเรา และโดยการขยายอนาคตของพวกเรา การยอมรับการทำงานของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artitifial Intelligence, AI)
อย่างสิ้นเชิง

ทำนองเดียวกับการยอมรับแนวทางการพิพากษาคดี (Sentencing Guidelines) ในลักษณะของหุ่นยนต์แนวทาง (Guideline Robots)  ผู้พิพากษาที่มีความเป็นมนุษย์คงไม่มีความจำเป็นสำหรับสังคมมนุษย์ที่มีความสลับซับซ้อน ทั้งในเชิงโครงสร้างและจริยธรรมอีกต่อไป  ในขณะที่ผู้เขียนเชื่อว่าการปกป้องสิทธิส่วนบุคคลนั้นเหนือสิ่งอื่นใด กล่าวคือ ความยุติธรรมเนื่องจากความเป็นธรรมเป็นกรอบการทำงานที่เหมาะสมสำหรับเครื่องมือที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence, AI)  ในระบบกฎหมายของอเมริกา ไม่ใช่เทคโนโลยีที่มีปรัชญาการทำงานอยู่บนฐานคิดของลัทธิอรรถประโยชน์นิยม (Utilitarianism)

 

หากเพ่งพินิจคิดตามด้วยความระมัดระวังความตื่นตัวของสังคมไทยต่อปัญหาความยุติธรรมในภาพรวมอย่างเป็นระบบ ซึ่งมีนวัตกรรมทางเทคโนโลยีต่าง ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่มิจำกัดเพียงความยุติธรรมทางอาญา ในฐานะเครื่องมือแก้ไขหรือควบคุมสรรพปัญหาที่มนุษย์จะอยู่ร่วมกันกับธรรมชาติและชุมชนในฐานะเพื่อนร่วมโลกอย่างไม่ทำลายล้างซึ่งกันและกันจะเกิดขึ้นไม่ได้

ใช้บนจอโปรเจกเตอร์ ที่มีการเปิด VTR และมีภาพคลิป สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา หากมิเป็น เพราะพระอัจฉริยภาพและพระปรีชาญาณของสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภา นเรนทิราเทพยวดี กรมหลวงราชสาริณีสิริพัชร มหาวัชรราชธิดา ที่พระราชทานการเรียนรู้แก่สังคมไทยให้เท่าทันต่อวิกฤติดังกล่าว และความเป็นจริงอย่างรอบด้านอันเป็นไปได้ของ “หลักนิติธรรม (The Rule of Law)”

ซึ่งสังคมไทยจำต้องเท่าทันต่อคำนี้จากหลายมิติ หาไม่แล้วอาจเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาทั้งส่วนบุคคลและภาพรวมในระดับประเทศ ที่ไม่สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในวาระการพัฒนาของสหประชาชาติภายหลังปี ค.ศ. ๒๐๑๕ (post 2015 Development Agenda) การประชุมเชิงปฏิบัติการในครั้งนี้ ถือเป็นนวัตกรรมทางความคิด ที่สืบสานแนวทางสมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าพัชรกิติยาภาฯ ที่มักจะทรงจุดประกายความคิดใหม่ในแวดวงกระบวนการยุติธรรมไทยมาตลอด และจะเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญที่ทำให้ไม่หลงลืมว่าผู้พิพากษาที่มีความเป็นมนุษย์ยังคงมีความจำเป็นสำหรับสังคมมนุษย์ที่มีความสลับชับซ้อน ทั้งในเชิงโครงสร้างและจริยธรรม

 

    

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ฮีโร่โอลิมปิคเหรียญทองน้องอร “ฉายาสู้โวย” ร่วมแข่งขันกีฬาพื้นบ้าน ในงานกีฬาประจำปีอบต.ไทยสามัคคี พร้อมลงแข่งขันตีกอล์ฟบก สร้างความสนุกสนานเฮฮา
"สธ." ยันพบชาวเมียนมา ป่วยอหิวาฯ รักษาฝั่งไทย 2 ราย อาการไม่รุนแรง
สุดทน "พ่อพิการ" ร้อง "กัน จอมพลัง" หลังถูกลูกทรพี ใช้จอบจามหัว-ทำร้ายร่างกาย จนนอน รพ.นับเดือน
สลด กระบะชนจยย.พลิกคว่ำตก "ดอยโป่งแยง" เชียงใหม่ เจ็บตายรวม 13 ราย
“สมศักดิ์” ยกนวดไทยเป็นมรดกชาติ สร้างมูลค่าเศรษฐกิจสุขภาพ เล็งพาหมอนวดโกอินเตอร์ โชว์ฝีมืองาน เวิลด์เอ็กซ์โปโอซาก้า ญี่ปุ่น
ห่ามาแล้ว! “แม่สอด” พบติดเชื้ออหิวาต์ เผยญาติฝั่งพม่าซื้อข้าวมากินด้วยกัน
ผกก.สภ.รัตนาธิเบศร์ สั่งตั้งคกก.สอบ "ตร.จราจร" รีดเงินแทนเขียนใบสั่ง
สตม. บุกทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ กลางคอนโดหรูห้วยขวาง รวบ 6 คนจีน อึ้งเจอซิมการ์ด 2 แสนซิม
ครูบาอริยชาติ เชิญชวนพุทธศาสนิกชน ฉลองสมโภช 18 ปีวัดแสงแก้วโพธิญาณ และทำบุญฉลองอายุวัฒนมงคล 44 ปี
กกต.สั่งดำเนินคดีอาญา "ชวาล" ส.ส.พรรคประชาชน ยื่นบัญชีใช้จ่ายเท็จ โทษคุก-ตัดสิทธิเลือกตั้ง 5 ปี

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น