“รมว.วธ.” ติดตามสถานการณ์น้ำ ป้องกันน้ำท่วมโบราณสถาน วัดไชยวัฒนาราม จ.อยุธยา

จากการตรวจติดตามสถานการณ์น้ำ บริเวณโบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม ซึ่งตั้งอยู่ช่วงที่แม่น้ำเจ้าพระยาแคบที่สุด จึงมีความเสี่ยงที่ระดับน้ำจะล้นตลิ่งเมื่อถึงฤดูน้ำหลาก กรมศิลปากร โดยสำนักศิลปากรที่ 3 พระนครศรีอยุธยา จึงใช้วิธีป้องกันโดยการตั้งแผงป้องกันน้ำท่วมรูปแบบที่สามารถยกตั้งขึ้นและพับเก็บได้

บริเวณด้านตะวันออกของวัดริมแม่น้ำ แนวป้องกันน้ำท่วมมีความยาว 160 เมตร สูงจากผิวบนสุดของขอบตลิ่งประมาณ 1.80 เมตร และสามารถต่อความสูงเพิ่มเติมเป็น 2.40 เมตร

ส่วนด้านใต้ ด้านตะวันตก มีแนวกำแพงป้องกันน้ำถาวรก่อด้วยคอนกรีตเสริมเหล็ก ส่วนด้านเหนือใช้แนวทางหลวงแผ่นดิน หมายเลข 3469 เป็นแนวป้องกัน

นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่โบราณสถานที่มีการดำเนินงานตั้งแนวป้องกันน้ำท่วม ซึ่งอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา จำเป็นต้องป้องกันการเกิดอุทกภัยทุกปี

เพื่อรับรองสถานการณ์ภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้น โดยได้กำชับให้กรมศิลปากรบูรณาการการทำงานในการดูแลโบราณสถานสำคัญกับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างใกล้ชิด

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

ต่อจากนั้นในช่วงบ่าย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมคณะ ได้เดินทางไปเป็นประธาน จัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม

ทั้งนี้ กรมการศาสนา ร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสิงห์บุรี จัดพิธีเจริญพระพุทธมนต์ถวายพระราชกุศล ณ วัดสาลโคดม (อ่านว่า วัด-สา-ละ-โค-ดม) จ.สิงห์บุรี

โดยมีพระพรหมวัชราจารย์ กรรมการมหาเถรสมาคม เจ้าอาวาสวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วย พระราชวชิรธรรมเมธี ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม และพระมหาอนุลักษณ์ ชุตินฺนโท ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดราชประดิษฐสถิตมหาสีมาราม รักษาการเจ้าอาวาสวัดสาลโคดม (อ่านว่า วัด-สา-ละ-โค-ดม) ทำหน้าที่เจริญพระพุทธมนต์ ท่ามกลางประชาชนที่มาร่วมงานกันเป็นจำนวนมาก

 

 

 

 

ขณะที่ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวว่า เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม นับเป็นโอกาสอันดียิ่งที่พสกนิกรชาวไทยทุกหมู่เหล่า จะได้แสดงออกถึงความจงรักภักดีต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ ด้วยการบำเพ็ญคุณงามความดีถวายพระราชกุศล แด่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงบำเพ็ญพระราชกรณียกิจนานัปการ ทรงตรากตรำพระวรกาย เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมเยียนราษฎรในถิ่นทุรกันการ ทรงติดตามพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เพื่อสนองพระราชดำริในโครงการพัฒนาต่าง ๆ ทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ

 

 

 

รวมทั้งพระราชทานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ตรงตามความต้องการพื้นฐานที่แท้จริงของชนบท โดยเฉพาะโครงการส่งเสริมศิลปาชีพ เป็นการแก้ไขปัญหาความยากจนที่บรรดานักวิชาการด้านการพัฒนายอมรับยกย่องว่ามีพระอัจฉริยภาพสูงส่งยิ่ง