เดือดจัด คนดังแห่แชร์โพสต์ “ข้าพเจ้าไม่ใช่ประชาชน ของพรรคประชาชน”
ข่าวที่น่าสนใจ
ยังคงมีประเด็นให้ติดตามกันอย่างต่อเนื่อง ภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งยุบพรรคก้าวไกล ทำให้ สส. 143 คนของอดีตพรรคก้าวไกล ย้ายไปสังกัดพรรคใหม่ โดยมีการเปิดตัวเมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่ผ่านมา ใช้ชื่อ “พรรคประชาชน” โดย นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคประชาชน ยืนยันว่า ยึดมั่นอุดมการณ์เดิมของพรรคก้าวไกล และจะเดินหน้าแก้ไขประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ต่อไป โดยไม่มีการลดเพดานใด ๆ ทั้งสิ้น
ต่อมากลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ทันที เพราะพรรคพลังประชาชนพยายามจะสื่อสารว่า 14 ล้านคนเลือกมา สิ่งที่พรรคทำเป็นความต้องการของประชาชน จนกระทั่งใช้ชื่อพรรคว่า พรรคประชาชน แต่อย่าลืมว่าคนไทยในประเทศไทยมีกี่สิบล้านคน ซึ่งคนส่วนใหญ่ ก็ไม่ได้มีความคิดเห็นไปในแนวทางเดียวกับพรรคประชาชน พรรคก้าวไกล หรือพรรคอนาคตใหม่ ดังนั้นการพูดซ้ำๆ ย้ำๆ เน้นคำว่า ประชาชน อาจจะไม่ถูกต้องซะทีเดียว
ล่าสุดชาวเน็ตมีการแชร์ต่อข้อความที่ว่า “ข้าพเจ้า ขอประกาศ ณ ที่นี่ว่า คำว่า “ประชาชน” ของพรรคประชาชน ไม่ได้รวมถึงข้าพเจ้าและครอบครัว แต่อย่างใด ทั้งนี้เพื่อป้องกันการถูกนำไปแอบอ้าง ในการเซาะกร่อนบ่อนทำลายสถาบันหลักของชาติ อันนำไปสู่การล้มล้างการปกครองในอนาคต”
และไม่ใช่แค่ชาวเน็ตเท่านั้น แต่คนดังในหลากหลายวงการ ก็ได้แชร์โพสต์ดังกล่าวด้วย อาทิ ผศ.ดร.อานนท์ ศักดิ์วรวิชญ์ อาจารย์ประจำคณะสถิติประยุกต์ สถาบันบัณฑิตย์พัฒนบริหารศาสตร์ หรือ นิด้า นพ.เหรียญทอง แน่นหนา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ นายอัษฎางค์ ยมนาค นักวิชาการอิสระ เป็นต้น
ขณะที่นายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรม ประธานพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ชี้แจงเรื่อง ทำไมต้องเสนอยุบพรรคประชาชน โดยระบุรายละเอียดว่า ตามที่สื่อเสนอข่าวว่า พรรคประชาชน เกิดจากการที่นำพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล มาเปลี่ยนชื่อพรรค เนื่องจากพรรคการเมืองเป็นสถาบันสำคัญ ของระบอบประชาธิปไตย ต้องโปร่งใสและตรวจสอบได้
จากการตรวจสอบผ่านเว็ป กกต. พบว่า พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล ซึ่งเป็นพรรคต้นกำเนิดของพรรคประชาชน มีสาขาพรรค 3 สาขา ภาคเหนือ 2 สาขา และภาคกลาง 1 สาขา ไม่มีสาขาภาคใต้ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กฏหมายพรรคการเมือง กำหนดไว้ว่า พรรคการเมืองย่อมสิ้นสภาพ ถ้ามีสาขาพรรคการเมือง เหลือไม่ถึงภาคละ 1 สาขา เป็นระยะเวลาติดต่อกัน 1 ปี นั่นหมายความว่า พรรคถิ่นกาขาวชาววิไล ต้องมีสาขาครบทั้ง 4ภาค ห้ามขาดหายไปติดต่อกัน 1 ปี ถ้าไม่ครบ พรรคถิ่นกาขาวชาววิไลต้องสิ้นสภาพ
นายแพทย์วรงค์ ระบุอีกว่า ข้อมูลหน้าเว็ปกกต. พบว่าพรรคถิ่นกาขาวชาววิไล มีสาขาพรรคเพียงแค่ 2 ภาค ซึ่งไม่ครบ 4 ภาค และจัดตั้งตั้งแต่ปี 2555 เพื่อความโปร่งใส กกต.ต้องตรวจสอบ และชี้แจงให้ประชาชนได้รับทราบรายละเอียด การมีสาขาในแต่ละปี ถ้าพรรคถื่นกาขาวมีสาขาไม่ครบ 4 ภาค ติดต่อกัน 1 ปี จะเข้าข่ายการสิ้นสภาพของพรรคตามกฏหมาย นั่นหมายความว่าพรรคประชาชน จะไม่สามารถนำพรรคที่สิ้นสภาพ มาดำเนินการเปลี่ยนชื่อพรรคได้
ทั้งนี้ พรรคไทยภักดีจะไปยื่นเรื่องดังกล่าว ให้กกต.ตรวจสอบ และดำเนินการต่อไป ให้เป็นไปตามกฏหมาย พร้อมติดแฮชแท็ก #ฝ่ายค้านแห่งชาติ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
ข่าวล่าสุด
เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น