"หนุ่มเหยื่อแก๊งคอลฯ" เครียดหนัก โดนหลอกหมดตัว ผูกคอดับสลด พร้อมทิ้งจดหมายสั่งลา ฝากถึง "กัน จอมพลัง" ขอให้ช่วย
ข่าวที่น่าสนใจ
ล่าสุดเมื่อวานนี้ (11 ส.ค.) กัน จอมพลัง ได้เดินทางมายังที่สถานีตำรวจภูธรยี่สาร อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม เพื่อมาติดตามคดีดังกล่าว โดยมีครอบครัวผู้เสียชีวิตเดินทางมาติดตามความคืบหน้าทางคดีด้วยเช่นกัน
กัน จอมพลัง เปิดเผยว่า วันนี้ไม่ใช่แค่มาเพื่อติดตามความคืบหน้าคดี ซึ่งขณะนี้ตำรวจได้ทำการสอบสวนไปจนถึงกลุ่มขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และบัญชีม้าแล้ว ตอนนี้ต้องให้เวลาตำรวจทำงานก่อน แต่ตนเองอยากฝากเตือนประชาชนเกี่ยวกับพฤติกรรมของกลุ่มขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์แก๊งหลอกให้รัก โรแมนซ์สแกม หลอกให้ร่วมลงทุน มีเหยื่อถูกหลอกมากมาย ตอนแรกตนเองก็ไม่คิดจะช่วยเหลือในเรื่องดังกล่าว แต่พอมารู้ว่าผู้เสียชีวิตได้เขียนจดหมายขอความช่วยเหลือ จึงตัดสินใจช่วย
ส่วนเหยื่อที่ผูกคอเสียชีวิตนั้น ถูกหลอกจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำทีมาตีสนิท ใช้รูปคนอื่นมาเป็นโปรไพล์ เพื่อแอบอ้างเป็นบุคคลอื่นที่หน้าตาดี มีอาชีพการงานที่ดี ซึ่งเคสนี้บุคคลที่ถูกแอบอ้างเป็นครูสาว ซึ่งสอนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.นครพนม ตอนนี้ครูสาวที่ถูกแอบอ้างได้เข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้แล้ว
ขณะที่ นายชัยชนะพงศ์ ศรศรี พี่ชายผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า ส่วนตัวรู้สึกเสียใจอย่างมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น น้องชายไม่เคยเอ่ยปากพูดถึงปัญหาที่เจออยู่ ตนเองและครอบครัวก็ไม่เคยทราบมาก่อน มารู้อีกทีน้องก็จากไปแล้ว และได้อ่านจดหมายที่น้องเขียนทิ้งไว้ ตนเองกับน้องชายรักกันมาก อยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก จากนี้คงทำอะไรมากไม่ได้ เพราะน้องชายเสียชีวิตไปแล้ว และก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เงินที่น้องชายถูกหลอกไปกลับคืนมา แค่อยากช่วยเหลือตามความตั้งใจของน้องชาย และช่วยป้องกันไม่ให้เกิดกับครอบครัวอื่นอีก ที่ผ่านมาน้องชายเป็นที่รักของทุกคน เชื่อว่า หากน้องชายเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เพื่อน หรือ ตนเองฟัง ทุกคนยินดีที่จะช่วยเหลืออย่างแน่นอน
ด้าน พ.ต.อ.ประเสริฐ กัลยาวุฒิพงศ์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.สมุทรสงคราม เปิดเผยว่า กลุ่มคนร้ายได้ใช้รูปโปรไฟล์ของบุคคลอื่น ซึ่งเป็นข้าราชการครู สอนอยู่ใน จ.นครพนม ได้ทักแชทผ่าน facebook หาผู้เสียชีวิต เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคมที่ผ่านมา จากนั้นมีการพูดคุยชวนลงทุน ลักษณะว่า หากโอนเงินไปเท่านี้ ก็จะได้รับผลตอบแทนกลับมาที่มากขึ้น ทำให้ผู้เสียชีวิตหลงเชื่อ ประกอบกับคิดว่า บุคคลที่คุยอยู่ คือ ข้าราชการครูจริง กระทั่งวันที่ 3 สิงหาคม ผู้เสียชีวิตได้โหลด Application ชื่อว่า “ยูบาย” และเริ่มโอนเงิน รวมทั้งสิ้น 13 ครั้ง เป็นจำนวน 190,000 บาท จากการตรวจสอบไปที่ครูสาว พบไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ ซึ่งล่าสุดครูสาวที่ถูกแอบอ้าง ได้เข้าแจ้งความไว้ที่ สภ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม แล้ว
สำหรับเงินที่ถูกหลอกพบว่า มีการโอนเข้าบัญชี 6 บัญชี ทั้งหมดเป็นบัญชีที่มีชื่อผู้เปิดเป็นคนไทย ตอนนี้รู้ชื่อหมดแล้วว่า เป็นใครบ้าง โดย 2 ใน 6 เจ้าของบัญชี ให้การว่า ได้ทำบัตรประชาชนหาย ส่วนอีกคนบอกว่า ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบัญชีดังกล่าว ล่าสุดตอนนี้ได้อายัดบัญชีทั้งหมดไว้แล้ว จากนี้จะตรวจสอบเส้นทางการเงินว่า ถูกโอนไปยังบัญชีใดอีกบ้าง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง