ส่องขุมทรัพย์ 4 “ผบ.ตร.” ร่ำรวยมโหฬาร

ส่องขุมทรัพย์ 4 "ผบ.ตร." ร่ำรวยมโหฬาร

กว่าที่ตำรวจแต่ละคนจะไต่เต้ามาถึงระดับผู้นำสูงสุดของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องมากไปด้วยประสบการณ์การทำงาน และฝีไม้ลายมือทั้งด้านสืบสวนปราบปราม มีทั้งบู้ และ บุ๋น วางตัวครองตน เป็นที่ยอมรับของผู้ใต้บังคับบัญชา และเป็นที่ไว้วางใจของผู้บังคับบัญชา

และสำหรับเก้าอี้นามเรียกขาน “พิทักษ์1” ที่ปัจจุบันมีนายตำรวจได้ขึ้นนั่งรับตำแหน่งมาแล้วถึง 15 นาย แต่ละคนมีชื่อชั้นเส้นทางรับราชการที่สุดจัดโชกโชน โดนเด่นกันไปคนละอย่าง บางคนทำงานเก่ง  บางคนมีชื่อเสียงในด้านงานสืบสวน สอบสวน มาแทบทุกหน่วยในสำนักงานแห่งชาติ และในขณะที่บางคน มีเส้นสายดี ครบขึ้น ไม่ครบก็ขึ้น วงการตำรวจบ้านเรามันเป็นแบบนี้เกือบทุกยุคทุกสมัยคละเคล้ากันไป

ทว่าหากถามถึงค่าตอบแทน อัปเดตอัตราล่าสุด ปี พ.ศ. 2567 ของข้าราชการตำรวจ ยศพลตำรวจเอก ดำรงตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้รับเงินเดือนขั้นสูงสุดของระดับ ส.9 อัตราเงินเดือนอยู่ที่ เจ็ดหมื่นแปดพันสามสิบบาท ( 78,030 บาท )

แต่เมื่อลองเปิดกรุสมบัติย้อนดูความร่ำรวยของอดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแต่ละคน ล้วนแล้วแต่ “รวยเกินหน้าเกินตา” เกินฐานเงินเดือนที่ได้รับ รวยระดับหลักสิบ หลักร้อยล้าน เราจะย้อนกลับไปดูกรุสมบัติของ 3 ผบ.ตร. ก่อนหน้านี้ และ ผบ.ตร. คนปัจจุบันกันค่ะ

ข่าวที่น่าสนใจ

1.พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา พ้นตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนที่ 11  ไปเมื่อ วันที่ 1 ตุลาคม 2563 / บิ๊กแป๊ะ ได้แจ้งต่อ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ  ว่ามีทรัพย์สินรวม “เก้าร้อยแปดสิบสามล้านสามแสนสามพันเจ็ดร้อยสี่สิบสองบาท” ( 983,303,742 บาท)  และมี หนี้สินรวม หกสิบล้านบาท (60 ล้านบาท) แบ่งเป็นทรัพย์สินของ พล.ต.อ.จักรทิพย์ “หนึ่งร้อยห้าล้านสี่แสนเก้าหมื่นเจ็ดพันเจ็ดร้อยยี่สิบหกบาท” (105,497,726 บาท ) และทรัพย์สินของคู่สมรส “แปดร้อยเจ็บสิบเจ็ดล้าน หกแสนหกพันหกสิบหกบาท” ( 877,806,016 บาท)

 

 

2. พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนที่ 12 หลังพ้นจากตำแหน่ง   เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2565  มีทรัพย์สินรวมทั้งสิ้น “หนึ่งร้อยหนึ่งล้านสองแสนเก้าพันหนึ่งร้อยแปดสิบแปดบาท”  (101,209,188 บาท )  โดยเป็นทรัพย์สินของ พล.ต.อ.สุวัฒน์ “ห้าสิบเอ็ดล้านสามหมื่นสามร้อยเจ็ดสิบสี่บาท” (51,030,374 บาท)  ประกอบด้วย เงินสด “สามแสนห้าหมื่นบาท” เงินฝาก “เก้าล้านหกแสนหนึ่งหมื่นเก้าพันบาท” ( 9,619,000 บาท) เงินลงทุน 14 รายการ รวมมูลค่ารวม “สิบสามล้านเก้าแสนห้าพันสองร้อยเจ็บสิบสี่บาท” (13,905,274 บาท)

 

 

3.พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนที่ 13 กรณีพ้นจากตำแหน่ง ผบ.ตร. หลังครบเกษียณอายุราชการเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2566  โดยมีทรัพย์สินรวมกันกับภรรยา เป็นเงิน เจ็ดสิบแปดล้านแปดหมื่นห้าพันสี่ร้อยยี่สิบสาม (78,085,423.95 บาท) และหนี้สิน สองล้านห้าหมื่นสามพันสามร้อยแปดสิบสี่ บาท

 

4.พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ คนปัจจุบัน หลังจากมีข่าวฉาวเรื่องการพัวพันกับเว็บไซต์พนันออนไลน์ ด้าน นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ได้เปิดแถลงข่าวการตรวจสอบข้อมูลการยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน ของ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และคู่สมรส ว่า  ….

 

ในช่วงที่ พลตำรวจเอก ต่อศักดิ์ ยื่นบัญชีทรัพย์สิน เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ มีการตรวจสอบพบว่า มีการกู้เงิน วงเงิน 20 ล้านบาท และมีคำชี้แจงว่า เป็นการกู้เงินเพื่อไปทำธุรกิจและแนบภาพถ่ายบ้านที่อังกฤษ ซึ่งเป็นเพียงภาพตัวบ้านอย่างเดียวเท่านั้น

ส่วนรายละเอียดการยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินและหนี้สินของ พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ นั้น นายนิวัติไชย ให้ข้อมูลว่า พล.ต.อ. ต่อศักดิ์ ได้ยื่นแสดงรายการบัญชีทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. 2 รอบ ในตำแหน่งรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 ซึ่งเป็นไปตามหน้าที่ๆต้องยื่นทุกๆ 3 ปี ซึ่งครบ 3 ปี เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2565 จากนั้นได้เข้ารับตำแหน่ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เมื่อปี 2566

แต่กรณีเข้ารับตำแหน่งนี้ไม่จำเป็นต้องยื่นทรัพย์สินต่อ ป.ป.ช. เพราะเป็นการรับตำแหน่งในช่วงที่แสดงบัญชีทรัพย์สินแล้ว จึงไม่ต้องยื่นซ้ำ ในช่วงเวลา 3 ปี เมื่อไม่ต้องยื่น จึงไม่มีบัญชีที่ต้องเปิดเผย

ขณะที่ พล.ต.อ. สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แคนดิเดตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ที่เพิ่งถูกสั่งให้ออกจากรายการ  รับเงินเดือนในอัตราเงินเดือนข้าราชการตำรวจระดับ ส.8 ยศ พลตำรวจเอก อยู่ที่เดือนละประมาณ  เจ็บหมื่นหกพันแปดร้อย บาท

 

 

ในช่วงปีที่ผ่านมา พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ได้กล่าวกับสื่อมวลชนไว้ว่า “ที่มาของเงินที่ใช้ทำงานตอบได้หมดว่ามาจากไหน เพียงแค่ได้รับมรดกจากพ่อของภรรยาก็มีเกือบพันล้านบาทแล้วเพราะเฉพาะพ่อตาผมเสีย มรดกที่กำลังจะรับมอบที่แม่ยายเป็นผู้จัดการมรดกก็เกือบพันล้านแล้ว”

ทั้งนี้เมื่อเข้าไปตรวจสอบข้อมูลเพิ่มเติมพบว่า “ศิรินัดดา หักพาล” ภรรยา มีมูลค่าหุ้นทั้งหมด ใน 5 บริษัท รวมกว่า 10.17 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติทุกคนที่เราได้กล่าวพาดพิงถึง ทรัพย์สมบัติและเงินในบัญชีทั้งหมด ได้รับการชี้แจ้งแหล่งที่ไปที่มาของเงินทั้งหมดอย่างชัดเจน ซึ่งส่วนใหญ่ มาจากการทำธุรกิจส่วนตัว  ที่ไม่ได้เกี่ยวกับการรับราชการตำรวจแต่อย่างใด

ติดตามเรื่องราวทั้งหมดได้ในคลิปด้านล่าง

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ทบ.ขานรับนโยบายปราบยาเสพติด เพิ่มทหาร 6 กองกำลัง วัดเคพีไอ 10 กพ.-10 มิ.ย.
ซีพีเอฟ ซีพี-เมจิ ร่วมหนุนสระบุรีแซนด์บ๊อกซ์ "รวมพลังสร้างเมืองคาร์บอนต่ำแห่งแรกของประเทศไทย”
สละเรือแล้ว! "ผบ.อิสราเอล" ยื่น "ลาออก" เซ่นเหตุ 7 ต.ค. ไล่แทงกันในเทลอาวีฟเจ็บ 5
สุดปัง “นายกฯ” สวมกระโปรงผ้าปาเต๊ะ ร่วมประชุม WEF
ทบ.ยืนยันอีกรอบ! ปมร้อน “แสตมป์” ไม่เกี่ยวกองทัพ พบไม่เคยร้อง 112
ผบ.ทร.เข้าเยี่ยม พร้อมมอบของบำรุงขวัญ สร้างกำลังใจทหารผ่านศึก ขอบคุณเสียสละเพื่อชาติจนทุพพลภาพ
“อัจฉริยะ” ยอมเสี่ยงชีวิต มาขึ้นไต่สวนคดีละเมิดอำนาจศาล พร้อมเปิดแผลผ่าตัดโชว์นักข่าว
"อิสราเอล" บิดหยุดยิง ถล่มเวสต์แบงก์ดับเกลื่อน "ฮามาส" รวมพลด่วน
ตม.4 บุกทลายเว็บพนันฯเกาหลีใต้ ใช้ไทยเป็นฐานบัญชาการควบคุมทั่วโลก เงินหมุนเวียน 100 ล้านบาท
เปิดคำพิพากษา “เต้ มงคลกิตติ์” ทำสัญญาประนีประนอม ยอมขอโทษ หมิ่นกล่าวหา “ศักดิ์สยาม”

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น