“อ.แก้วสรร” ขยายคำวินิจฉัยศาลรธน. “ก้าวไกล” กร่อนเซาะสถาบันฯ ย้ำม.112 ต้องมีเพื่อรักษาบารมีของสถาบันฯ
วันที่ 14 ส.ค. 67 นายแก้วสรร อติโพธิ ออกบทความเรื่อง “พรรคส้ม “พรรคการเมือง” หรือ “พรรคปฏิวัติ” ???” ในลักษณะถามตอบ ผ่าน เว็บไซต์ไทยโพสต์
โดยเนื้อหาของบทความมีดังนี้
ถาม ถ้าพรรคประชาชนเดินหน้าแก้ไข 112 อีก ก็ต้องถูกยุบอีกใช่ไหมครับ
ตอบ เขาบอกว่าจะเดินหน้าต่อไป แต่อาจจะไม่ถูกยุบถ้าไม่ปรากฏการเคลื่อนไหวอย่างเป็นขบวนการ เช่นที่ศาลรัฐธรรมนูญบ่งชี้ไว้
ถาม ผมไม่เข้าใจครับ ที่ศาลระบุว่าพรรคก้าวไกลมุ่งกร่อนเซาะสถาบัน “โดยซ่อนเร้นหรือผ่านการนำเสนอร่างกฎหมาย ”
ตอบ คุณจับความถูกแล้วครับ Key word มันอยู่ตรงนั้น ตรงที่ศาลชี้ว่ามันมีการเคลื่อนไหวกร่อนเซาะสถาบันกษัตริย์อย่างเป็นขบวนการใหญ่ มีหลายฝ่ายหลายพฤติการณ์ประกอบกันประสานกัน หนึ่งในนั้นคือการเคลื่อนไหวในระบบรัฐสภาของพรรคส้ม ที่แต่งตัวเป็น “พรรคการเมือง” ลงเลือกตั้ง แล้วชูธงแก้กฎหมายปรับปรุงสถาบันกษัตริย์ พอชูธง หยิบ ม.112 ขึ้นมาเสนอแก้ไขในนามฝ่ายนิติบัญญํติ แต่ในทางความเคลื่อนไหวกร่อนเซาะแล้ว มันก็คือการชี้เป้า วี้ดบึ้มให้การมีอยู่ของสถาบันตกเป็นปัญหาของชาติ ความเคลื่อนไหวอื่นๆ ทั้งการโจมตีใส่ร้ายในโซเชียล ทั้งการชุมนุมเป็นแฟลชม๊อบ เผาพระบรมฉายาลักษณ์ เผายาง ก่อจลาจล ก็ประสานกันเข้ามาในที่สุด
ถาม มันเป็นการใช้สิทธิเสรีภาพทางการเมืองมิใช่หรือครับ
ตอบ นั่นเป็นคำกล่าวอ้าง แต่แท้จริงแล้วหาใช่การใช้สิทธิเสรีภาพตามวิถีทางรัฐธรรมนูญแต่อย่างใดไม่ ภาษากฎหมายเขาเรียกว่า “การใช้สิทธิโดยไม่สุจริต” คิดอย่างนี้มองอย่างนี้แล้ว ศาลก็เลยชี้ว่าพรรคส้มเอาการเสนอกฎหมายมาบังหน้า บังความเคลื่อนไหวกร่อนเซาะสถาบันของขบวนการใหญ่อีกชั้นหนึ่ง