“บิ๊กโจ๊ก” จ่อยื่นฟ้อง “บิ๊กเนม” งานนี้สตช.สะเทือน!

"บิ๊กโจ๊ก" จ่อยื่นฟ้อง "บิ๊กเนม" งานนี้สตช.สะเทือน!

นาทีนี้ ต้องยกให้เค้า เป็นหนึ่งใน “นักสู้” ตัวจริง ที่ต้องจารึกเอาไว้ในประวัติศาสตร์ชาติไทย เรื่องกลัวใครหน้าไหนไม่เคยมี ! ยิ่งเมื่อ เพลี่ยงพล้ำในเกมกฏหมายยกแรก ยกต่อไปยิ่งต้องตระหนักให้ถี่ถ้วนชนิดที่ว่า ถ้าแพ้อีก “ต้องพังแน่ๆ” โดยล่าสุด คณะกรรมการสอบสวน ซึ่งมี พล.ต.อ.สราวุฒิ การพานิช รอง ผบ.ตร. เป็นหัวหน้าคณะกรรมการการสอบสวน กรณีที่ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. พร้อมพวกรวม 5 คน กระทำผิดวินัยร้ายแรง จะเรียกประชุมความคืบหน้าทางคดี ที่ห้องประชุม กองบังคับการปราบปราม  ในวันดังกล่าว เป็นการกำหนดวันรับทราบข้อกล่าวหาของ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ กับพวก ซึ่งจะมีการแจ้งให้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา คาดว่าภายในสิ้นเดือนสิงหาคมนี้

 

ข่าวที่น่าสนใจ

สำหรับความคืบหน้าทางคดี ขณะนี้ทางคณะกรรมการได้ดำเนินการสอบสวนคืบหน้าไปแล้ว 90% ส่วนจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่มเติมอีกหรือไม่ คาดว่าคณะกรรมการจะพิจารณาและได้ข้อสรุปภายในวันเดียวกันนี้ ทั้งนี้ มีรายงานข่าวเพิ่มเติมว่า พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ เป็นผู้ถูกกล่าวหาเพียงรายเดียวที่ให้การรับสารภาพตามข้อกล่าวหา และอ้างว่ากระทำผิดเพียงผู้เดียว อย่างไรก็ตาม ไม่สามารถทำให้ผู้ถูกกล่าวหารายอื่นพ้นผิดได้ เป็นเพียงข้อมูลประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการ สำหรับรายชื่อผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 5 รายประกอบด้วย 1.พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล 2.พ.ต.ท.คริษฐ์ ปริยะเกตุ 3.พ.ต.อ.กิตติชัย สังขถาวร 4.ส.ต.อ.ณัฐวุฒิ หวัดแวว และ 5.ส.ต.อ.ณัฐนันท์ ชูจักร

ด้านความเคลื่อนไหวของ “บิ๊กโจ๊ก” เอง ณ วันนี้ เก็บตัวเงียบกริบ ไม่เดินสายออกสื่อเหมือนเคย และไม่มีรับโทรศัพท์สื่อมวลชน ซึ่งคนใกล้ชิดบอกกับเราว่า ตอนนี้ “บิ๊กโจ๊ก” เกิดอาการเครียดในระดับหนึ่ง เพราะตเองตั้งหลักทบทวนทุกเรื่องราวให้ละเอียดถี่ถ้วนมาก็ขึ้น ที่สำคัญแว่วมาว่า “บิ๊กโจ๊ก” กำลังรวบรวมพยานหลักฐานสำคัญเอาผิดกับ “บิ๊กเนม” ระดับประเทศ และมีส่วนพัวพันกับเรื่องนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ส่วนจะด้วยประเด็นไหนอย่างไร ต้องรอติดตามชนกันต่อไป

 

ก่อนหน้านี้ พล.ต.อ.เอก อังสนานนท์ ก.ตร.ผู้ทรงคุณวุฒิ กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ หรือ ก.พ.ค.ตร. วินิจฉัย ว่า คําสั่งให้ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ออกจากราชการไว้ก่อนชอบด้วยกฎหมาย ขั้นตอนต่อไปหลังจากนี้ นายกรัฐมนตรี ต้องยื่นทูลเกล้าฯหรือไม่ ว่า สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จะเอาผลการพิจารณาของ ก.พ.ค.ตร. เรียนให้ทางนายกรัฐมนตรีในฐานะที่เป็นผู้บังคับบัญชาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และตามกฏหมายกำหนดไว้ว่ากรณีที่มีคำสั่งให้ข้าราชการระดับรอง ผบ.ตร.ขึ้นไปพ้นจากราชการ ตามกฏหมายที่กำหนดไว้ในพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ พ.ศ.2565 มาตรา 140 ว่า นายกรัฐมนตรี จะต้องนำความกราบบังคมทูล เพื่อให้ทรงมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้พ้นจากตำแหน่ง ซึ่งขั้นตอนต่อไปนายกฯ ก็ต้องทำเช่นนั้น แต่จะใช้ระยะเวลาในการกราบบังคมทูลเท่าไหร่นั้น ตามกฎหมายไม่ได้มีการกำหนดกรอบระยะเวลาไว้

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สันติสุข" ปลื้มปริ่ม "ในหลวง-พระราชินี" ทรงขับเครื่องบิน เสด็จฯเยือนราชอาณาจักรภูฏาน ทรงได้รับการถวายพระเกียรติ สุดประทับใจคนไทย
“ทักษิณ” ลั่นไม่สั่งใครเบรค “กัน จอมพลัง” ยุ่งคดีพีช ฟาด "เต้ มงคลกิตติ์" หลังปูดข่าว
"เจ้าอาวาส" สุดทนขึ้นป้าย “ไม่มีเงินให้ขโมยแล้ว” หลังคนร้ายงัดตู้บริจาคหลายครั้ง
“ทักษิณ” กลับเชียงใหม่อีกครััง เปิดให้รดน้ำดำหัว ขอพรในเทศกาลสงกรานต์ ก่อนช่วย “อัศนี” หาเสียงพรุ่งนี้
“นายกฯ” เตรียมลุยประชุม ครม.สัญจร หลังออกจาก รพ.แล้ว จ.นครพนม 28-29 เม.ย.นี้
"ดีอี" ยกระดับศูนย์ AOC 1441 สู่ ศปอท. เพิ่มประสิทธิภาพบูรณาการข้อมูลปราบ “โจรออนไลน์”
"กนก" โพสต์แฟนข่าว "ท็อปนิวส์" เต็มอิ่ม สนุกสุดทัวร์ย้อนประวัติศาสตร์ "ลั่วหยาง-ซีอาน"
อุตุฯ เตือนรับมือ "พายุฤดูร้อน" 45 จังหวัด ฝนฟ้าคะนอง-ลมแรง กทม.โดนด้วย
ก่อนคิดถึง "กาสิโน" บังคับใช้กม.ให้ได้ก่อน 2 ปีคดีฟอกเงิน "นอท" ไม่คืบ
"พิพัฒน์" นำทัพภูมิใจไทย ปราศรัยใหญ่ ขอเสียงชาวเมืองคอน ส่ง "ไสว" เป็นสส. ชูเป็นจิ๊กซอร์เชื่อมท้องถิ่นดูแลปชช.

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น