วันที่ 15 สิงหาคม 2567 นางสาววิภารัตน์ จันทริก หรือผู้ใหญ่หนู ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4 ตำบลเกาะเรียน อำเภอพระนครศรีอยุธยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา พาผู้สื่อข่าวมาดูตู้น้ำหยอดเหรียญชุมชน ที่ตั้งอยู่ริมถนนอยุธยา-บางปะอินสายใน หมู่ 4ตำบลเกาะเรียน ซึ่งเป็นตู้เหล็กที่ถูกคนร้ายงัดแงะจนตู้พังได้รับความเสียหายเป็นรูกว้างแล้วฉกเอาเงินที่ค้างในตู้ไปร่วม 2,000 บาท เมื่อคืนตอนประมาณช่วงเวลาระหว่างตี 2 ถึงตี 3 ของวันที่ 14 สิงหาคม 2567
ผู้ใหญ่บ้านหมู่4ตำบลเกาะเรียน อยุธยา บอกมันย่องมาตอนตี 2-3 ได้เงินไปร่วม2พันคาดเป็นพวกขี้ยา โดนกันหลายพื้นที่วอนตำรวจสายตรวจตรวจถี่หน่อย
ข่าวที่น่าสนใจ
นางสาววิภารัตน์ จันทริก หรือผู้ใหญ่หนู เล่าในช่วงเวลาดังกล่าว ได้ยินเสียสุนัขเห่าเป็นเวลานานแต่ไม่ได้เอะใจอะไร จนน้องชายมาเล่าให้ฟังว่าเมื่อคืนตอนที่ตนลุกมาเข้าห้องน้ำเห็นมีคนขี่รถจักรยานยนต์ออกจากบริเวณตู้น้ำหยอดเหรียญ ตอนเช้ามาดูพบว่าตู้น้ำถูกงัดเอาเหรียญในกล่องประมาณไม่ต่ำกว่า2,000 บาทไปเรียบร้อยแล้ว จึงได้ถ่ายรูปและนำหลักฐานไปแจ้งความกับพ.ต.ท.เสนีย์ พาชอบ สารวัตรเวรสอบสวน สภ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา ซึ่งทางตำรวจบอกว่า แถวตำบลบ้านเกาะ ตำบลบ้านรุน ก็โดนลักษณะนี้เหมือนกัน แล้วติดต่อให้ช่างมาแก้ไขซ่อมแซมให้ใหม่ โดยค่าเสียหายในการติดตั้งใหม่ประมาณ 2 หมื่นบาท
นางสาววิภารัตน์ จันทริก หรือผู้ใหญ่หนู เล่าต่ออีกว่า นายศุภวิชญ์ ชูรัตน์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ตำบลบ้านรุน อำเภอพระนครศรีอยุธยา เล่าให้ฟังว่าเมื่อเดือนก่อน ตู้น้ำหยอดเหรียญแถวหมู่ 4 ตำบลบ้านรุน ก็ถูกคนร้ายงัดตู้หยอดเหรียญเอาเงินไปเช่นกันสูญเงินไปร่วม 8 พันกว่าบาท ช่างที่มาซ่อมตู้ก็บอกว่า แถวจังหวัดสระบุรี ลพบุรี ก็โดนในลักษณะนี้เหมือนกันคาดเป็นคนร้ายรายเดียวกัน อยากจะฝากบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจช่วยออกตรวจถี่ๆหน่อย โดยเฉพาะตอนดึกๆช่างเวลาเที่ยงคืนถึงตี 3 ซึ่งเป็นช่วงที่คนกำลังนอนหลับสบาย แต่โจรออกทำงาน
เกียรติยศ ศรีสกุล ผอ.ข่าว TOPNEWS ภาคกลาง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง