เจแปน ทูเดย์, BBC และ AFP รายงานว่านายโยชิฟุมิ มัตสุมุระ รัฐมนตรีกระทรวงการบริหารจัดการภัยพิบัติของญี่ปุ่นออกมาแถลงข่าวในวันนี้ (พฤหัสบดีที่ 15 สค.) โดยประกาศยกเลิกคำเตือนภัยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นในอีก 30 ปีข้างหน้า โดยมีผลบังคับใช้ในเวลา 1700 นาฬิกาตามเวลาท้องถิ่น พร้อมกับเรียกร้องให้ชาวญี่ปุ่นกลับไปใช้ชีวิตตามปกติ
การยกเลิกคำเตือนแผ่นดินไหวมีขึ้นหลังจากคำเตือนดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกให้กับชาวญี่ปุ่นและต่างชาติ โดยนักท่องเที่ยวหลายพันคนพากันยกเลิกทริปมาเที่ยวญี่ปุ่น ขณะที่คนญี่ปุ่นก็พากันซื้อข้าวของมากักตุน จนสินค้าเกลี้ยงหิ้งในซุปเปอร์มาร์เก็ตหลายแห่ง ทำให้ซุปเปอร์มาร์เก็ตต้องสั่งควบคุมจำนวนสินค้าที่สามารถซื้อได้ รวมทั้งน้ำดื่ม ขณะที่ประชาชนพากันสั่งซื้อสินค้าที่ใช้ในสถานการณ์ฉุกเฉินเช่นส้วมเคลื่อนที่และอาหารกระป๋อง นอกจากนี้รถไฟหัวกระสุนบางขบวนก็สั่งลดความเร็วลง เพื่อเป็นการป้องกัน โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ก็สั่งระดับมาตรการความปลอดภัยเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือแผ่นดินไหว
ด้านกระทรวงเกษตรและประมงญี่ปุ่นออกมาเรียกร้องประชาชนอย่าตื่นตระหนกและยุติการกักตุนอาหารและสินค้า เนื่องจากผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าความเป็นไปได้ที่จะเกิดแผ่นดินไหวจะยังไม่เกิดขึ้นในเร็วๆนี้ และยังคงอยู่ในระดับต่ำ
ทั้งนี้มัตสุมุระกล่าวว่าชาวญี่ปุ่นสามารถใช้ชีวิตตามปกติ เพียงแต่ใช้ความระมัดระวัง เช่นให้ยึดติดเฟอร์นิเจอร์ภายในบ้านให้มั่นคง, หาข้อมูลเรื่องศูนย์หลบภัยและกักตุนอาหารเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น
วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา (8 สค.) สำนักพยากรณ์อากาศญี่ปุ่นประกาศเตือนภัยแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ชายฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่นในอีก 30 ปีข้างหน้า โดยคาดว่าอาจรุนแรงถึง 8-9 แมกนิจูด ซึ่งโอกาสที่จะเกิดสูง 70-80 % และอาจทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 3 แสนคนจากแผ่นดินไหวและคลื่นยักษ์สึนามิ มูลค่าความเสียหายอาจสูงถึง 13 ล้านล้านดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งคำเตือนดังกล่าวมีขึ้นหลังจากเกิดแผ่นดินไหว 7.1 แมกนิจูดเมื่อช่วงเย็นวันที่ 8 สิงหาคมที่ชายฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่น ทำให้มีผู้บาดเจ็บ 15 คนแต่ผู้เชี่ยวชาญชี้ว่าเหตุแผ่นดินไหวซึ่งเกิดขึ้นที่แอ่งนานไก อาจทำให้เกิดการเคลื่อนตัวของแนวเปลือกโลกสำคัญซึ่งอยู่ขบาบสองฝั่งของแอ่งนานไก และชายฝั่งตะวันออกของญี่ปุ่น