ชะตากรรมโลกไม่ลืม! รัฐประหาร “ทักษิณ” กำจัด “น้องเขย” ขับไล่ “น้องสาว”

การรัฐประหาร ในคืนวันที่ 19 กันยายน พ.ศ.2549 โดยคณะปฏิรูปการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งมีพลเอกสนธิ บุญยรัตกลิน เป็นหัวหน้าคณะโค่นรักษาการนายกรัฐมนตรี ดร.ทักษิณ ชินวัตร นับเป็นรัฐประหารในรอบ 15 ปี โดยก่อนหน้านี้ ประเทศไทย เกิดการรัฐประหาร เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2534 นำโดย พลเอก สุนทร คงสมพงษ์ ยึดอำนาจรัฐบาล พลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ

รัฐประหาร รัฐบาล “ทักษิณ ชินวัตร” ภายหลังประกาศยุบสภาฯ

การรัฐประหาร “ทักษิณ ชินวัตร” ในครั้งนั้น เกิดขึ้นก่อนการเลือกตั้งเป็นการทั่วไป วันที่ 2 เมษายน 2549 ภายหลัง “นายทักษิณ” ประกาศ ยุบสภาฯ ซึ่งต่อมา การเลือกตั้งครั้งนั้น ถูกสั่งให้เป็นโมฆะ และเหตุการณ์ครั้งนั้น นับเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญวิกฤตการณ์ทางการเมือง ยกเลิกรัฐธรรมนูญ สั่งยุบรัฐสภา สั่งห้ามการประท้วงและทำกิจกรรมทางการเมือง ยับยั้งและตรวจพิจารณาสื่อ ประกาศใช้กฎอัยการศึก และจับกุมสมาชิกคณะรัฐมนตรีหลายคน

“พลังประชาชน” ชนะเลือกตั้ง สมัคร สุนทรเวช นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนที่ 25 ได้เพียง 7 เดือน

การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป พ.ศ. 2550 เป็นการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกภายใต้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 และครั้งแรกภายหลังการรัฐประหารยึดอำนาจรัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร กำหนดให้มีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2550 “พรรคพลังประชาชน” ที่มี “นายทักษิณ ชินวัตร” ชักใยอยู่เบื้องหลัง ชนะการเลือกตั้งถล่มทลาย นายสมัคร สุนทรเวช นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีคนที่ 25 ตั้งแต่วันที่ 29 มกราคม พ.ศ.2551–9 กันยายน พ.ศ.2551 แต่ก็ดำรงตำแหน่งได้เพียงระยะเวลาแค่ 7 เดือน เพราะทางประธานศาลรัฐธรรมนูญ พร้อมคณะ ได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัย สิ้นสุดการเป็นนายกรัฐมนตรี เนื่องจากรับเป็นพิธีกรกิตติมศักดิ์ของรายการ “ชิมไปบ่นไป” และ “ยกโขยง 6 โมงเช้า” ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ 9 ต่อ 0 เสียง เห็นว่า นายสมัครกระทำการต้องห้ามขัดต่อรัฐธรรมนูญมาตรา 267 แต่ให้คณะรัฐมนตรีรักษาการไปจนกว่าจะมีนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ทว่า ระหว่างที่ นายสมัคร สุนทรเวช นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี ก็มีเรื่องให้ต้องกินแหนงแคลงใจกับ “ทักษิณ ชินวัตร” เพราะแว่วว่า สมัครดื้อแพ่ง สั่งอะไรก็ไม่เชื่อ ใช้อะไรก็ไม่ทำ

“สมชาย วงศ์สวัสดิ์” น้องเขย “ทักษิณ” ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 26 ได้เพียง 3 เดือน

กระทั่งต่อมา นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ น้องเขยทักษิณ ชินวัตร ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 26 ตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน พ.ศ.2551–2 ธันวาคม พ.ศ.2551 เพียง 3 เดือน ก็มีอันให้ต้องจบลงอีกครั้ง เพราะในขณะที่ “สมชาย” ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีนั้น เขาไม่ได้ปฏิบัติหน้าที่ในทำเนียบรัฐบาลเลย และกลายเป็นนายกฯ คนแรกที่ไม่เคยเข้าทำเนียบ เนื่องจากพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ตั้งม็อบปักหลักยึดพื้นที่ไว้ตั้งแต่ในสมัยรัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช จนต้องใช้สนามบินดอนเมืองเป็นที่ทำการแทน ยาวไปสู่ความชอบธรรมในการลาออกจากตำแหน่งในที่สุด

ตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 27

ต่อมามีกระแสข่าวสะพัดถึงการจัดตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร โดยให้พรรคประชาธิปัตย์เป็นแกนนำในการดึงสมาชิกพรรคต่างๆ เข้ามาร่วมรัฐบาล กระทั่งนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 27 ของประเทศไทย ได้รับโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ.2551 หลังศาลรัฐธรรมนูญยุบพรรคพลังประชาชน และพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งเป็นผลให้นายกรัฐมนตรีสมชาย วงศ์สวัสดิ์ พ้นจากตำแหน่ง เขาเป็นนายกรัฐมนตรีอายุน้อยที่สุดในรอบกว่า 60 ปี ดำรงตำแหน่งระหว่าง พ.ศ.2551−2554
รัฐบาลอภิสิทธิ์ เผชิญการประท้วงใหญ่ในเดือนเมษายน พ.ศ.2552 และเดือนเมษายน-พฤษภาคม พ.ศ.2553 มีการปะทะกันระหว่างกลุ่มผู้ชุมนุมคนเสื้อแดง และทหาร รวมไปถึงกองกำลังไม่ทราบฝ่ายหลายพื้นที่ในกรุงเทพมหานคร สร้างความเสียหายครั้งใหญ่ของประวัติศาสตร์ชาติไทย ทั้งกลุ่มคนเสื้อแดง และพันธมิตรเจ็บตายหลายชีวิต ก่อนจะเปลี่ยนผ่านไปสู่การเลือกตั้งครั้งใหม่…

 

“ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี คนที่ 28 ของไทย สุดท้ายอยู่ไม่ครบเทอม

ในช่วงกลางเดือนพฤษภาคม พ.ศ.2554 พรรคเพื่อไทย ได้มีการเสนอชื่อ “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” น้องสาวแท้ๆ ของ “ทักษิณ ชินวัตร” เข้าชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีในการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรไทยเป็นการทั่วไป วันที่ 3 ก.ค. 54 ผลการเลือกตั้งปรากฏว่า พรรคเพื่อไทยชนะขาดลอย และได้เป็นผู้แทนราษฎร ครอง 265 ที่นั่ง นับเป็นครั้งที่สองในประวัติศาสตร์ไทย ที่พรรคการเมืองพรรคเดียวได้รับคะแนนเสียงข้างมากในสภา จากนั้นเมื่อวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ.2554 “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ได้รับเลือกจากสภาผู้แทนราษฎรให้ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีสืบต่อจากนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ และมีพระบรมราชโองการแต่งตั้งในวันที่ 8 สิงหาคม พ.ศ.2554

“ยิงลักษณ์” นั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีหญิงคนแรก ของประเทศไทยได้ยังไม่ทันครบ 3 ปี ก็มีอันให้ต้องเคราะห์ซ้ำกรรมซัด ม็อบขับไล่หลายทิศทางผุดขึ้นมาต่อต้านคัดค้านการทำงานของรัฐบาล ว่าด้วยนโยบายต่างๆ ที่เหมือนจะเป็นจุดบอดให้ถูกฝ่ายตรงข้ามโจมตีไม่เว้นแต่ละวัน โดยเฉพาะคดีจำนำข้าว… ถึงกระนั้นก็ตามที กระแสม็อบต่อต้านตระกูลชินวัตร เกิดขึ้นเป็นระยะๆ แต่ก็จุดไม่ติด จนกระทั่งมีการเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมสุดซอย ล้างโทษความผิดให้ทุกฝั่งฝ่าย เป็นเหตุให้คนไทยส่วนใหญ่ไม่เห็นด้วย เพราะเหมือนจะเป็นกฎหมายเอื้อเฟื้อช่วยเหลือ ทักษิณ ชินวัตร กลับมาประเทศไทย ม็อบต้านกฎหมายนิรโทษกรรม จุดติด! นำโดย สุเทพ เทือกสุบรรณ และกลุ่มแกนนำ กปปส. เชิญชวนหน่วยงานราชการ และคนทั่วประเทศ ร่วมกันล้มล้างระบอบทักษิณ ยาวไปสู่การเรียกร้องให้ทหารออกมายึดอำนาจคืนประชาชน

ต่อมา “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรีด้วยการยุบสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ.2556 และให้ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รักษาการในตำแหน่งนายกรัฐมนตรี จนกระทั่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยให้พ้นจากการรักษาการในวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ.2557 เนื่องจากการย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี จากตำแหน่งเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ

กลุ่มผู้ชุมนุม กปปส. กดดันขับไล่

ระหว่างนี้เอง ทางกลุ่มผู้ชุมนุม นำโดย สุเทพ เทือกสุบรรณ และกลุ่มแกนนำ กปปส. ยังคงเรียกร้องกดดันให้ทางรัฐบาลพรรเพื่อไทยลาออก แต่ทางพรรคกลับประกาศยุบสภาเพื่อเปิดให้มีการเลือกตั้งใหม่เกิดขึ้นอีกครั้ง และการเลือกตั้งครั้งนั้นก็ถูกกีดกันโดยกลุ่มผู้ชุมนุมสารพัดทิศทาง การเลือกตั้งวันที่ 16 มกราคม 2557 จึงต้องเป็นโมฆะ ระหว่างนั้นเองการเมืองไทย เหมือนเกิดสุญญากาศ การดำเนินการของรัฐบาลในขณะนั้นไม่สามารถควบคุมบริหารประเทศได้ ควบคู่ไปกับกลุ่มผู้ชุมนุมยังคงใช้ยุทธวิธีเคลื่อนไหวที่รุนแรงขึ้น

22 พฤษภาคม 2557 “พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา” ทำการรัฐประหาร

ส่วนเจ้าหน้าที่ทหารที่รอดูท่าทีอยู่ห่างๆ ตัดสินใจก่อการรัฐประหารเมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 เวลา 16.30 น. โดยคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อันมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นหัวหน้าคณะ รัฐประหารโค่นรัฐบาลรักษาการนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล นับเป็นรัฐประหารครั้งที่ 13 ในประวัติศาสตร์ไทย ซึ่งต้องยอมรับว่าการรัฐประหารดังกล่าวลุกลามบานปลายหลังวิกฤตการณ์การเมืองซึ่งเริ่มเมื่อเดือนตุลาคม 2556 เพื่อคัดค้านร่างพระราชบัญญัตินิรโทษกรรมฯ และอิทธิพลของทักษิณ ชินวัตร ในการเมืองไทย

***เคราะห์ซ้ำกรรมซัดเหล่าตระกูลชินวัตร ในรอบ 15 ปีที่ผ่านมา เพราะไม่ว่าจะได้รับการเลือกตั้งกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง ก็มีช่องว่างความผิดพลาดให้ฝ่ายค้านเกิดความชอบธรรมนำมาโจมตี นำสู่การปิดฉากรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้งทุกวาระร่ำไป

ส่วนจะเรียกว่าถูกรังแกได้ไหม? เพราะในเมื่อการขับเคลื่อนต่างๆ เกิดขึ้นจากพลังมวลชนของทั้ง 2 ฝ่าย ที่มีความคิดเห็นไม่ตรงกัน ไหนจะแกนนำปลุกระดม สลับกันสร้างความวุ่นวาย เป็นเหตุให้ทหารต้องออกมาทำการรัฐประหาร ยุติความรุนแรง

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"นายกฯ" ไม่โกรธฉายาครม.ปี 67 มองเป็นสีสัน ลั่น "รัฐบาลพ่อเลี้ยง" ก็ดีช่วยทำงาน เพราะพ่อมีประสบการณ์
"นายกฯ" อวยพรปีใหม่คนไทย ขอให้มีความสุขเรื่องใกล้ตัว บอกปีหน้าเป็นปีแห่งโอกาส รัฐบาลจะทำเต็มที่
ทร.เอาจริง! ติดเขี้ยวเล็บให้ปชช.แนวชายแดน สอนจับปืน-ศัตรูมาพร้อมซัดโป้ง
คดีสังหาร สจ.โต้ง ส่อบานปลาย คลิปเสียงโผล่อีกไขปมยิง โยงเงินปริศนา 70 ล้าน
"อดีตสว.สมชาย" ชี้ฝ่ายอนุรักษ์เดินหมากผิด เปิดโอกาส"ระบอบทักษิณ"ฟื้นชีพรอบวกส้ม
ม่วนกรุ๊ป เริ่มแล้ว เทศกาลตีคลีไฟชัยภูมิ หนึ่งเดียวในโลก 1 ครั้งในรอบปี สุดคึกคัก
ชาวเวียดนามในโฮจิมินห์ดีใจมีรถไฟใต้ดินใช้แล้ว
ผู้นำสูงสุดปัดอิหร่านไม่มีกองกำลังตัวแทน
ฮูตีเคลมผลงาน F/A-18 โดนสอยร่วงทะเลแดง
สื่อทำเนียบฯ จัดเต็มฉายาครม.ปี 67 "รัฐบาล (พ่อ) เลี้ยง" นายกฯท่องโพย วาทะแห่งปี "สามีคนใต้"

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น