พลตำรวจตรีปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะโฆษก บช.น. รายงานผลการจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุวุ่นวายในบ้านเมืองในช่วงที่ผ่านมา โดยระบุว่า เมื่อวานนี้(18 ก.ย.) ตำรวจได้ทำการสืบสวนสอบสวนและได้มีการติดตามจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญโดยนำหมายจับของศาลอาญา ไปติดตามจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย รายแรกเป็นคดีที่กระทบกระเทือนจิตใจพี่น้องประชาชนชาวไทยมาก โดยมีการวางเพลิงเผาทรัพย์สินสำคัญบริเวณหน้ากระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้คือวันที่ 17 กันยายน ได้มีการจับกุมผู้ก่อเหตุแล้ว จำนวน 3 ราย และเมื่อวานนี้(18 ก.ย.)ได้มีการจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมได้อีก 1 ราย ตามหมายจับศาลอาญาที่ โดยจับกุมได้ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในข้อหาร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 217 และความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป
นอกจากนี้ยังได้มีการจับกุมตัวนายกฤษดา ผลภัย อายุ 37 ปี ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 764/2564 เป็นเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน คือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณถนนวิภาวดีรังสิต เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 และจากการตรวจสอบประวัติพบว่านายกฤษดา ยังได้ร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมทำร้ายร่างกาย เจ้าหน้าที่การข่าว ฝ่ายทหาร เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าสยามคอนโดมิเนียม โดยเมื่อวันที่ 17 กันยายน เจ้าหน้าที่้ตำรวจได้จับกุม นายเนวิน มุ่งดี หนึ่งในผู้ก่อเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่การข่าวฝ่ายทหาร มาดำเนินคดีก่อนแล้ว โดยตั้งข้อหาร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติการณ์ตามหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 296 / สมคบกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง ไม่หยุดเมื่อเจ้าหน้าที่สั่งการให้หยุด เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 และ 216 และความผิดตาม พรก.ฉุกเฉินฯอีกส่วนหนึ่ง
สรุปการการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมและผู้กระทำผิดในช่วงเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันนี้ ได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทั้งสิ้น 216 คดี มีผู้อยู่ในข่ายที่จะต้องเป็นผู้ต้องหา หรือถูกดำเนินคดี 781 คน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมและควบคุมตัวมาดำเนินคดีได้แล้ว 536 คน โดยขณะนี้กองบัญชาการตำรวจนครบาล ยังคงทำการสืบสวนขยายผลและขอศาลออกหมายจับผู้ร่วมกระทำผิดในคดีต่าง ๆ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป