อย่าคิดว่าก่อเหตุแล้วจะรอด! ตามรวบเพิ่มอีก 1 มือเผา พระบรมฉายาลักษณ์หน้ากระทรวงแรงงาน

โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล รายงานผลจับกุมเพิ่มอีก 1 ราย ผู้ต้องหามือเผาพระบรมฉายาลักษณ์ บริเวณหน้ากระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่่ผ่านมา ตั้ง 2 ข้อหาหนัก ขณะเดียวกันก็เข้าจับกุมหนุ่มวัย 37 ปีรุมยำตำรวจ เหตุเกิดบนถนนวิภาวดีรังสิต เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ พอตรวจประวัติพบว่าเคยร่วมกับผู้ชุมนุมทำร้ายทหารด้านข่าวกรอง จนได้รับบาดเจ็บ

พลตำรวจตรีปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล ในฐานะโฆษก บช.น. รายงานผลการจับกุมผู้ต้องหาที่ก่อเหตุวุ่นวายในบ้านเมืองในช่วงที่ผ่านมา โดยระบุว่า เมื่อวานนี้(18 ก.ย.) ตำรวจได้ทำการสืบสวนสอบสวนและได้มีการติดตามจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญโดยนำหมายจับของศาลอาญา ไปติดตามจับกุมผู้ต้องหา 2 ราย รายแรกเป็นคดีที่กระทบกระเทือนจิตใจพี่น้องประชาชนชาวไทยมาก โดยมีการวางเพลิงเผาทรัพย์สินสำคัญบริเวณหน้ากระทรวงแรงงาน เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมา โดยก่อนหน้านี้คือวันที่ 17 กันยายน ได้มีการจับกุมผู้ก่อเหตุแล้ว จำนวน 3 ราย และเมื่อวานนี้(18 ก.ย.)ได้มีการจับกุมผู้ต้องหาเพิ่มเติมได้อีก 1 ราย ตามหมายจับศาลอาญาที่ โดยจับกุมได้ที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในข้อหาร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 217 และความผิดเกี่ยวกับความมั่นคง ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 โดยนำตัวส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินคดีต่อไป

นอกจากนี้ยังได้มีการจับกุมตัวนายกฤษดา ผลภัย อายุ 37 ปี ตามหมายจับของศาลอาญาที่ 764/2564 เป็นเหตุการณ์ทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงาน คือเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ทำหน้าที่รักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณถนนวิภาวดีรังสิต เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2564 และจากการตรวจสอบประวัติพบว่านายกฤษดา ยังได้ร่วมกับกลุ่มผู้ชุมนุมทำร้ายร่างกาย เจ้าหน้าที่การข่าว ฝ่ายทหาร เมื่อวันที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา บริเวณหน้าสยามคอนโดมิเนียม โดยเมื่อวันที่ 17 กันยายน เจ้าหน้าที่้ตำรวจได้จับกุม นายเนวิน มุ่งดี หนึ่งในผู้ก่อเหตุทำร้ายเจ้าหน้าที่การข่าวฝ่ายทหาร มาดำเนินคดีก่อนแล้ว โดยตั้งข้อหาร่วมกันทำร้ายเจ้าพนักงานซึ่งปฏิบัติการณ์ตามหน้าที่ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 296 / สมคบกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความไม่สงบเรียบร้อยในบ้านเมือง ไม่หยุดเมื่อเจ้าหน้าที่สั่งการให้หยุด เป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 215 และ 216 และความผิดตาม พรก.ฉุกเฉินฯอีกส่วนหนึ่ง

สรุปการการดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมและผู้กระทำผิดในช่วงเดือนกรกฎาคม ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันนี้ ได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ ดำเนินคดีกับผู้กระทำผิดทั้งสิ้น 216 คดี มีผู้อยู่ในข่ายที่จะต้องเป็นผู้ต้องหา หรือถูกดำเนินคดี 781 คน โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการจับกุมและควบคุมตัวมาดำเนินคดีได้แล้ว 536 คน โดยขณะนี้กองบัญชาการตำรวจนครบาล ยังคงทำการสืบสวนขยายผลและขอศาลออกหมายจับผู้ร่วมกระทำผิดในคดีต่าง ๆ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

มาแน่ “กรมอุตุฯ” ประกาศฉบับ 12 เตือนระวังอันตราย "พายุฤดูร้อน" พัดถล่ม จว.ที่ไหนบ้างเช็กเลย
ฝนตกหนัก "อนุทิน" กำชับ "ผู้ว่าฯ เชียงราย" ติดตามสถานการณ์น้ำแม่น้ำสายใกล้ชิด
"รมว.สุดาวรรณ" นำชมนิทรรศการ สาธิตวิถีชีวิต ประเพณีวัฒนธรรมโดดเด่นชาวนครพนม ชูเส้นทางตามรอยศรัทธาธรรม 7 วันสักการะ 8 พระธาตุประจำวันเกิด
"สรรเพชญ" ผนึก "สุพิศ" นายกอบจ.สงขลา ร่วมขับเคลื่อนพัฒนาท้องถิ่นทุกมิติ มั่นใจยกระดับคุณภาพชีวิตปชช.
"นฤมล" ลงพื้นที่เยี่ยมชาวสวนลิ้นจี่ นครพนม ชื่นชมสร้างมูลค่าส่งออก ยันพร้อมหนุนทุกปัจจัย ดูแลผลไม้ไทย
สส.สัตหีบ เร่งประสานอีสวอเตอร์ แก้ไขปัญหาท่อน้ำประปาแตกบ่อย น้ำไหลเบา เพิ่มแรงดันน้ำพื้นที่โซนสูง
"ศุภมาส" เดินหน้าขับเคลื่อน Soft Power จัดแข่งวาดภาพ Thai Youth Street Art รุดให้กำลังใจ 6 สถาบัน เข้าประชันฝีมือ
สวนสัตว์เปิดเขาเขียว จัดกิจกรรมคลายร้อนให้สัตว์ ด้วยหวานเย็นผลไม้ พร้อมเสริมกิจกรรมต่างๆ เพื่อกระตุ้นพฤติกรรมธรรมชาติ
"สมศักดิ์" ให้กำลังใจทีมแพทย์- พยาบาล รพ.บึงกาฬ พร้อมเปิดห้องรับฟังความเห็น หลังเกิดปัญหาบุคลากรทางการแพทย์ขาดแคลน
กรรมการ บ.ไมนฮาร์ทฯ ผู้รับออกแบบตึกสตง. ให้ข้อมูลดีเอสไอ รับมีการสั่งแก้แปลนอาคาร ผนังปล่องลิฟท์ พร้อมร่วมมือให้ทุกอย่าง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น