สาวร้อง “สายไหมต้องรอด” ถูกย่าฟ้องเป็นชู้-คุกคามชีวิต สู้คดีนาน 7 ปี จนสามีเครียดเสียชีวิต

สาวร้อง “สายไหมต้องรอด” ถูกย่าฟ้องเป็นชู้-คุกคามชีวิต สู้คดีนาน 7 ปี จนสามีเครียดเสียชีวิต

Top news รายงาน นางสาว พรพิมล ปั้นวิลัย อายุ 37 ปี ผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า เมื่อปี 2560 ได้ลงทุนเปิดร้านอาหารร่วมกับเพื่อนคนหนึ่ง ก่อนที่เพื่อนคนนั้นจะขายหุ้นไปยังคุณปู่ของเพื่อนอายุประมาณ 80 ปี เป็นผู้ถือหุ้นแทน จากนั้น ก็มีย่าคนหนึ่งอายุประมาณ 70 ปี ซึ่งเป็นอดีตภรรยาปู่ ที่มีการหย่าร้างไปแล้วตั้งแต่ปี 2550 มาฟ้องชู้กับเธอ โดยนำหลักฐานเป็นภาพถ่ายพนักงานหญิงสาวในร้าน และหญิงอื่นอีกหนึ่งคน นั่งพูดคุยอยู่กับคุณปู่ภายในร้าน นำมาแถลงต่อศาลฯ ก่อนที่ศาลฯ จะยกฟ้อง เนื่องจากบุคคลในรูปไม่ใช่เธอ

 

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

พร้อมกับมีคำสั่งให้คุณย่าหยุดกล่าวหาเธอว่าเป็นเมียน้อย แต่คุณย่าก็ยังไม่หยุด ทำให้เธอต้องฟ้องกลับ ในข้อหา “เบิกความเท็จ” จนเมื่อปี 2566 ศาลมีคำสั่งจำคุกคุณย่า 2 ปี ซึ่งโทษอยู่ระหว่างรอลงอาญา โดยตลอดระยะเวลา 7 ปี คุณย่าได้ฟ้องชู้เธอมาตลอด ทำให้สามีเสียชีวิต เนื่องจากมีภาวะเครียด นอกจากนี้ยังทำให้แม่ของสามีเข้าใจผิดคิดว่า เธอเป็นคนหลอกลวง ต่อมา เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ได้มีตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ ยศ “ร้อยตำรวจเอก” พร้อมตำรวจ สภ.พระสมุทรเจดีย์ อีก 2 นาย เข้ามาหาที่บ้านพร้อมกับอ้างว่า เธอได้ไปขับรถเฉี่ยวชนผู้เสียหาย แต่ก็ไม่สามารถแสดงหลักฐาน หรือชี้แจงข้อเท็จจริงอะไรได้ ก่อนจะถอนกำลังกลับไป

 

 

 

ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้เพื่อนบ้านวิพากษ์วิจารณ์เธอในทางลบ เธอจึงทำหนังสือถามไปยังต้นสังกัด จนได้ความว่า คุณย่าได้ไปลงบันทึกประจำวันกับตำรวจ สภ.รัตนาธิเบศร์ โดยอ้างว่าเธอเป็นเมียน้อย และคุณปู่ได้หนีมาอยู่ที่บ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเหตุการณ์ทั้งหมด ทำให้เธอมองว่า เป็นการคุกคาม เนื่องจากรู้ที่อยู่ อีกทั้งยังรู้ข้อมูลส่วนตัว หากจะเป็นการเอาชีวิต คุณย่าก็สามารถจะทำได้ จึงรู้สึกไม่ปลอดภัยในการใช้ชีวิต ทั้งที่ก่อนหน้านี้คุณย่า และลูก เคยมาขอโทษเธอแล้ว ทำให้สงสัยว่า คุณย่าฟ้องเธอ เพื่อต้องการอะไรกันแน่ เพราะคุณย่าได้เรียกร้องค่าเสียหายจากเธอ 2 ล้าน 5 แสนบาท รวมทั้งคุณปู่ที่เป็นอดีตสามีอีก 50 ล้านบาท ซึ่งเธอมองว่าคุณย่าน่าจะต้องการผลประโยชน์จากเรื่องนี้มากกว่าการฟ้องชู้

 

 

 

 

 

 

ด้าน นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เปิดเผยว่า ตนเองจะประสานไปยัง สภ.รัตนาธิเบศร์ ว่าตำรวจนายดังกล่าว ได้รับมอบหมายไปด้วยเหตุอะไร และมีหน้าที่หรือไม่ ส่วนคุณย่าก็ขอให้จบได้แล้ว เพราะคุณย่าไม่มีสิทธิ์ไปฟ้องร้อง เนื่องจากไม่ได้เป็นสามีภรรยากับคุณปู่แล้ว และผู้เสียหายก็ต่อสู้คดีความ จนสามีเสียชีวิต

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สุดาวรรณ" เยี่ยมชมชุมชนชาวเลสังกาอู้-วิถีวัฒนธรรมชาวเลอูรักลาโวยจ จ.กระบี่
สจ.ธรรมชาติฟ้องตรงอัจฉริยะเรียกค่าเสียหาย 10 ล้านบาท
อย.ตรวจพบสารอันตรายใน อาหารเสริม “กัมมี่” แบรนด์ดัง เร่งดำเนินคดีตามกม.ผู้ผลิต
กระบะสี่ประตูถอยชนกระบะแคปในปั้มน้ำมันแล้วหนีไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สาววัย 41 ปี เจ้าของกระบะแคปหวังเพียงคำขอโทษ
ตระกูล "สิงห์โตทอง" ทิ้งกระจาด ข้าวสาร-อาหารแห้ง 1 พันชุด ย้อนรำลึก "อดีตสส.ดรงค์ สิงห์โตทอง" ผู้ก่อตั้งสมาคมกลุ่มอาชีพการเกษตรชลบุรี ในวันชาวไร่อ้อยชลบุรี
สมศักดิ์ เผย มี ปชช. ร่วมนับคาร์บ ลดป่วย NCDs แล้วกว่า 6.4 แสนคน เดินหน้าอีก 16จว.กลาง-ตะวันออก
กรมส่งเสริมสหกรณ์ขอขยายเวลาโครงการสนับสนุนสินเชื่อสถาบันเกษตรกรแปรรูปยางพาราอีก 10 ปี หวังเสริมสภาพคล่องต่อยอดธุรกิจให้สหกรณ์ชาวสวนยาง
ทบ.สั่งย้าย เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก เซ่นปมทำร้ายร่างกายกำลังพล
บ.สยาม ควอลิตี้ สตาร์ช จำกัด จัดงาน “MODEL SMS 20R” ขยายพันธุ์ต้านทานโรคใบด่างมันสำปะหลัง ภายใน 5 ปี ชัยภูมิต้องปลอดจากการระบาดเป็นจังหวัดแรก
ตร.แจงชัด ติดข้อกม. ยังไม่ได้ตัว "เสี่ยโจ้ ปัตตานี" พ่อค้าน้ำมันเถื่อนใหญ่ พบเบาะแสหนีอยู่กัมพูชา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น