“ธรรมนัส” ลั่นแยกกลุ่ม “บิ๊กป้อม” โวมีแล้ว 34 เสียง รวมจากพปชร. พรุ่งนี้ยื่นรายชื่อรมต.

ส่วน ร.อ.ธรรมนัส จะหลุดจากตำแหน่งหรือไม่นั้น นายไผ่ คิดว่า ในวันนี้คนที่จะหลุดยังไม่หลุด ยืนยันว่า เป็นกลุ่มที่ยืนกันอยู่ตรงนี้ ไม่เกี่ยวกับกลุ่มที่อยู่บ้านป่า ณ เวลานี้ เป็นกลุ่มนี้ ส่วนจะมีโอกาสเปลี่ยนแปลงหรือไม่ ตนเองไม่ทราบ ตอนนี้เราเป็นรัฐบาล ในการนำของนายกรัฐมนตรี นางสาวแพทองธาร ชินวัตร

หลังจากนี้กลุ่มนี้จะไม่ร่วมกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ แล้วใช่หรือไม่ นายไผ่ กล่าวว่า “ลุงป้อมเป็นผู้ใหญ่ อย่าไปเปิดประเด็น”

ส่วนจะยังอยู่กับพรรคพลังประชารัฐใช่หรือไม่ หรือเข้าร่วมรัฐบาลในนามพรรคอื่นนั้น เขายังให้อยู่หรือเปล่า ตนไม่รู้ ส่วนการตัดสินใจของกลุ่มต่อจากนี้ จะออกจากพรรคพลังประชารัฐหรือไม่นั้น ตนไม่ทราบ ตนพูดแทนทุกคนไม่ได้ แต่วันนี้พวกเราเป็นรัฐบาลชัดเจน

สำหรับกรณีที่บอกว่าไม่เป็นธรรมนั้น คิดว่าบางสิ่งบางอย่างออกมาในลักษณะที่มีคนพูดอะไรออกมา ไม่ใช่สิ่งที่ควรจะได้ยิน เราร่วมรบกันมา 6 ปี เราพร้อมทำทุกอย่าง

จากนั้น นายไผ่ ได้นำดอกไม้มอบให้ ร.อ.ธรรมนัส และนายอรรถกร ศิริลัทธยากร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะ สส.ฉะเชิงเทรา พรรคพลังประชารัฐ ด้วย

ด้าน ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า วันนี้ สส. จากทุกภาคเดินทางมาให้กำลังใจในการปฎิบัติหน้าที่ และรักษาไว้ซึ่งแนวร่วมทำงานเพื่อชาติบ้าน เป็นสิ่งสำคัญที่สุด เพราะฉะนั้น ตนเองยังยืนยันว่า มีเจตนารมย์ชัดเจนว่า มีจุดยืนของตัวเองในการทำงานเพื่อชาติบ้านเมือง ขอขอบคุณพี่น้อง สส. จากทุกภาค เรามีความชัดเจนว่าเรารักกันไปด้วยกัน

ส่วนการที่ นายไพบูลย์ นิติตะวัน รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่เดินทางมาที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ได้มีการพูดคุยกันหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส เผยว่า เราทำงานด้วยกันมาตั้งแต่ปี 2561 ให้เกียรติซึ่งกันและกัน และให้กำลังใจ ซึ่งตนเองได้กราบเรียนไปว่า ตนไม่ได้มีการตั้งป้อมว่าจะทะเลาะกับใคร แต่เรามีจุดยืนเป็นของตัวเอง ตนอยู่กับพรรคมานานที่สุดแล้ว ตั้งแต่พรรคยังเป็นวุ้น และรับใช้ในฐานะที่เป็นเลขาธิการพรรค รองหัวหน้าพรรค ประธานดูแลการเลือกตั้ง 17 จังหวัดภาคเหนือ เมื่อปี 62 จนถึงวันนี้ก็ทำดีที่สุดแล้ว

ส่วนการส่งชื่อรัฐมนตรีนั้น เวลานี้ให้รัฐมนตรีรักษาการเป็นผู้ตัดสินใจ และพูดคุยกัน เราไม่ใช่ว่าจะทำอะไร โดยไม่ถามแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ไม่ได้เด็ดขาด ถือเป็นมารยาท ขอยืนยันว่า ทุกคนที่ยืนอยู่ตรงนี้เป็นรัฐบาล ซึ่งมี 22 คน และยังมีอีก 7 คนที่จะตามมา และรวมพรรคเล็กด้วย

เมื่อถามว่า สส. ที่เข้ามูลนิธิบ้านป่ารอยต่อ จะไม่ได้เป็นพรรคร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า อย่าไปพูดถึงตรงนั้น เราจะไม่ก้าวล่วงถึงบุคคลภายนอกที่ไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้ โดยส่งรายชื่อพรรครัฐบาลในนามกลุ่มของตนเอง เราเป็นพรรคพลังประชารัฐ เป็นหนึ่งเดียวกัน เพียงแต่มีคนบางกลุ่มต้องการสร้างความแตกแยกให้กับคนในพรรค ซึ่งมี สส. ส่วนใหญ่ มาขอร้องให้ตนเองพูด พร้อมยืนยันในหลักการที่ตนพูดไปเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา

“อะไรที่พูดไปแล้ว ตนยืนยันในคำพูด ซึ่งตามกฏหมายแล้ว หากยังไม่มีมติขับออกจากพรรค ก็ต้องอยู่ที่เดิม ก็ต้องอยู่อย่างนี้ ส่วนมติในการโหวตนั้น ก็ดูจากมติของพรรคร่วมรัฐบาลว่าเป็นอย่างไร ซึ่งกรณีของ นายสันติ พร้อมพัฒน์ ที่มีรายงานว่าเดินทางเข้ามูลนิธิบ้านป่ารอยต่อ ตนไม่ทราบ แต่ภรรยาของ นายสันติ ก็อยู่ตรงนี้ และเอาเป็นว่าพวกเราเป็นแนวร่วมในการจัดตั้งรัฐบาล”