นร.กลุ่มแรก เข้ารับวัคซีนซิโนฟาร์ม สร้างภูมิก่อนเปิดเรียน

ที่ศูนย์ฉีดวัคซีนตัวเลือกซิโนฟาร์ม ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) (ทีโอทีเดิม) อาคาร 9 ถนนแจ้งวัฒนะ นักเรียนที่เข้าร่วมโครงการ “VACC 2 School” กลุ่มแรก เข้ารับวัคซีนซิโนฟาร์ม กับราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เพื่อสร้างภูมิเตรียมพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน 2/2564 โดยมีข้อแนะนำการเตรียมตัวให้พร้อมก่อนมาฉีดวัคซีน ดังนี้ ผู้ปกครองที่มีความประสงค์จะให้เด็กเข้ารับวัคซีน ต้องเข้าทำแบบคัดกรองออนไลน์ผ่านเว็บไซต์ https://vaccine.cra.ac.th คลิกเมนู สำหรับเด็กและเยาวชนเข้ารับวัคซีนโครงการ VACC 2 School (ทำแบบคัดกรองและใบยินยอม)* และ บันทึก QR Code เพื่อนำมาเช็กอิน ณ วันฉีดวัคซีน // อย่าลืม  นำหนังสือแสดงความยินยอมผู้ปกครอง บัตรประจำตัวประชาชน และบัตรนักเรียน(ถ้ามี)มาเพื่อยืนยันตัวตน

– นอนหลับพักผ่อน ดื่มน้ำให้เพียงพอ

– ขอความร่วมมือสวมใส่ชุดที่บ่งบอกสถานศึกษา แนะนำใส่เสื้อแขนสั้นเพื่อความสะดวกในการฉีด

– มาถึงก่อนเวลานัดหมายไม่เกิน 15 นาที (ตรวจสอบช่วงเวลานัดหมายของนักเรียนได้ทาง SMS ตามเบอร์โทรศัพท์ที่ทางโรงเรียนได้ลงทะเบียนไว้ในระบบราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์)

ขณะเดียวกันเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ถ.แจ้งวัฒนะ นายวัลลภ ยุติธรรมดำรง รองเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เข้าพบ พ.ต.ท.กรวัชร์ ปานประภากร อธิบดีดีเอสไอ เพื่อร้องทุกข์กล่าวโทษ กรณีมีผู้แอบอ้างปลอม Line ID และFacebook ในนามราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โดยมีพฤติกรรมแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และใช้ตราสัญลักษณ์ปลอมของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์นำไปแอบอ้าง  เพื่อหลอกลวงฉ้อโกงประชาชน

นายวัลลภ  เปิดเผยว่า มีคนใช้ชื่อแฝงตัวเข้ามาในเพจเฟซบุ๊กของเลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ซึ่งใช้สำหรับลงข้อมูลข่าวสารถึงการดำเนินงานของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์  ประกาศตัวที่จะขอรับอาสาติดต่อประสานงาน และก็มีการหลงเชื่อ ติดตามไปช่องทางไลน์ และมีการพูดโน้มน้าวให้ประชาชนที่หลงเชื่อโอนเงินเพื่อซื้อวัคซีน ที่ผ่านมาทราบว่ามีผู้หลงเชื่อโอนเงินไปแล้วหลายล้านบาท  โดยก่อนหน้านี้ได้แจ้งความดำเนินคดีไว้ที่ สน.ทุ่งสองห้อง แล้ว แต่เนื่องจากเป็นเรื่องที่กระทบต่อประชาชนจำนวนมาก และมีมูลค่าความเสียหายสูง จึงมายื่นเรื่องให้อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ พิจารณาว่าจะเข้าหลักเกณฑ์รับเป็นคดีพิเศษหรือไม่

ส่วนพฤติกรรมของมิจฉาชีพ จะปลอมแปลงบัญชีไลน์และเฟซบุ๊กขึ้นมา และแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เข้าไปตอบคำถามข้อสงสัยในกลุ่มสาธารณะ ที่พูดคุยเกี่ยวกับการจัดหาวัคซีนต่างๆ ให้ประชาชนหลงเชื่อ และหลอกให้จองวัคซีนพร้อมโอนเงิน โดยเป็นราคาวัคซีนที่สูงกว่าราคาที่ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์จัดสรรด้วย ทั้งนี้ฝากไปยังประชาชนว่าทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ไม่มีการเปิดช่องทางให้โอนเงินผ่านทางพร้อมเพย์ แต่อย่างใด

นอกจากนี้ยัง มีการไปหลอกขอ Username และ Password ของทางโรงพยาบาลที่รับจัดสรรวัคซีนจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และทำการล็อกอินเข้าไปเพิ่มชื่อผู้ได้รับจัดสรรวัคซีน เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและไปหลอกประชาชนต่อ ซึ่งมีโรงพยาบาลแห่งหนึ่งที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำนี้ และเข้ามาร้องเรียนต่อราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ด้วย