“อดีตข้าราชการครู” วัย 84 ปี ร้องถูก “แก๊งคอลเซนเตอร์” อ้างเป็นตร. หลอกโอนเงินสูญเฉียดล้าน

แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างเป็นตำรวจ หลอกอดีตข้าราชการครูวัย 84 ปี นั่งรถจากเชียงใหม่ มา กทม. โอนเงินสูญเกือบ 6 แสนบาท ลูกสาว เผยไหวตัว รีบแจ้ง ตร.ระงับทัน เกือบเสียอีก 9 แสน

“อดีตข้าราชการครู” วัย 84 ปี ร้องถูก “แก๊งคอลเซนเตอร์” อ้างเป็นตร. หลอกโอนเงินสูญเฉียดล้าน – Top News รายงาน

อดีตข้าราชการครู

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 23 ส.ค.2567 พ.ต.อ.อนันต์ วรสาตร์ ผกก.สน.บางเขน สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบหลังได้รับการประสานจากญาติของ นางพัฒน์นรี (ขอสงวนนามสกุล) อดีตข้าราชการครู อายุ 84 ปี ให้เข้าช่วยเหลือผู้เสียหาย หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาหลอกให้โอนเงิน 9 แสนบาท ที่สหกรณ์ออมทรัพย์กรมป่าไม้ ซึ่งก่อนหน้าได้โอนไปแล้ว 590,000 บาท

น.ส.กุ้ง ลูกสาว เล่าว่า ตนได้รับข้อความแจ้งเตือนจากบัญชีที่ผูกไว้กับแม่ว่า มีการเบิกเงิน 550,000 บาท เมื่อวันที่ 21 ส.ค.67 และอีก 90,000 บาท วันที่ 22 ส.ค.67 จึงสงสัย และได้การติดต่อไปยังสหกรณ์ออมทรัพย์กรมป่าไม้ จึงได้รับทราบข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ว่าเงินจำนวนดังกล่าวได้มีนางพัฒน์นรี แม่ของตน เป็นผู้มาเบิก จากนั้นตนจึงได้พยามติดต่อกับแม่ เนื่องจาก ตนทราบว่าแม่ซึ่งพักอาศัยอยู่ที่ จ.เชียงใหม่ เดินทางมาที่กรุงเทพฯ เกรงว่าจะเกิดอันตราย

น.ส.กุ้ง กล่าวอีกว่า จากนั้นจึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน ให้ช่วยติดตามแม่ของตน จนทราบว่าแม่กำลังทำธุรกรรมการเงินอยู่ที่สหกรณ์ออมทรัพย์กรมป่าไม้ จนสามารถเข้าระงับการเบิกเงินไว้ได้

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

ด้าน พ.ต.ท.พรชัย ว่องประเสริฐการ สารวัตรสืบสวน สน.บางเขน กล่าวว่า หลังจากเจ้าหน้าที่ได้รับเรื่องร้องเรียน จึงเร่งติดตามตัวนางพัฒน์นรีจนพบว่าอยู่ระหว่างทำธุรกรรมทางการเงินอยู่ที่สหกรณ์ออมทรัพย์กรมป่าไม้ จึงเข้าระงับการเบิกเงินก่อนจะเกิดความเสียหายจากการหลอกลวงของมิจฉาชีพ

พ.ต.ท.พรชัย กล่าวต่อว่า จากนั้น จึงได้เชิญตัวมาสอบปากคำจนทราบว่า ก่อนหน้านี้มีชายโทรศัพท์เข้ามาโดยอ้างว่า ตนเองเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ที่ สภ.ลำพูน มีการชักชวนพูดคุยถามถึงชีวิตส่วนตัวต่างๆ จากนั้นได้มีการติดต่อกลับมาอีกว่าเงินฝากของผู้เสียหายเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับธุรกิจผิดกฎหมาย และออกอุบายให้ผู้เสียหายโอนเงินเข้ามาตรวจสอบ หลังจากตรวจสอบเสร็จแล้วจึงจะคืนเงินตามจำนวนที่ผู้เสียหายโอนมาให้ในทันที ด้วยความที่ผู้เสียหายเป็นคนแก่ จึงได้หลงกลอุบายของมิจฉาชีพ

พ.ต.ท.พรชัย กล่าวด้วยว่า ผู้เสียหายจึงจ้างรถตู้มาจาก จ.เชียงใหม่ มาเบิกเงินที่ กทม. โดยที่ไม่ได้บอกกับญาติให้รับรู้ และโอนเงินก้อนแรก 500,000 บาท วันที่ 21 ส.ค. ที่ธนาคารกรุงไทย สาขากรมพัฒนาที่ดิน โอนก้อนที่ 2 จำนวนเงิน 90,000 บาท ที่ ร้านสะดวกซื้อ

และอยู่ระหว่างดำเนินการเบิกอีก 900,000 บาท เพื่อโอนให้กับคนร้าย แต่โชคดีเจ้าหน้าที่ได้เข้าระงับเหตุไว้ได้ก่อน คนร้ายยังได้ออกอุบายให้ผู้เสียหายโยนสลิปเงินการโอนทิ้งหลังจากที่มีการทำธุรกรรมเสร็จสิ้น

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบแล้วพบว่าเงิน 590,000 บาท ที่ผู้เสียหายได้โอนไปก่อนหน้านี้ได้ถูกถอนออกจากบัญชีเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างตรวจสอบชื่อบัญชีที่ทางผู้เสียหายโอนไปโดยคาดว่าน่าจะเป็นบัญชีม้า และรวบรวมพยานหลักฐานติดตามตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

MEA เดินหน้าโครงการ 'ถนนสวย ไร้สาย' นำสายสื่อสารลงใต้ดินถนนวิทยุ ยกระดับภูมิทัศน์เมือง เพิ่มความเป็นระเบียบและปลอดภัย
"ดีเอสไอ" รับคดี "ตึกสตง." ถล่ม เป็นคดีพิเศษ พุ่งเป้าสอบความผิด 3 ประเด็นหลัก
KEN by MEA ห่วงใย ยืนยันความปลอดภัยของระบบโซลาร์ พร้อมดูแลคุณทุกสถานการณ์
กรมตรวจบัญชีสหกรณ์ สนองงานตามพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้าฯ ขับเคลื่อนการใช้บัญชีพัฒนาคุณภาพชีวิตเด็ก เยาวชน และกลุ่มอาชีพประชาชน
สภาฯลงมติเอกฉันท์ รับหลักการ "หวยเกษียณ" จูงใจคนออมเงิน ลุ้นโชค
นักส่งเสริมมูลค่าเพิ่มเพื่อการค้า กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ
โรงสีข้าวพิกุลทองตากใบ ศูนย์เรียนรู้ด้านเกษตรกรรม เสริมสร้างวิถีชีวิตตามแนวปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
"มารศรี" เลขาธิการ สปส. ลงพื้นที่ศูนย์ช่วยเหลือกระทรวงแรงงาน จตุจักร กำชับเจ้าหน้าที่ สปส. ชี้แจงสิทธิประโยชน์ พร้อมเยียวยาลูกจ้างเต็มที่
จนท.กู้ภัย นำกระดูก-เส้นผม จากซาก "ตึกสตง." ถล่ม ส่งนิติเวชตรวจสอบ เทียบดีเอ็นเอครอบครัว รอยืนยันตัวตน
ผู้ว่าการ MEA ย้ำความพร้อมระบบไฟฟ้า รับมือแผ่นดินไหว – สนับสนุนภารกิจช่วยเหลือผู้ประสบภัยเต็มกำลัง

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น