AFP และ BBC รายงานว่าตำรวจฝรั่งเศสได้ออกไล่ล่าผู้ต้องสงสัยเป็นชายเชื่อว่าก่อเหตุจุดไฟเผาโบสถ์เบ็ธ ยาคอฟ ที่เมืองลากรองด์ ม็อต ซึ่งเป็นเมืองชายทะเล ใกล้กับเมืองมงเปลิเย่ ทางใต้ของฝรั่งเศส โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้าวานนี้ (เสาร์ที่ 24 สค.)
ตำรวจเผยว่าคนร้ายได้จุดไฟที่ประตูทางเข้าโบสถ์ 2 แห่ง เคราะห์ดีที่มีคนเห็นเหตุการณ์และสามารถดับไฟได้อย่างรวดเร็ว แต่ประตูได้รับความเสียหาย นอกจากนี้คนร้ายยังจุดไฟเผารถยนต์ 2 คันที่จอดอยู่ด้านนอก และได้โดยกระป๋องแก๊สปาเข้าไปภายในรถยนต์คันหนึ่งทำให้เกิดระเบิด ทำให้ตำรวจที่เห็นเหตุการณ์และพยายามวิ่งเข้ามาระงับเหตุได้รับบาดเจ็บจากแรงระเบิด
ทั้งนี้ภาพจากกล้องวงจรเผยให้เห็นชายผู้ต้องสงสัยใช้ธงชาติปาเลสไตน์พันรอบเอวและโพกศีรษะด้วยผ้าพันคอลายสัญญลักษณ์ปาเลสไตน์ ในมือถือขวดใส่ของเหลวสีเหลืองและมีปืนพกเหน็บไว้ที่เอว หลังก่อเหตุก็ได้เดินเท้าหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว
หลังเกิดเหตุ ประธานาธิบดีเอ็มมานูเอล มาครงเรียกเหตุการณ์ดังกล่าวว่าเป็นการก่อการร้าย พร้อมประกาศจะไล่ล่าหาตัวผู้ก่อเหตุให้เจอให้ได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีแกเบรียล อัททาลได้เดินทางไปดูความเสียหาย และว่าสำนักงานอัยการด้านต่อต้านการก่อการร้ายแห่งชาติกำลังเร่งสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมกันนี้ก็สั่งยกระดับมาตรการรักษาความปลอดภัยตามชุมชนชาวยิวทันที
ล่าสุดมีรายงานว่าตำรวจได้จับกุมผู้ต้องสงสัยได้แล้วที่เมืองนีมส์ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ นอกจากนี้ยังจับกุมผู้สมรู้ร่วมคิดอีก 2 คน
เหตุโจมตีโบสถ์ยิวมีขึ้นในช่วงวันชาบัท ซึ่งเป็นวันสำคัญทางศาสนาของคนยิว โดยคนยิวมักมาร่วมพิธีทางศาสนาที่โบสถ์ แต่ช่วงเกิดเหตุเป็นช่วงเช้าที่ผู้คนยังเดินทางมาไม่ถึง และพิธียังไม่เริ่ม ด้านในจึงมีเพียงนักบวชและเจ้าหน้าที่อยู่เพียงไม่กี่คน และไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
ฝรั่งเศสมีชุมชนชาวยิวที่ใหญ่ที่สุด ถ้าไม่นับรวมอิสราเอลและสหรัฐ ขณะเดียวกันก็เป็นที่อยู่อาศัยของชุมชนชาวมุสลิมที่ใหญ่ที่สุดของสหภาพยุโรปเช่นกัน
