“ทักษิณ” ออกรบเอง ชิงแต้มการเมือง รักษาฐานที่มั่น

ปัจจัยแรกที่ “นายใหญ่เพื่อไทย” ต้องออกจากถ้ำเสือฐานบัญชาการรบ “บ้านจันทร์ส่องหล้า” เพื่อไปลุยน้ำท่วมด้วยตัวเอง เพราะรัฐบาล “อุ๊งอิ๊ง” 1 ยังสาละวนอยู่กับการจัดโผ ครม.  หวาดผวากลัวจะติดกับดักปัญหาจริยธรรม จึงต้องตรวจสอบคุณสมบัติละเอียดยิบแต่งตั้งรัฐมนตรีคนมีตำหนิเข้าไปอาจทำให้ “นายกฯอุ๊งอิ๊ง” ซ้ำรอยอดีตนายกรัฐมนตรี “เศรษฐา ทวีสิน” จึงทำให้รัฐบาลขณะนี้กลายเป็นสุญญากาศบริหารประเทศได้ไม่เต็มที่

ปัจจัยถัดมา คือ นายใหญ่บ้านจันทร์ส่องหล้า อาจยังหลอนภาพจำน้ำท่วมใหญ่ปี 2554  ในยุคน้องสาวตัวเองเป็นรัฐบาล “ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี  ประกาศปลอบใจประชาชนว่า รัฐบาลเอาอยู่?  แต่สุดท้ายเกือบทั้งประเทศจมบาดาล พื้นที่ทางการเกษตรนับล้านไร่ราบเป็นหน้ากลองไปกับมวลน้ำจำนวนมหาศาล , บ้านเรือนประชาชน เขตนิคมอุตสาหกรรมจมมิดใต้น้ำภาคเศรษฐกิจเสียหายนับแสนล้านบาท หรือแม้แต่กรุงเทพมหานคร ยังเอาไม่อยู่  “สนามบินดอนเมือง” จมอยู่ใต้น้ำ รัฐบาลยุคยิ่งลักษณ์ ต้องใช้งบประมาณมหาศาลมาฟื้นฟูเยียวยา นับเป็น “มหาอุทกภัย” ที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ ทั้งในแง่ของปริมาณน้ำและจำนวนผู้ได้รับผลกระทบ  จึงไม่แปลกเหตุใด “ยงยุทธ ติยะไพรัช” เบิ๊กเนมพรรคเพื่อไทยแม่ทัพสส.ภาคเหนือ สายตรง “ทักษิณ” จึงออกมาเป็นหัวหอกพา “นายใหญ่เพื่อไทย” ลุยน้ำท่วมไปซับน้ำตาคนเหนือในวันที่ 27 สิงหาคมนี้ ปักหมุดไปจังหวัดเชียงราย

ยิ่งใกล้เลือกตั้งนายกอบจ.จังหวัดเชียงรายเข้ามาทุกขณะ  จะปล่อยให้ฐานที่มั่นทางการเมืองเผชิญปัญหาไม่ได้เด็ดขาด  เพราะปัจจัยการชนะเลือกตั้งการเมืองท้องถิ่นประกอบด้วยหลายเรื่อง  ไม่ใช่แค่ขี่กระแสพรรคอย่างเดียวจะได้เป็น “นายกอบจ.” อาทิ ตัวบุคคลต้องพร้อมและมีทีมงานคุณภาพเกาะติดพื้นที่หัวคะแนนเข้มแข็ง / นโยบายต้องโดนใจคนในพื้นที่พร้อม ๆ กับมีกระแสพรรคการเมืองมาช่วยเสริม  และที่สำคัญ สถานการณ์เฉพาะหน้าในพื้นที่กำลังเกิดอะไรขึ้น นั้นคือ น้ำท่วมใหญ่