“ผู้ว่าฯกทม.” ควง “รองวิศณุ” ล่องเรือตรวจสถานการณ์น้ำ ยันไม่รุนแรงเท่าปี 54

"ผู้ว่าฯกทม." ควง “รองวิศณุ” ล่องเรือตรวจสถานการณ์น้ำ ยันไม่รุนแรงเท่าปี 54

วันนี้เวลา 11.00 น.ที่บริเวณท่าเรือส่วนอาคารการท่องเที่ยว เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือ กทม. พร้อมด้วยนายวิษณุ ทรัพย์สมพล รองผู้ว่าฯกทม. และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้แถลงเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำเหนือและน้ำฝนของกรุงเทพกรุงเทพมหานคร

 

 

 

โดยนายชัชชาติ กล่าวว่า ใน กทม.กังวลปริมาณน้ำฝน เพราะหากตกสะสมถึง 200 มิลลิเมตร ก็จะเกิดปัญหาได้ เพราะท่อระบายน้ำที่ออกแบบมารองได้ประมาณ 60 มิลลิเมตร ส่วนน้ำเหนือจากภาพรวมตอนนี้ปริมาณน้ำไม่น่ากังวล น่าจะยังรองรับได้อยู่ แต่เราก็ต้องไม่ประมาท ขอให้ประชาชนสบายใจว่าสถานการณ์โดยรวมไม่มีอะไรซ้ำรอย ปี 54 ซึ่งในกรุงเทพฯ จะห่วงปริมาณฝนที่ตกหนักเป็นบางจุด บางพื้นที่และอาจจะระบายไม่ทัน

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

 

ด้านนายวิษณุ กล่าวว่า ไม่ได้กังวลกับสถานการณ์น้ำเหนือก้อนนี้มากนัก เพราะมวลน้ำก้อนนี้จะไหลเข้าสู่เขื่อนสิริกิติ์ และเขื่อนภูมิพล อีกทั้งขณะนี้เขื่อนทั้งสองมีปริมาณน้ำในเขื่อนอยู่ที่ 70% ของปริมาณเขื่อน และยังสามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีก 30% วันนี้เขื่อนสิริกิติ์ไม่ได้ปล่อยน้ำลงมา จึงไม่น่ากังวล เหตุการณ์วันนี้มันต่างกันมากกับปี 2554 เพราะปี 2554 มีทั้งฝนตกสะสมมานาน และเขื่อนกักน้ำไว้เต็ม แต่น้ำท่วมภาคเหนือคราวนี้เป็นแค่ฝนตกหนัก ความสามารถในการรับน้ำของเขื่อนยังมีความสามารถสูงอยู่ จึงขอให้พี่น้องสบายใจได้ว่า น้ำก่อนนี้ไม่มีผล ขณะเดียวกันกรุงเทพมหานคร ยังได้ประสานงานกับชลประทานอย่างต่อเนื่องในการระบายน้ำ ทำให้ กทม. สามารถเตรียมการรับน้ำได้อย่างทันท่วงที

 

 

 

 

นายวิศณุ กล่าวอีกว่า ปัจจุบันมวลน้ำไหลลงมาถึงจังหวัดสุโขทัย และคาดว่าจะมาถึงกรุงเทพมหานคร ใช้เวลาประมาณ 6 วัน หรือวันที่ 2 กันยายน โดยอัตราการระบายน้ำที่ต้องเฝ้าระวังก่อนถึงกรุงเทพมหานครคือที่สถานีบางไทร ซึ่งอัตราการระบายน้ำที่สถานีบางไทร ณ วันที่ 26 สิงหาคม เฉลี่ยอยู่ที่ 989 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ส่วนอัตราการระบายน้ำที่ต้องเฝ้าระวังอยู่ที่ 2,500 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ซึ่งกทม.ได้เตรียมพร้อมการบริหารจัดการน้ำและระบบป้องกันน้ำท่วมต่างๆ และตรวจสอบความแข็งแรงและจุดรั่วซึมของแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา คลองบางกอกน้อย และคลองมหาสวัสดิ์ ความยาวประมาณ 80 กิโลเมตร ทั้งนี้หลังจากปี 54 เป็นต้นมา กทม.ได้เสริมแนวคันกั้นน้ำถาวรริมเจ้าพระยาสูงขึ้นตลอดแนวที่ระดับ 2.80-3.50 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง และเรียงกระสอบทรายเป็นเขื่อนชั่วคราวในบริเวณที่ไม่มีแนวป้องกันน้ำถาวร หรือ แนวฟันหลอ รวมถึงบริเวณแนวป้องกันที่มีระดับต่ำตามจุดต่า ๆ ไปจนถึงการตรวจสอบความพร้อมของสถานีสูบน้ำริมแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน 96 สถานี และบ่อสูบน้ำตามแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยาทั้ง 2 ฝั่ง ในช่วงน้ำทะเลขึ้น พร้อมทั้งจัดเจ้าหน้าที่เฝ้าระวังประจำจุด เครื่องสูบน้ำสำรอง เรือผลักดันน้ำ กระสอบทราย ตลอดจนเตรียมความพร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยปฏิบัติการเร่งด่วนเคลื่อนที่ และอุปกรณ์ต่าง ๆ ให้พร้อมปฏิบัติการและช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ทันทีเมื่อเกิดเหตุน้ำท่วม ตลอด 24 ชั่วโมง

สำหรับชุมชนนอกคันกั้นน้ำแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน 16 ชุมชน 731 ครัวเรือน ในพื้นที่ 7 เขต ซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบและความเดือดร้อนจากน้ำท่วมนั้น รองผู้ว่าฯ กทม. ชี้แจงว่า ได้สั่งการให้สำนักงานพื้นที่ เขตดุสิต พระนคร สัมพันธวงศ์ บางคอแหลม ยานนาวา บางกอกน้อย และเขตคลองสาน ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนชุมชนและให้เตรียมขนย้ายสิ่งของให้อยู่ในที่สูง หากเกิดปัญหาระดับน้ำขึ้นสูง นอกจากนี้ได้สั่งการสำนักงานเขตที่มีพื้นที่อยู่ตามแนวริมแม่น้ำเจ้าพระยาสำรวจพื้นที่บ้านเรือนของประชาชน จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่เพื่อช่วยเหลือประชาชนในกรณีฉุกเฉินต่าง ๆ อย่างทันท่วงที

ขณะที่ปริมาณฝนในพื้นที่ กทม.ปี 2567 นายวิศณุ กล่าวว่า ในเดือนสิงหาคมมีปริมาณฝนอยู่ที่ 208.5 มิลลิเมตร มีค่าน้อยกว่าปี 2566 ซึ่งมีค่าอยู่ที่ 224 มิลลิเมตร และปริมาณฝนสะสมในปี 2567 อยู่ที่ 842.5 มิลลิเมตร มีค่าใกล้เคียงกับปี 2566 อยู่ที่ 811.50 มิลลิเมตร ซึ่งจากสถานการณ์ฝนในเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา แสดงให้เห็นว่ากทม.มีความพร้อมในด้านอุปกรณ์และเจ้าหน้าที่ รวมไปถึงความพร้อมของประตูระบายน้ำและคันกั้นน้ำริมแม่น้ำในการรับมือกับทั้งน้ำฝน น้ำเหนือ และน้ำทะเลหนุนที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่จากสำนักระบายน้ำ ยังได้นำกระสอบทรายจำนวน 100 ถุง น้ำหนักรวม 1 ตัน เสริมขึ้นเป็นแนวคันกั้นน้ำบริเวณท่าเรือส่วนอาคารการท่องเที่ยวด้วย เพื่อให้ได้ขนาดความสูง 2.8 เมตร เพื่อเป็นแนวป้องกันน้ำท่วม พร้อมเสริมท่อขนาด 4 นิ้ว เพื่อเพิ่มทางระบายน้ำ หลังจากมวลน้ำจากทางภาคเหนือได้ทยอยไหลลงมา ซึ่งจะส่งผล ทำให้ระดับแม่น้ำเจ้าพระยาเพิ่มสูงขึ้นอีกด้วย

หลังการแถลงเสร็จสิ้น ผู้ว่าฯกทม.และรองผู้ว่าฯกทม.ได้นำสื่อมวลชนลงเรือล่องแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อตรวจสอบความพร้อมแนวป้องกันน้ำท่วมริมแม่น้ำเจ้าพระยา จากท่าเรือส่วนการท่องเที่ยว ใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า เขตพระนคร ถึงวัดสร้อยทอง เขตบางซื่อ เพื่อดูความแข็งแรงในการเสริมคันกั้นน้ำของกทม.ที่รองรับสถานการณ์น้ำ

 

 

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

ทร.เอาจริง! ติดเขี้ยวเล็บให้ปชช.แนวชายแดน สอนจับปืน-ศัตรูมาพร้อมซัดโป้ง
คดีสังหาร สจ.โต้ง ส่อบานปลาย คลิปเสียงโผล่อีกไขปมยิง โยงเงินปริศนา 70 ล้าน
"อดีตสว.สมชาย" ชี้ฝ่ายอนุรักษ์เดินหมากผิด เปิดโอกาส"ระบอบทักษิณ"ฟื้นชีพรอบวกส้ม
ม่วนกรุ๊ป เริ่มแล้ว เทศกาลตีคลีไฟชัยภูมิ หนึ่งเดียวในโลก 1 ครั้งในรอบปี สุดคึกคัก
ชาวเวียดนามในโฮจิมินห์ดีใจมีรถไฟใต้ดินใช้แล้ว
ผู้นำสูงสุดปัดอิหร่านไม่มีกองกำลังตัวแทน
ฮูตีเคลมผลงาน F/A-18 โดนสอยร่วงทะเลแดง
สื่อทำเนียบฯ จัดเต็มฉายาครม.ปี 67 "รัฐบาล (พ่อ) เลี้ยง" นายกฯท่องโพย วาทะแห่งปี "สามีคนใต้"
“ว้าแดง”เหิมหนัก! สั่งคนไทยห้ามเก็บของป่า ชาวบ้านผวา-ซ้อมอพยพถี่ยิบ
เมีย-แม่ยาย หอบเงินล้าน บุกติดสินบนตำรวจ ช่วยผัวค้าเฮโรอีน สุดท้ายถูกซ้อนแผนโดนรวบตัว

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น