ชลประทานผันน้ำเข้าทุ่งบางระกำโมเดล แล้ว กว่า 50 ล้านลูกบาศก์เมตร พร้อมเตรียมรองรับมวลน้ำเหนือจาก จ.สุโขทัย ที่จะเข้ามาอีก คาดหลังจากนี้อีก 1 เดือน น้ำจะเต็มทุ่ง ขณะที่ ชาวริมแม่น้ำยมสายเก่า หรือคลองเมม เริ่มทยอยเก็บสิ่งของขึ้นที่สูง

“ชลประทาน” พิษณุโลก ผันน้ำเข้า “ทุ่งบางระกำโมเดล” 50 ล้าน ลบ.ม. รองรับมวลน้ำตอนบนจากสุโขทัย – Top News รายงาน

เมื่อวันที่ 27 สิงหาคม 2567 มวลน้ำที่ไหลเข้ามาในเขตแม่น้ำยมสายเก่า ของจังหวัดพิษณุโลก วันนี้ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยที่บ้านวังขี้เหล็กหมู่ 10 ตำบลท่าช้าง อำเภอพรหมพิราม จังหวัดพิษณุโลก ชลประทานได้เปิดการระบายน้ำจากท่อระบายน้ำคลองแยงมุม เข้าทุ่งบางระกำ ซึ่งเป็นทุ่งนาที่เก็บเกี่ยวเสร็จแล้ว โดยรับน้ำจากคลองเมม หรือ แม่น้ำยมสายเก่าไปเก็บไว้ในทุ่งนา และนับจากนี้ไปอีก 1 เดือน บริเวณนี้จะเต็มไปด้วยพื้นน้ำ ขณะที่ประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณที่ลุ่มต่ำ ริมคลองเมม ได้เริ่มทยอยเก็บสิ่งของขึ้นมาไว้ริมถนน บริเวณบ้านวังขี้เหล็กแล้ว

ชาวบ้านวังขี้เหล็ก ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม กล่าวว่า น้ำจากจังหวัดสุโขทัย ได้เริ่มเข้ามาในพื้นที่ อ.พรหมพิราม ประมาณ 2 วันแล้ว และได้เริ่มปล่อยน้ำเข้าทุ่งบางระกำโมเดล ช่วงเย็นวันที่ 26 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ส่งผลกระทบกับชาวบ้านที่อาศัยริมแม่น้ำยม ที่จะต้องขนของมาอาศัยอยู่ที่สูง เป็นการชั่วคราว

ข่าวที่น่าสนใจ

“อนุทิน” ยืนยันโควตาครม.ภูมิใจไทย นิ่งสงบ ไม่มีสำรองแน่นอน

“กรมชลประทาน” เร่งบริหารจัดการน้ำป้องกัน “เมืองสุโขทัย” กำชับเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

เพจดังแฉ “ปลัด” สุดกร่าง “ชักปืนจี้เด็กเสิร์ฟ” ก่อนกระทืบนอกร้านเหล้า บาดเจ็บสาหัส

นายชำนาญ ชูเที่ยง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานพิษณุโลก เปิดเผยว่า สถานการณ์แม่น้ำยม เวลาประมาณ 07.00 น. วันนี้ ที่สถานีวัดน้ำ Y.14 A อ.ศรีสัชนาลัย จ.สฺโขทัย มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,701 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ( เข้าสู่สถานการณ์แนวโน้มอุทกภัยในระดับวิกฤต คือ มากกว่า 1,200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที ขึ้นไป) ปริมาณน้ำยังไม่ไหลผ่านสูงสุด และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยมีการระบายน้ำเข้าสู่คลองหกบาท (คลองแม่น้ำยมฝั่งขวา) ในปริมาณ 480 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยแบ่งการระบายน้ำไปทางคลองผันน้ำแม่น้ำยม – แม่น้ำน่าน ปริมาณ 220 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที และระบายลงสู่ แม่น้ำยมสายเก่า มาทาง อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ในปริมาณ 260 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที โดยภาพรวมมีน้ำจากจังหวัดสุโขทัย เข้ามาในพื้นที่ จ.พิษณุโลก แล้ว กว่า 150-200 ล้านลูกบาศก์เมตร

ทางชลประทานได้เร่งผันน้ำไปทางคลอง DR2.8 ได้ผันน้ำ ลงสู่แม่น้ำน่าน ทำให้มีน้ำในแม่น้ำยม และระบายเข้าสู่ทุ่งบางระกำโมเดล มีมวลน้ำแล้วเกือบ 50 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ ประมาณ 20% แล้ว

ขณะที่ปริมาณน้ำที่ผันมาเพิ่มขึ้นในแม่น้ำยมสายเก่า ส่งผลให้มีความเสี่ยง การเกิดอุทกภัย น้ำเอ่อล้นตลิ่ง และน้ำไหลหลาก น้ำท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำ ที่อยู่ติดกับแม่น้ำยมสายหลัก และแม่น้ำยมสายเก่า ในเขต พื้นที่ ต.วังวน, ต.ตลุกเทียม, ต.ศรีภิรมย์, ต.พรหมพิราม, ต.หนองแขม และ ต.ท่าช้าง อ.พรหมพิราม , ต.บ้านกร่าง อ.เมือง , ต.บางระกำ, ต.คุยม่วง, ต.ชุมแสงสงคราม, ต.ท่านางงาม , ต.วังอิทก , และ ต.ปลักแรด อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก

ขณะนี้ได้เร่งการระบายน้ำสูงสุด ของอาคารชลประทาน ในแม่น้ำยมสายหลัก และแม่น้ำยมสายเก่า และเร่งเสริมคันคลองป้องกันน้ำเอ่อล้นตลิ่ง รวมถึงเริ่มรับน้ำเข้าทุ่งบางระกำ เพื่อรองรับสถานการณ์แม่น้ำยม ที่วิกฤตเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง แจ้งเตือน ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เฝ้าระวังดังกล่าวโดยเฉพาะที่อาศัยอยู่ใกล้กับตลิ่งแม่น้ำ ให้ติดตามสถานการณ์ พร้อมเฝ้าระวัง และเตรียมความพร้อมในการขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และระมัดระวังไฟฟ้าที่อยู่ในที่ต่ำน้ำท่วมถึง

สำหรับ “โครงการบางระกำโมเดล” เป็นโครงการปรับปฏิทินการเพาะปลูกในพื้นที่ลุ่มต่ำในเขตชลประทาน เพื่อใช้เป็นพื้นที่รองรับน้ำหลากและหน่วงน้ำ พื้นที่โครงการ 265,000 ไร่ ในเขต อ.พรหมพิราม อ.บางระกำ อ.เมือง และ อ.วัดโบสถ์ จ.พิษณุโลก และ อ.กงไกรลาศ จ.สุโขทัย โดยเริ่มทำการเพาะปลูกข้าวนาปีก่อนฤดูกาลปกติ มาเริ่มเพาะปลูกตั่งแต่ 1 เมษายน และเก็บเกี่ยวก่อน ฤดูน้ำหลาก ไม่เกิน 15 สิงหาคม หลังจากนั้นจะงดทำการเพาะปลูกเพื่อเป็นพื้นที่รองรับน้ำ เป็นทุ่งหน่วงน้ำให้กับลุ่มน้ำเจ้าพระยาตอนล่าง ลดผลกระทบอุทกภัย สามารถหน่วงน้ำได้สูงสุด 400 ล้านลูกบาศก์เมตร ตั้งแต่ 15 สิงหาคม ถึง 30 พฤศจิกายน และเริ่มทำการเพาะปลูกข้าวนาปรังรอบใหม่ ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2567 เป็นต้นไป

จ.สุโขทัย, จ.พิษณุโลก, ทุ่งบางระกำโมเดล, ชลประทาน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง