ศึกหนัก บุรุษนิรนาม ยังคงเดินหน้าเล่นงาน ‘เพื่อไทย’ หวังปิดเกม ‘อุ๊งอิ๊ง’

บุรุษนิรนาม ยังคงเดินหน้า เล่นงาน พรรคเพื่อไทยและนายกรัฐมนตรีอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดยื่นกกต.เอาผิดกรรมการบริหารพรรค และหวังปิดเกม "อุ๊งอิ๊ง" ด้วยข้อหาเดียวกับ "เศรษฐา"

ศึกหนัก บุรุษนิรนาม ยังคงเดินหน้าเล่นงาน ‘เพื่อไทย’ หวังปิดเกม ‘อุ๊งอิ๊ง’  Top News รายงาน 

 

 

อุ๊งอิ๊ง

ข่าวที่น่าสนใจ

สำนักข่าวอิศรา อ้างว่าได้รับการเปิดเผยจากผู้ร้องเรียนคนเดิมว่า ได้ไปยื่นร้องเรียนต่อ คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. เพิ่มอีก 2 เรื่องในวันนี้ คือ 1. ขอให้นายทะเบียนพรรคการเมือง เสนอคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อออกคำสั่งให้คณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ และ 2. ขอให้คณะกรรมการการเลือกตั้งใช้อำนาจยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อวินิจฉัยความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ว่าต้องสิ้นสุดลงหรือไม่ เนื่องจากอาจเป็นผู้ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และอาจมีพฤติกรรมที่ฝ่าฝืนต่อมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ปฏิบัติหน้าที่ตามคำร้องที่ 2

 

ผู้ร้องคนเดิม ระบุว่า คำร้องที่ 2 และที่ 3 ใช้ฐานแห่งข้อเท็จจริงเดียวกันกับที่ศาลรัฐธรรมนูญใช้วินิจฉัยให้นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี พ้นจากตำแหน่ง ตามที่สำนักข่าวอิศรานำเสนอไปแล้ว

โดยคำร้องที่ 2 เป็นเรื่องคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยอาจต้องพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ ซึ่งมาจากข้อเท็จจริงว่า คณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย เห็นชอบหรือยินยอมให้นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น เสนอแต่งตั้งนายพิชิต ชื่นบาน เป็นรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่านายพิชิต ชื่นบาน ขาดคุณสมบัติหรือมีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่งรัฐมนตรี จึงเป็นการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ที่ไม่เป็นไปตามข้อบังคับพรรคเพื่อไทย พ.ศ. 2561 เรื่องการคัดเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ซึ่งกำหนดไว้ในข้อ 112 ว่า “ การคัดเลือกบุคคลให้ดำรงตำแหน่งประธานสภาผู้แทนราษฎร รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ประธานคณะกรรมาธิการและกรรมาธิการสามัญของสภาผู้แทนราษฎร รัฐมนตรี ที่ปรึกษา เลขานุการรัฐมนตรี และข้าราชการการเมืองอื่น ให้พิจารณาจากบุคคลที่มีความรู้ความสามารถที่เหมาะสมกับตำแหน่ง ซื่อสัตย์สุจริตและมีคุณธรรม จริยธรรม โดยให้สมาชิกมีส่วนร่วมอย่างกว้างขวางในการดำเนินการดังกล่าว ทั้งนี้ ตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่คณะกรรมการบริหารกำหนด ”และขัดต่อพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ ว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ.2560 มาตรา 21 วรรคหนึ่ง ที่บัญญัติว่า “ พรรคการเมืองต้องมีคณะกรรมการบริหารพรรคการเมืองเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินกิจกรรมของพรรคการเมืองให้เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ กฎหมาย นโยบาย และข้อบังคับของพรรคการเมือง มติของที่ประชุมใหญ่ของพรรคการเมือง รวมตลอดทั้งระเบียบ ประกาศ และคำสั่งของคณะกรรมการ ซึ่งต้องกระทำด้วยความรอบคอบ ระมัดระวัง และซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน และต้องให้สมาชิกมีส่วนร่วมและรับผิดชอบอย่างแท้จริงในการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง และการคัดเลือกสมาชิกหรือบุคคลซึ่งมีความรู้ความสามารถ ซื่อสัตย์สุจริต และมีคุณธรรม จริยธรรม เข้าสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือตำแหน่งอื่น หรือเพื่อแต่งตั้งเป็นผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

 

โดยคณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยไม่อาจกล่าวอ้างว่าได้มอบอำนาจให้บุคคลหนึ่งบุคคลใดดำเนินการแทนได้ ซึ่งนอกจากอาจจะขัดต่อข้อบังคับของพรรค และพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าวแล้ว ยังเป็นการกระทำที่อาจฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรงของกรรมการบริหารพรรค ซึ่งเป็นมาตรฐานทางจริยธรรมเดียวกันกับที่ใช้บังคับกับ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา และคณะรัฐมนตรี อันเป็นอำนาจของนายทะเบียนพรรคการเมือง ที่จะเสนอคณะกรรมการการเลือกตั้ง มีคำสั่งให้คณะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทยพ้นจากตำแหน่งทั้งคณะ

 

ส่วนคำร้องที่ 3 เป็นเรื่องที่นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีบางคนในรัฐบาลที่กำลังจัดตั้ง ซึ่งเคยบกพร่องในการปฏิบัติหน้าที่ในฐานะกรรมการบริหารพรรคเพื่อไทย ตามคำร้องที่ 2 อาจทำให้เป็นผู้ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และอาจเป็นผู้มีพฤติกรรมอันเป็นการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 (4) และ (5) อันอาจทำให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลง ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ซึ่งเป็นอำนาจของคณะกรรมการการเลือกตั้งที่จะยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญเพื่อวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม

 

ผู้ร้องรายนี้ ยังระบุด้วยว่า การยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นการใช้สิทธิในฐานะปวงชนชาวไทยที่เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย รัฐธรรมนูญบัญญัติให้มีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีสิทธิติดตามเร่งรัดให้รัฐทำหน้าที่ของรัฐในการดูแลให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 51 การยื่นเรื่องต่อหน่วยงานของรัฐมิได้ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย แต่ช่วยให้บ้านเมืองสงบสุขภายใต้กฎเกณฑ์ของสังคม โดยการได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศของพรรคการเมืองเป็นไปโดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และหลักนิติธรรม

 

ผู้ร้องรายนี้ ยังระบุด้วยว่า การยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง เป็นการใช้สิทธิในฐานะปวงชนชาวไทยที่เป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตย รัฐธรรมนูญบัญญัติให้มีหน้าที่พิทักษ์รักษาไว้ซึ่งการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีสิทธิติดตามเร่งรัดให้รัฐทำหน้าที่ของรัฐในการดูแลให้มีการปฏิบัติตามกฎหมายและบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 51 การยื่นเรื่องต่อหน่วยงานของรัฐมิได้ทำให้บ้านเมืองวุ่นวาย แต่ช่วยให้บ้านเมืองสงบสุขภายใต้กฎเกณฑ์ของสังคม โดยการได้มาซึ่งอำนาจในการปกครองประเทศของพรรคการเมืองเป็นไปโดยชอบด้วยรัฐธรรมนูญ กฎหมาย และหลักนิติธรรม

 

ขอบคุณข้อมูล : สำนักข่าวอิศรา

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

“เอกภพ” ได้ประกันตัว ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา ปมให้ข้อมูลเท็จดิไอคอน จ่อฟ้องกลับ
สามเชฟดังร่วมรังสรรค์เมนูเพื่อการกุศลทางการแพทย์
"ทนายบอสพอล" เผยเป็นไปตามคาด "เอก สายไหม" ถูกจับ จ่อดำเนินคดีหมิ่นประมาท เรียกค่าเสียหาย 100 ล้าน
ศาลออกหมายจับ 'เจ๊หนิง' พร้อมสามีและหลาน ร่วมกันแจ้งความเท็จ 'ภรรยาบิ๊กโจ๊ก'
อิสราเอลถล่มเลบานอนดับครึ่งร้อย
หมายจับ ICC กระทบอิสราเอลอย่างไร
เปิดวิสัยทัศน์ประธานเครือข่ายธุรกิจ Bizclub นครราชสีมาคนใหม่ “กิม ฐิติพรรณ จันทร์ประทักษ์”
เกาหลีใต้ชี้รัสเซียส่งระบบป้องกันภัยทางอากาศให้เกาหลีเหนือ
สหรัฐเมินไฮเปอร์โซนิครัสเซียลั่นไม่หยุดหนุนยูเครน
เมียเอเย่นต์ค้ายาบ้า ร้องถูกตร.รีด 5 แสน แลกปล่อยตัว พ่วงเรียกเก็บเงินรายเดือน

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น