"หมอยง" เปิดผลวิจัยการให้วัคซีน หลังสัมผัสเชื้อ "ฝีดาษลิง" ย้ำติดต่อไม่ง่ายเหมือนโควิด
ข่าวที่น่าสนใจ
ดังได้เคยกล่าวมาแล้ว วัคซีนป้องกันฝีดาษวานรโดยตรงที่ทำมาจากเชื้อ Mpox ไม่มี การใช้วัคซีนในปัจจุบันก็ใช้วัคซีนที่ทำมาจากหนองฝีดาษวัว ที่แต่เดิมใช้ป้องกันไข้ทรพิษ สามารถข้ามมาป้องกันฝีดาษวานรได้ และมีการพัฒนามาถึง Generation ที่ 3 เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของวัคซีน จึงทำให้มีราคาแพงมากๆ และปริมาณก็ไม่เพียงพอ
ประสิทธิภาพในการป้องกันฝีดาษวานร หลังจากให้วัคซีนไปแล้ว 14 วัน จะอยู่ที่ประมาณ 70 – 80 % แต่การให้เป็นการป้องกันหลังสัมผัสโรค ประสิทธิภาพค่อนข้างต่ำมาก จะเห็นได้ว่าตั้งแต่ป้องกันไม่ได้ จนถึงประสิทธิภาพสูงสุดประมาณ 20% ดังแสดงในรูป ที่มีการศึกษาและเผยแพร่ในวารสารวิทยาศาสตร์
โรคฝีดาษวานร ตามหลักการแล้วจะติดต่อได้ง่ายในผู้ที่สัมผัสอย่างใกล้ชิด เช่น นอนเตียงเดียวกัน มีเพศสัมพันธ์กัน ดังนั้นกลุ่มเสี่ยงที่ควรจะได้รับวัคซีน จะเป็นกลุ่มคนที่อยู่ในครอบครัวของผู้ที่ติดเชื้อ หรือกลุ่มรักร่วมเพศ กับคนที่ไม่รู้จัก หรือผู้ที่เดินทางไปในแอฟริกา
การติดต่อของโรคในปัจจุบัน ยังไม่ได้ง่ายแบบการติดเชื้อโควิด 19 ในคนทั่วไป ถึงแม้จะเป็นบุคลากรด่านหน้า เมื่อมาพิจารณา แบบองค์รวมแล้ว รวมทั้งภาระโรคและความรุนแรงของโรค ราคาของวัคซีน ความยากง่ายในการหาวัคซีน จึงยังไม่มีความจำเป็น ณ วันนี้ ที่จะต้องทำ ring vaccination นอกจากว่าในอนาคตพบว่าฝีดาษวานร มีคุณลักษณะเหมือนกับไข้ทรพิษ แน่นอนทุกคนควรจะได้รับวัคซีน.
ข่าวที่เกี่ยวข้อง