นายชานนท์ สุวรรณาภินันท์ ประธานชมรม STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมด้วย นางศิริพร กฤชสินชัย ประธานโค้ช STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดฯ และ ป.ป.ช.ประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นที่ อบต.บ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามกรณีมีร้านค้าโชว์หุ่นชุดไทยตั้งบนทางเท้า ทำให้กีดขวางทางเท้าและส่งผลต่อการจราจรบริเวณหน้าวัดไชยวัฒนาราม
นายชานนท์ สุวรรณาภินันท์ เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ อบต.บ้านป้อม อำเภอพระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามเรื่องการรุกล้ำพื้นที่สาธารณะและกีดขวางทางเท้าจนทำให้การจราจรติดขัด ซึ่งพบว่ามีร้านค้าเช่าพื้นที่หน้าวัดไชยวัฒนารามที่เป็นเจ้าใหญ่จำนวน 4 ราย และมีการปล่อยให้เช่าช่วงจนล่าสุดมีร้านค้าทั้งหมดเกือบ 40 ร้านค้า ล้วนมีการบุกรุกพื้นที่สาธารณะและทางเท้าทุกร้าน ขณะเดียวกัน ยังพบอีกว่ามีร้านค้าปลูกสร้างขึ้นมาใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ จากการได้ข้อมูลเพิ่มเติมจาก อบต.บ้านใหม่ จึงรับทราบว่าพื้นที่บริเวณดังกล่าวเป็นของสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดให้เช่าพื้นที่ ส่วนร้านกาแฟ และห้องสุขา สำนักศิลปากรที่ 3 เป็นผู้รับผิดชอบ รวมถึง ถนนตลอดสาย อบจ.เป็นผู้รับผิดชอบ ทั้งนี้ จากการพูดคุย นายก อบต.บ้านป้อม ได้ชี้แจงว่า ก่อนหน้านี้ได้เชิญผู้ประกอบการที่เป็นผู้เช่าตัวจริงและผู้ประกอบการเช่าช่วงมาหารือหลังมีการร้องเรียน หรือมีการทะเลาะวิวาทระหว่างผู้ประกอบการด้วยกัน รวมถึง ปัญหาการจราจร เนื่องจากมีการรุกล้ำจนทำให้รถนักท่องเที่ยวหรือประชาชนสัญจรไปมายากลำบาก ตลอดจนบ้านเรือนประชาชนบริเวณดังกล่าวได้รับผลกระทบ พร้อมกำชับไม่ให้มีการก่อสร้างร้านค้าเพิ่มขึ้นอีก โดยจะใช้ พ.ร.บ.ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างมาดำเนินการ
ชมรม STRONG – จิตพอเพียงต้านทุจริตจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ลงพื้นติดตามกรณีมีร้านค้าโชว์หุ่นชุดไทยตั้งบนทางเท้า ทำให้กีดขวางทางเท้าและส่งผลต่อการจราจรบริเวณหน้าวัดไชยวัฒนาราม
ข่าวที่น่าสนใจ
ด้านนางศิริพร กฤชสินชัย กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เพื่อขอความร่วมมือให้ทุกฝ่ายช่วยกันรักษาบ้านเมืองของเราให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และให้เกิดการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น เป็นหน้าเป็นตาให้กับจังหวัดและระดับประเทศ เพราะจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเป็นจังหวัดที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาท่องเที่ยวจำนวนมาก โดยเฉพาะวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์
ขณะที่ นางสาวภัคศรัณย์ โอสถสงเคราะห์ หัวหน้ากลุ่มงานป้องกันการทุจริต สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า การบูรณาการทำงานร่วมกันกับเครือข่าย เป็นโครงการปักหมุดพื้นที่เสี่ยงต่อการทุจริต (โครงการขยายผลต่อเนื่อง) กิจกรรมลงพื้นที่ติดตามการแก้ไขปัญหาเพื่อลดความเสี่ยงต่อการทุจริตของ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อย่างไรก็ตาม จากการรับทราบข้อมูลและจากการลงพื้นที่จริง จากนี้ไปจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือเพื่อหาข้อยุติว่าจะดำเนินการอย่างไรกับผู้ประกอบการและปัญหาที่เกิดขึ้นดังกล่าวให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างจริงจัง และไม่ให้เกิดผลกระทบกับฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
เกียรติยศ ศรีสกุล ผอ.ข่าว TOPNEWS ภาคกลาง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง