CCTV, AFP และรอยเตอร์สรายงานว่าเรือยามฝั่งจีนและฟิลิปปินส์ได้เกิดการพุ่งชนกันใกล้กับแนวสันดอนเซียนปิน หรือที่ฟิลิปปินส์เรียกว่าแนวสันดอนซาบิน่า ในทะเลจีนใต้เมื่อช่วงบ่ายวานนี้ (เสาร์ที่ 31 สค.) หลังเกิดเหตุ นายหลิว เต๋อจวิน โฆษกหน่วยยามฝั่งจีนเผยว่าเรือ BRP เทเรซ่า แม็กบานัว ของฟิลิปปินส์ตั้งใจพุ่งชนเรือยามฝั่งของจีน และว่าเรือของจีนได้ปกป้องอธิปไตยของตน พร้อมประณามกัปตันเรือฟิลิปปินส์ที่มีการขับเคลื่อนเรือในลักษณะอันตรายและไม่เป็นมืออาชีพ
ขณะที่นายเจย์ ทาเรียร่า โฆษกหน่วยยามฝั่งฟิลิปปินส์ก็กล่าวหาเรือยามฝั่ง 5205 ของจีนจงใจพุ่งเข้าชนเรือฟิลิปปินส์แบบตรงๆถึง 3 ครั้ง ทำให้หัวเรือด้านซ้ายและขวา รวมทั้งคานเรือได้รับความเสียหาย แต่ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด
ด้านสหรัฐ พันธมิตรสนิทของฟิลิปปนส์ออกมาประณามเรือยามฝั่งจีนทันที โดยแมทธิว มิลเลอร์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐออกแถลงการณ์เรียกร้องให้จีนเคารพและปฎิบัติตามกฎหมายระหว่างประเทศ รวมทั้งยุติพฤติกรรมที่เป็นอันตราย
ทั้งนี้การปะทะระหว่างเรือจีนและฟิลิปปินส์ถือเป็นครั้งที่ 5 ภายในเดือนเดียว ซึ่งโฆษกสภาการเดินเรือแห่งชาติฟิลิปปินส์กล่าวว่าจะส่งรายงานเรื่องดังกล่าวไปยังกระทรวงต่างประเทศฟิลิปปินส์เพื่อพิจารณาหามาตรการตอบโต้จีน พร้อมประกาศว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องรุนแรง และว่าเรือฟิลิปปินส์แล่นอยู่ในอาณาเขตของฟิลิปปินส์และไม่จำเป็นต้องขออนุญาตใคร
เฉพาะเดือนสิงหาคม เรือจีนและฟิลิปปินส์ชนกันใกล้แนวสันดอนซินเปียนหรือซาบีน่าถึง 2 ครั้ง ซึ่งนักวิเคราะห์กล่าวว่าเรือจีนพยายามที่จะรุกคืบเข้าไปในเขตเศรษฐกิจจำเพาะของฟิลิปปินส์และสุดท้ายก็จะอ้างกรรมสิทธิ์ในพื้นที่ดังกล่าว ทั้งนี้ฟิลิปปินส์ได้ตรวจพบเศษปะการังกองโตใกล้กับแนวสันดอนซาบีน่าภายในปีนี้ ทำให้สงสัยว่าจีนกำลังพยายามก่อสร้างฐานปฏิบัติถาวรที่นั่น ซึ่งหากสร้างสำเร็จ ฐานปฏิบัติดังกล่าวจะกลายเป็นฐานปฏิบัติการจีนที่อยู่ใกล้กับฟิลิปปินส์มากที่สุด เนื่องจากอยู่ห่างจากเกาะปาลาวันของฟิลิปปินส์ไปเพียง 140 กิโลเมตร
ก่อนหน้านี้ เรือจีนและฟิลิปปินส์มักปะทะกันใกล้แนวสันดอนโธมัสที่สองในหมู่เกาะสแปรตลี่ย์ ขณะที่แนวสันดอนซาบีน่าถือเป็นอีกจุดนัดพบสำหรับภารกิจส่งเสบียงให้กับทหารฟิลิปปินส์ที่แนวสันดอนโธมัสที่สอง