“ไพศาล” แนะ “นายกฯ” ตั้งผู้ช่วยรมต.มีความรู้ แก้คำครหา ครม.สืบสันดาน

“ไพศาล”ชี้ “ครม.สืบสันดาน” มีอยู่ในหลายประเทศ แนะตั้งผู้ช่วยรมต.มีความรู้ ความสามารถ เพื่อ แก้คำครหา

“ไพศาล” แนะ “นายกฯ” ตั้งผู้ช่วยรมต.มีความรู้ แก้คำครหา ครม.สืบสันดาน – Top News รายงาน

ไพศาล

เมื่อวันที่ 6 กันยายน 2567 นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkolโดยระบุว่า.. กบเลือกนาย ครม.มือใหม่หัดขับ กับครม.ที่เป็นรปภ. จะเอาอย่างไหน
คณะรัฐมนตรีจัดตั้งเรียบร้อยแล้ว หลังเข้าเฝ้าถวายสัตย์ในวันนี้ ก็ถือว่าคณะรัฐมนตรีนี้สามารถเข้ารับหน้าที่ได้ตามที่รัฐธรรมนูญบัญญัติ

แต่ขณะนี้กำลังเผชิญหน้ากับวาทกรรมหลากหลาย เช่น เรียกคณะรัฐมนตรีชุดนี้ว่า ชุดผู้สืบสันดานบ้าง หรืออย่างอื่นบ้าง
อย่าไปใส่ใจอะไรมากนัก เป็นการพูดเอามัน หาคุณค่าและความหมายใดๆไม่ได้เลย คำว่าผู้สืบสันดานไม่ใช่คำหยาบหรือคำใหม่ แต่เป็นคำเก่ามีอยู่ในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หมายถึงทายาท ซึ่งทายาททางการเมืองในประเทศไทยของเรานั้นมีมานานแล้ว ที่เขาเรียกว่าบ้านใหญ่นั่นแหละคือลัทธิทายาททางการเมือง ที่ลงลึกมาถึงชั้นลูกชั้นหลานชั้นเหลนกันแล้ว ก็ไม่เห็นเป็นที่อัศจรรย์อันใด

ในต่างประเทศไม่ว่าสหรัฐ หรืออินเดีย หรืออังกฤษเขาก็มีผู้สืบสันดานแบบนี้เช่นตระกูลเคนเนดี้ และตระกูลคานธีเป็นต้น เฉพาะของอังกฤษนั้น ให้สืบทอดตำแหน่งทางการเมืองในตระกูลเดียวกันได้ด้วย โดยเฉพาะสมาชิกวุฒิสภาหรือ house of lord เป็นการสืบทอดตำแหน่งทางถ่ายสายเลือดด้วย
จึงไม่เห็นเป็นที่อัศจรรย์อันใด

 

 

ข่าวที่น่าสนใจ

เมื่อลัทธิบ้านใหญ่ทางการเมืองของประเทศไทยเป็นอย่างนี้ ก็ย่อมส่งผลต่อรัฐบาลและคณะรัฐมนตรีด้วย เพราะเมื่อมีลูกมีหลานมีเหลนมาเป็นส.ส.นักการเมืองแล้วคนเหล่านี้ก็ย่อมเข้าสู่อำนาจทางการเมืองไม่วันใดก็วันหนึ่ง และวันนี้ก็มีความชัดเจนว่า ระบบลูกหลานทางการเมืองนั้นปรากฏตัวขึ้นชัดเจนแล้ว   ถึงอย่างไรเสียก็ไม่เลวร้ายไปกว่าเอา รปภ.มาเป็น นักบิน ในระบบรัฐประหาร
แต่นั่นไม่สำคัญเท่ากับ ประสบการณ์ความรู้ความสามารถว่าเป็นอย่างไร ซึ่งสำคัญกว่าเพราะบังเกิดผลแก่ประเทศชาติและประชาชนโดยตรง

ซึ่งกล่าวได้ว่า คณะรัฐมนตรีอุ๊งอิ๊ง1นี้ เป็นคณะรัฐมนตรี ชุดมือใหม่หัดขับ เพราะจำนวนหนึ่งอายุยังน้อยและมือใหม่ ซึ่งตรงนี้สำคัญกว่า ว่าจะมีความสามารถในการบริหารราชการแผ่นดิน ให้บังเกิดประโยชน์สุขแก่มหาชนชาวสยามได้มากน้อยเพียงใด
แต่ข้อนี้ไม่ต้องห่วง เพราะว่าเมื่อตั้งคณะรัฐมนตรีแล้ว ยังมีกระบวนเสริม ที่ทำให้จุดอ่อนทั้งหลาย กลายเป็นความแข็งแกร่งมากขึ้น เพราะมีตำแหน่งทางการเมืองอีกจำนวนมาก ร่วม1,000ตำแหน่งที่จะมาเสริมความเข้มแข็งให้กับคณะรัฐมนตรี ที่สำคัญคือ

1 ตำแหน่งที่ปรึกษานายกรองนายกและรัฐมนตรีประมาณ 45 ตำแหน่ง
2 ตำแหน่ง เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เลขาธิการรองนายกรัฐมนตรี และเลขานุการรัฐมนตรี อีกราว 45 ตำแหน่ง
3 ตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรี ประจำนายกรัฐมนตรีประจำรองนายกรัฐมนตรี และประจำกระทรวงต่างๆอีกราว 45 ตำแหน่ง
4 ผู้แทนการค้าอีก 5 ตำแหน่ง ซึ่งจะทำหน้าที่เป็นผู้แทนนายกรัฐมนตรี ในการเจรจา การค้าการลงทุนการท่องเที่ยวกับประเทศที่ได้รับกำหนด
5 กรรมการรัฐวิสาหกิจ 60 แห่งประมาณ 1,000 ตำแหน่ง

 

ช่วงนี้จึงต้องติดตามจับตาดูการแต่งตั้งตำแหน่งทางการเมืองเหล่านี้ ว่าจะถือเอา ประโยชน์สุขของประเทศชาติ และประชาชนเป็นที่ตั้ง โดยการเสริมคนดีมีฝีมือเข้าไปมากน้อยเพียงใด ตำแหน่งเหล่านี้ จะช่วยให้การทำงานของแต่ละกระทรวง ของรัฐมนตรีแต่ละคน และของคณะรัฐมนตรีโดยรวมมีความแข็งแกร่งสามารถอุดช่องว่าง ปิดช่องโหว่ และเสริมจุดแข็งได้เป็นอย่างดี เว้นแต่จะตาถั่วหรือมั่วบ้าตั้งคนไม่เอาไหนเข้าไป สนองความอยากทางการเมือง ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง!!!

ที่สำคัญคือขณะนี้ คุณทักษิณ ได้กลับมาว่าราชการหลังม่านอยู่แล้ว ท่านเป็นผู้มีสติปัญญาความรู้ความสามารถและประสบการณ์สูงมาก และยังถือพระบรมราชโองการ ที่กำหนดภารกิจว่า การพระราชทานอภัยโทษนั้น ให้นำความรู้ความสามารถมาช่วยเหลือประเทศชาติและประชาชน ซึ่งลุงตู่เป็นผู้ลงนามรับสนองพระบรมราชโองการเอง ก็ยอมนำความรู้ความสามารถที่สูงนั้น มาทำประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติและประชาชนได้

เมื่อมีพระบรมราชโองการเป็นหนังสือชัดเจนอย่างนี้ ใครจะยอมรับหรือใครจะเถียงก็ว่ากันเอง  เมื่อครั้งที่คุณทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรีนั้นประเทศไทยรุ่งเรืองเฟื่องฟูมาก วันหนึ่งนายกรัฐมนตรีจูหรงจีของจีน พบกับพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ รองนายกรัฐมนตรี ท่านก็ได้กล่าวว่า ประเทศไทยโชคดีมีนายกรัฐมนตรีที่แอคทีป และมีความสามารถสูงมาก มีพลังในการขับเคลื่อนประเทศชาติอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ซึ่งตอนนั้นได้ฟังก็ปลื้ม ในฐานะที่เป็นคนไทยด้วยกัน ซึ่งเป็นการยากที่นายกรัฐมนตรี จูหรงจีจะชื่นชมใครออกนอกหน้าแบบนั้น ลุงจิ๋วก็ได้แต่ขอบคุณท่านนายกจูหรงจี ทั้ง 2 ท่านนี้สนิทคุ้นเคยกันมาก ถึงขนาดพูดเล่นล้อกันเรื่องหัวล้านได้

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

สถาบันฯ สร้างสรรค์ และซอฟต์พาวเวอร์ ผลักดัน “จังหวัดจันทบุรี” เป็น “Soft Power” ระดับประเทศ
นพ.สสจ.เมืองคอนเตือน ระมัดระวังโรคฉี่หนู เมืองคอนสังเวยชีวิตแล้ว 8 ราย ชี้อำเภอฉวางสุ่มเสี่ยงมากที่สุด เสียชีวิตถึง 7 ราย -เตือนประชาชนประชาชนรักษาสุขภาพและเฝ้าระวังโรคที่จะมากับหน้าฝนนอกจากฉี่หนูแล้วให้ระมัดระวังให้โรคไข้เลือดออก
"เงินดิจิทัล เฟส 2 ได้วันไหน" ชัดเจนแล้ว พร้อมเช็ก เงื่อนไขเงิน 10,000 ล่าสุด
CPF สานต่อความมุ่งมั่นสร้างงานมีคุณค่าสำหรับคนพิการ หนุนวัฒนธรรมเคารพความแตกต่างและหลากหลาย
หมอวรงค์ นำกลุ่มคนรักชาติ ยื่นกว่าแสนรายชื่อ ร้องรบ.ยกเลิก MOU 44
กุ้ง อาหารทะเลยอดฮิต โปรตีนคุณภาพดี อร่อยด้วย ช่วยชาติได้
หมอถึงขั้นเข้าไปถามคนไข้ หลังพยาบาล เจาะเลือดไม่เข้า อึ้งห้อยพระเต็มคอ แต่ละองค์ราคาไม่ธรรมดา
“บิ๊กโจ๊ก” ด่าแรง “ทนายตั้ม” แอบอ้างชื่อ ลวง “เจ๊อ้อย” ไปเขื่อนเชี่ยวหลาน
“เจ๊อ้อย”โคตรแค้น “ทนายตั้ม” พาลูกเมียทัวร์ยุโรปถลุงเป็นล้าน แว้งกัด-คิดเอาชีวิต
รัฐบาลเพิ่ม 73,388 ที่นั่ง แก้ตั๋วเครื่องบินแพงช่วงปีใหม่

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น