ผู้สื่อข่าวได้รับภาพคลิปวีดีโอผู้เสียหายได้เดินทางเข้าไปที่คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ย่านจอมเทียน ม.12 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จ.ชลบุรี และไปพบกับเซลล์ขายคอนโด ซึ่งเป็นคู่กรณีที่หลอกให้ซื้อคอนโด แต่สุดท้ายสร้างไม่เสร็จ ซึ่งผู้เสียหายได้วางเงินดาวน์ไปแล้ว ต่อมาทราบภายหลังว่าสัญญาของผู้เสียหายถูกยกเลิกไปเอง แต่ผู้เสียหายไม่ได้เซ็นสัญญามีการถูกปลอมแปลงลายเซ็นต์ขึ้นมาเองเพื่อยึดเงินดาวน์ 1,002,500 บ.โดยเงินทั้งหมด ผู้เสียหายไม่ได้รับคืนแต่อย่างใด แต่พบว่าไปเข้าบัญชี ของพนักงานเซลล์ขายคอนโด และเมื่อถามตามในคลิปปรากฏว่าได้โอนต่อไปให้หัวหน้าเซลล์ (ที่นั่งอยู่บริเวณหน้าคอม) จึงเกิดอารมณ์โมโห และได้มีการโต้เถียงตามคลิปวีดีโอที่ปรากฏ
ล่าสุด วันที่ 6 กันยายน 2567 ทีมข่าวได้ไปพบกับผู้เสียหายทราบชื่อต่อมาคือ นายพงษ์ณัฐธนา วงศ์เดชสกุล 33 ปี ได้เดินทางเข้าแจ้งความต่อ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา (สาขาย่อยโค้งดงตาล) ด้านผู้เสียหายเล่าให้ทีมข่าวฟังว่า ได้ไปซื้อทั้งหมด 3 ห้อง ของคอนโดแห่งหนึ่ง ย่านจอมเทียน เมื่อหลายปีที่แล้ว โดยวางเงินดาวน์ไป แต่กลับสร้างไม่เสร็จ เซลล์ขายจึงได้เสนออีกโครงการ ซึ่งตนเองไม่อยากได้ อยากได้เป็นเงินคืน ทางเซลล์จึงเสนอให้ขายเงินดาวน์
ซึ่งห้องแรกวางเงินดาวน์ไป500,000 บาท แต่ยอมยกเลิกสัญญาจึงได้เงินในราคา250,000 บาท แต่ถูกโอนเข้ามาจริง เพียงแค่ 198,000 บาท อีก 52,000 บาท ขอค้างเอาไว้ ส่วนห้องที่ 2 วางเงินดาวน์ราคา 700,000 บาท ซึ่งห้องและเงินยังอยู่ และห้องที่ 3 ที่เกิดเรื่องวางเงินดาวน์ไป 1,000,000 บาท ซึ่งห้องนี้พบว่าถูกปลอมแปลงเอกสารสัญญายกเลิก พร้อมลายเซ็นของผู้เสียหาย โดยที่ตนเองไม่ทราบเลย จนกระทั่งมารู้อีกทีว่าห้องถูกขายไปแล้ว และเงินก็ไม่ได้รับคืน
โดยทางบริษัทได้ขายกรรมสิทธิ์การจองห้องของตนและออกโฉนดที่ดินให้กับนางศิริพร (ผู้ซื้อคอนโด) เป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์อย่างถูกต้อง ตนจึงเดินทางไปที่คอนโดเพื่อ พูดคุยกับเซลล์ขาย ปรากฏว่าจะขอไกล่เกลี่ย แต่ตนไม่ยอมจึงเป็นไปตามคลิปดังกล่าว ซึ่งเมื่อทราบเรื่องก็รู้สึกเสียใจ กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมทั้งจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด คาดว่ามีผู้เสียหายอีกเยอะก็อยากให้ผู้เสียหายรายอื่นๆติดต่อมาหาตนเองเพื่อรวบรวมและดำเนินคดีกับเซลล์คนดังกล่าว
ด้าน น.ส.เก๋ (นามสมมติ) ได้เผยกับผู้สื่อข่าวว่า ในตอนนั้นตนได้ทำงานร่วมกันกับบริษัทนี้อยู่ ทางหัวหน้า เขารู้เรื่องเอกสาร และรายละเอียดทั้งหมดที่ต้องทำ เพราะเขารู้อยู่แล้วว่า เงินที่อยู่ตรงนั้นจะไม่สามารถดึงออกมาได้ ตนก็ไม่รู้ว่ามีคนอื่นทำแบบนี้ด้วยหรือไม่ แต่ตนทำเรื่องนี้กับผู้เสียหายแค่คนเดียว รวมทั้งเอกสารทั้งหมดที่ได้ทำการดาวน์คอนโดนั้น เซลล์ขายคอนโดแต่ละคนจะถือเอกสารของใครของมันทำให้ไม่ทราบว่ามีผู้เสียหายกี่คนแล้ว พร้อมทั้งตนเคยเตือนกับทางหัวหน้าแล้วว่าบางทีลูกค้าโทรมาสอบถามถึงความคืบหน้าของการจองดาวน์คอนโดนี้
เราไม่สามารถที่จะโกหกลูกค้าได้ แต่ทางหัวหน้าได้เอ่ยมาว่าได้ทำการผ่อนจ่ายให้กับลูกค้าแล้วเป็นบางส่วน ตนก็ไม่ได้เอะใจอะไร แต่ในตอนนี้ตนก็ทราบแล้วว่า หัวหน้าได้ทำการผ่อนจ่ายไม่มากนัก ที่ตนได้เปิดเผยข้อมูลให้กับทางผู้เสียหายเพราะว่า ตนเองก็โดนทางบริษัทกดดันไม่ยอมจ่ายเงินเดือนพร้อมค่าคอมมิชชั่น และ ทางผู้เสียหายได้โทรมาร้องเรียนกับตน ซึ่งทางฝ่ายขายก็ได้ทำการเช็คข้อมูลทั้งหมดทำให้ทราบว่า เงินของลูกค้าได้ถูกโยกออกไปหมดแล้ว
อย่างไรก็ตามตนก็ ต้องบอกลูกค้าเพราะตนบริสุทธิ์ใจและไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเงินในก้อนนี้อยู่แล้ว แต่ในเอกสารที่ทำเป็นชื่อของตนทั้งหมดเพราะหัวหน้าเป็นผู้สั่งให้ทำ ในตอนนี้ตนมีความรู้สึกกังวลและหวาดกลัวเพราะว่าตนเป็นผู้ที่รู้ข้อมูลรายละเอียดทั้งหมด แต่ตนก็ได้นำมาบอกกับผู้เสียหาย รวมถึงทั้งเส้นทางทางการเงินทั้งหมดนั้นสามารถตรวจสอบได้
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งที่ตั้งอยู่ติดกับถนนจอมเทียนสายสอง ซึ่งเป็นที่ตั้งบริษัทขายคอนโด พบว่าประตูทางเข้าด้านหน้าปิด ภายในสำนักงานไม่มีพนักงาน ผู้สื่อข่าวจึงได้ติดต่อไปยังฝ่ายขาย ตามเบอร์ด้านหน้าที่ติดเอาไว้เพื่อจะให้ชี้แจงเกี่ยวกับกรณีที่เกิดขึ้น ซึ่งในสายเป็นพนักงานหญิง กับพูดสั้นๆว่า “ไม่สะดวกคุย” จากนั้นได้มีการตัดสายทิ้งไป