“หนุ่มชาวเขาเผ่าลาหู่” แค้นถูกหยามตบหัว คว้ามีดแทงเพื่อนร่วมวงเหล้า ดับสลด

"หนุ่มชาวเขาเผ่าลาหู่" แค้นถูกหยามตบหัว คว้ามีดแทงเพื่อนร่วมวงเหล้า ดับสลด

Top news รายงาน ประมาณ 23.05 น. (6 กันยายน 67) เจ้าหน้าที่ตำนวจ สภ.เมืองเชียงใหม่ พร้อมกู้ภัยเข้าตรวจสอบเหตุทะเลาะวิวาทมีผู้ถูกอาวุธมีแทงได้รับบาดเจ็บสาหัส ต่อมาเสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณสะพานลำคูไหว ย่าน ถ.ศรีปิงเมือง ซอย 3 ต.ช้างคลาน อ.เมืองเชียงใหม่

ที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่สมาคมกู้ภัยร่วมล้านนา พร้อมด้วยหน่วยกู้ชีพ ได้พยายามช่วยเหลือผู้บาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย ที่นอนอยู่บนพื้นมีเลือดไหลนอง จากการถูกอาวุธมีดแทงเข้าที่บริเวณใต้รักแร้ และชายโครงใกล้ราวนมด้านซ้าย โดยได้ทำการปั๊มหัวใจและพยายามห้ามเลือด แต่ไม่สามารถช่วยได้ทัน และคนเจ็บเสียชีวิตในที่สุด ส่วนทางผู้ก่อเหตุได้ยืนมอบตัวกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมกับเพื่อนร่วมวงเหล้าอีก 1 คน

ข่าวที่น่าสนใจ

ต่อมา ตำรวจพิสูจน์หลักฐานเชียงใหม่ ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบผู้ต้องหาที่ก่อเหตุ คือ นายพรชัย วิริยะไชยพันธ์ อายุ 32 ปี ชาวเขาเผ่าลาหู่ มีบ้านเดิมอยู่ อ.เชียงแสน จ.เชียงราย สภาพอาการมึนเมา ถูกทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจับล็อคใส่กุญแจมือไขว้หลังนั่งอยู่ใกล้บริเวณจุดเกิดเหตุ นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวพยานซึ่งเป็นเพื่อนร่วมวงเหล้าไว้ได้อีก 1 คน คือ นายยุทธนา แสนคะเจอ อายุ 30 ปี โดยบริเวณจุดเกิดเหตุพบขวดเหล้าขาว แก้วเหล้า และอาหารวางอยู่ พร้อมกับมีหยดเลือดจำนวนมากไหลเป็นทางยาวตั้งแต่ริมถนน เข้าไปตามเส้นทางในหมู่บ้าน ระยะทางประมาณ 100 เมตร

ส่วนผู้เสียชีวิต คือ นายณัฐวุฒิ จะโจ๊ะ อายุ 23 ปี สภาพศพถูกอาวุธมีดแทงเข้าที่ชายโครงใกล้ราวนม และรักแร้ด้านซ้าย เป็นแผลลึก บริเวณด้านหลังมีรอยถูกอาวุธมีดฟันอีก 1 แผล มีเลือดไหลนองเต็มพื้น นอกจากนี้ภายในบ้านที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบมีดทำครัว ที่ใช้ก่อเหตุ ความยาวรวมด้ามประมาณ 29 เซนติเมตร

สอบสวน นายพรชัย ผู้ต้องหาก่อเหตุ ได้ให้การยอมรับสารภาพว่า เป็นคนลงมือใช้มีดก่อเหตุแทงผู้เสียชีวิตเองกับมือ โดยก่อนหน้านี้ตนได้นั่งกินเหล้าที่ร้านเหล้ากับนายยุทธนา กระทั่งร้านปิดก็ได้มานั่งกินเหล้ากันต่อที่ริมสะพานลำคูไหว ต่อมา นายสีแสง จะฟ๊ะ อายุ 47 ปี ซึ่งเป็นพ่อของผู้ตาย ออกมาเจอทั้งคู่กำลังนั่งกินเหล้า จึงขอร่วมวงด้วย กระทั่งถึงเวลาประมาณ 2 ทุ่ม นายณัฐวุฒิ (ผู้เสียชีวิต) ที่เป็นลูกชายได้กลับมาจากข้างนอก และมาเห็นพ่อเมานอนอยู่ริมถนน ก็ได้เกิดความโมโหเพราะเข้าใจว่าตนกับเพื่อนชวนพ่อของผู้ตายกินเหล้า ก่อนจะมาตบหัวตนกับ นายยุทธนา พร้อมด่าทอต่างๆ นานา

 

จากนั้นทาง นายณัฐวุฒิ (ผู้เสียชีวิต) ได้อุ้มนายลีแสง ผู้เป็นพ่อกลับไปที่บ้าน ตนกับนายยุทธา จึงได้นั่งกินเหล้ากันต่อ แต่ผู้ตายได้ออกมาหาอีก แล้วมาพูดจาข่มขู่บังคับให้ตนไปซื้อเหล้า ซื้อข้าว ให้กิน จึงทำให้ตนเกิดความไม่พอใจ ก่อนที่ตนจะพาผู้ตายไปซื้อข้าว ซื้อเหล้า แล้วกลับมานั่งกินกันตรงบริเวณสะพานที่เดิม หลังจากที่ผู้ตายกินจนอิ่มและเมาแล้ว ด้วยความที่ตนโมโหและแค้นใจที่โดนหยามก่อนหน้านี้ ผู้ตายไม่ให้เกียรติทั้งที่ตนอายุมากกว่ามาตบหัว เมื่อเห็นว่านายณัฐวุฒิ กินเหล้าจนเมาแล้ว จึงได้เดินไปหยิบมีดที่อยู่ในเบาะรถมา แล้วก็แทงเข้าที่บริเวณชายโครง นายณัฐวุฒิ (ผู้เสียชีวิต) ก็ได้วิ่งหลบหนีเข้าไปในหมู่บ้าน เพื่อขอความช่วยเหลือ ตนจึงได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามเข้าไป แต่พบว่านายณัฐวุฒิ ล้มนอนเลือดนองพื้น ขณะที่ชาวบ้านต่างพากันตื่นตกใจ จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงตนจึงยอมมอบตัวกับตำรวจ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ข่าวล่าสุด

"สุดาวรรณ" เยี่ยมชมชุมชนชาวเลสังกาอู้-วิถีวัฒนธรรมชาวเลอูรักลาโวยจ จ.กระบี่
สจ.ธรรมชาติฟ้องตรงอัจฉริยะเรียกค่าเสียหาย 10 ล้านบาท
อย.ตรวจพบสารอันตรายใน อาหารเสริม “กัมมี่” แบรนด์ดัง เร่งดำเนินคดีตามกม.ผู้ผลิต
กระบะสี่ประตูถอยชนกระบะแคปในปั้มน้ำมันแล้วหนีไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น สาววัย 41 ปี เจ้าของกระบะแคปหวังเพียงคำขอโทษ
ตระกูล "สิงห์โตทอง" ทิ้งกระจาด ข้าวสาร-อาหารแห้ง 1 พันชุด ย้อนรำลึก "อดีตสส.ดรงค์ สิงห์โตทอง" ผู้ก่อตั้งสมาคมกลุ่มอาชีพการเกษตรชลบุรี ในวันชาวไร่อ้อยชลบุรี
สมศักดิ์ เผย มี ปชช. ร่วมนับคาร์บ ลดป่วย NCDs แล้วกว่า 6.4 แสนคน เดินหน้าอีก 16จว.กลาง-ตะวันออก
กรมส่งเสริมสหกรณ์ขอขยายเวลาโครงการสนับสนุนสินเชื่อสถาบันเกษตรกรแปรรูปยางพาราอีก 10 ปี หวังเสริมสภาพคล่องต่อยอดธุรกิจให้สหกรณ์ชาวสวนยาง
ทบ.สั่งย้าย เจ้ากรมยุทธศึกษาทหารบก เซ่นปมทำร้ายร่างกายกำลังพล
บ.สยาม ควอลิตี้ สตาร์ช จำกัด จัดงาน “MODEL SMS 20R” ขยายพันธุ์ต้านทานโรคใบด่างมันสำปะหลัง ภายใน 5 ปี ชัยภูมิต้องปลอดจากการระบาดเป็นจังหวัดแรก
ตร.แจงชัด ติดข้อกม. ยังไม่ได้ตัว "เสี่ยโจ้ ปัตตานี" พ่อค้าน้ำมันเถื่อนใหญ่ พบเบาะแสหนีอยู่กัมพูชา

ดู LIVE รายการ

X

เราใช้ คุ้กกี้ เพื่อให้ทุกคนได้ประสบการณ์การใช้งานที่ดียิ่งขึ้น